จากที่ผู้นำสหรัฐเคยแสดงท่าทีต่อซาอุฯในการขอให้เพิ่มผลิตน้ำมัน เพื่อจะได้นำขายต่อในประเทศยุโรปในราคาแพงกว่าปกติ แต่ทางฝ่ายซาอุฯซึ่งยืนข้างรัสเซียปฏิเสธคำร้องขอดังกล่าวนั้น
ต่อมาวันที่ 09 ตุลาคม 2565 Blockdit WorldUpdate ได้โพสต์ข้อความโดยระบุที่มาจาก reuters และ wealth management ถึงสถานการณ์ระหว่างซาอุฯกับสหรัฐว่า
“ซาอุฯ ลดการถือครองพันธบัตรสหรัฐลงมา 36.7% แล้วโยกเงินไป ร่วมลงทุนกับรัสเซียโดยบริษัท Kingdom Holding ของเจ้าชายซาอุฯ ถือหุ้นใหญ่ ได้ทุ่มเงินลงทุนในกลุ่มบริษัทพลังงาน Gazprom , Rosneft และ Lukoil ของรัสเซีย เป็นโครงการการลงทุนระยะ 3 ปี ที่มีมูลค่า 3,400 ล้านดอลลาร์
โดยมีกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติของซาอุฯ ที่เป็นกองทุนเพื่อการลงทุนสาธารณะ (PIF) เข้าถือหุ้น 16.87% ในบริษัท Kingdom Holding ของเจ้าชายซาอุฯ เองอีกด้วย
ซาอุฯ และรัสเซีย เป็นผู้นำกลุ่ม OPEC Plus ซึ่งเป็นพันธมิตรที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2017 ระหว่างองค์กรของประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (OPEC) และผู้ผลิตที่เป็นพันธมิตร ดังนั้นรัสเซีย กับซาอุฯ จึงได้แบ่งปันผลกำไรกัน นั่นหมายถึงซาอุฯ และ รัสเซีย ที่ผลิตน้ำมันได้อันดับ 1 และ 2 ของโลกรวมกันวันละ 23 ล้านบาร์เรล กำลังแท็กทีมกันควบคุม Supply น้ำมันของโลก
สร้างระบบ “เปโตรรูเบิล-ริยัล-หยวน” แล้วละทิ้งเปโตรดอลลาร์ กลายเป็นทีมยึดครองตลาดน้ำมันโลก กีดกันสหรัฐ ออกจากอำนาจเปโตรดอลลาร์ไปเรื่อยๆ ส่งผลให้เงินทุนสำรองระหว่างประเทศทุกชาติต้องปรับตัวให้ค่อยๆ ทิ้งดอลลาร์ แล้วเพิ่มการถือครองหยวน รูเบิล โดยอัตโนมัติ เพื่อนำไปจ่ายค่าน้ำมันซาอุฯ-รัสเซีย และลดความเสี่ยงผันผวนจนขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยน
ล่าสุดกลุ่ม OPEC Plus ที่นำโดยซาอุฯ และรัสเซีย ฝ่ายจัดระเบียบโลกใหม่ ประกาศศึกรอยร้าวระดับโลก โดยลดกำลังการผลิตน้ำมันลง 2 ล้านบาร์เรล/วัน เพื่อสวนทางคำขู่สหรัฐ และคำขอจากยุโรป ที่ต้องการให้ผลิตน้ำมันขายสหรัฐ เพื่อที่จะเป็นยี่ปั้วเอาไปขายต่อยุโรป และทั่วโลกอีกที
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐ พยายามวิ่งเต้นอย่างหนักที่จะไม่ให้ OPEC Plus ลดกำลังการผลิตหวังพยุงราคาน้ำมันเบนซินให้ผ่านพ้นช่วงเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐฯ ในเดือนพฤศจิกายนนี้ ถ้าทำไม่ได้พรรคเดโมแครตจะแพ้การเลือกตั้งยับเยิน
เดือนที่ผ่านมาก็วิ่งไปหาซาอุฯ อีกครั้ง เพื่อขอให้ช่วยเพิ่มการผลิตน้ำมัน ไม่งั้นไบเดนและพรรคเดโมแครตจะพ่ายแพ้เลือกตั้ง แต่แล้วพวกเขาก็ได้ กินแห้วไม่สามารถข่มขู่ OPEC Plus ไม่ให้ลดกำลังการผลิตได้
สหรัฐฯยังข่มขู่จะคว่ำบาตรไม่ขายอาวุธให้ซาอุฯ และขู่จะถอนทหารอเมริกันออกจากซาอุฯ หวังให้กลัวอำนาจ แต่ซาอุฯ เฉยไม่สนใจเพราะมีเงิน จะเอาอาวุธอะไร จำนวนแค่ไหนรัสเซียขายไม่อั้น
ส่วนจีนกับซาอุฯ ก็สร้างโรงงานผลิตขีปนาวุธร่วมกันอยู่แล้วไม่ง้อ อีกทั้งรัสเซีย ก็พร้อมจะส่งทหารมาประจำการอารักขาซาอุฯ ได้ทันที เพราะมีฐานทัพในซีเรีย ที่มีทหารรัสเซีย ประจำการอยู่แล้วกว่า 30,000 นาย อาวุธหนัก ขีปนาวุธอีกเพียบ
ซาอุฯแสบมากบอกว่า หากสหรัฐฯ ต้องการให้น้ำมันในตลาดโลกมากขึ้น จะต้องเริ่มการผลิตน้ำมันด้วยตัวเอง ไม่ใช่ขอคนอื่น เพราะสหรัฐ ก็ผลิตน้ำมันเองได้ และเป็นผู้บริโภครายใหญ่ด้วยเช่นกัน
สหรัฐ เจ็บช้ำสั่งระบายทุบกระปุกสต็อคน้ำมันสำรองทางยุทธศาสตร์ฉุกเฉินสำหรับทำสงครามอีก 10 ล้านบาร์เรล ชาติจะตายเป็นตาย เจ๊งเป็นเจ๊ง ไม่สนขอพรรคไบเดนชนะเลือกตั้งไว้ก่อน
แต่ปริมาณ 10 ล้านบาร์เรลแค่นี้ เท่ากับรัสเซียผลิตน้ำมันแค่วันเดียวเอง จึงไม่ช่วยอะไรเลย มนต์ขลังมหาอำนาจคำขู่หมดลง ระเบียบโลกเก่าพังแล้ว”