มีรายงานหลังจากที่เกิดเหตุการณ์สะพานไครเมียโดนถล่ม โดยในเวลาต่อมา แม้ว่ายูเครนสารภาพว่าเป็นฝีมือทางรัฐบาล ที่ต้องการขู่ตอบโต้ไปยังรัสเซีย ทำให้ทางการรัสเซียได้เปิดการสอบสวนในทันทีต่อเหตุการณ์ขบวนรถบรรทุกน้ำมันระเบิดขึ้นบนสะพานไครเมีย ซึ่งเชื่อมดินแดนไครเมีย ที่รัสเซียผนวกเป็นของตนเองในปี 2014 กับแผ่นดินใหญ่ของรัสเซีย จนเกิดไฟลุกไหม้ขึ้นและส่งกลุ่มควันปกคลุมท้องฟ้าเหนือสะพานดังกล่าว
โดยคณะกรรมการชุดสอบสวนของรัสเซียระบุว่า จากข้อมูลเบื้องต้น บนสะพานไครเมียจากฝั่งคาบสมุทรทามัน รถบรรทุกได้ระเบิดขึ้น ส่งผลให้รถบรรทุกน้ำมัน 7 คันที่ขนส่งโดยขบวนรถไฟได้ติดไฟขึ้น ขณะมุ่งหน้าไปยังไครเมีย และเป็นผลให้ทางเดินรถ 2 เลนบนสะพานดังกล่าวส่วนหนึ่งและโครงสร้างรถไฟส่วนหนึ่งถล่มพังลงสู่ทะเล โดยได้มีการส่งทีมเจ้าหน้าที่สอบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบแล้ว
ด้านนายมิไคโล โพโดลยัค ที่ปรึกษาของประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน เรียกความเสียหายนี้ว่าเป็น “จุดเริ่มต้น” แต่ไม่ได้กล่าวอ้างโดยตรงว่าเป็นฝีมือของยูเครน “ทุกสิ่งที่ผิดกฎหมายจะต้องถูกทำลาย ทุกอย่างที่ถูกขโมยไปจะต้องกลับคืนสู่ยูเครน ทุกอย่างที่รัสเซียยึดครองจะต้องถูกขับออกไป”
ล่าสุดทำให้รัสเซียเริ่มตอบโต้กลับอีกครั้ง โดยในกลุ่มเฟซบุ๊ก Pro Russian-Chinese & World news แอดมิน Yuttana Phattanapredee ได้โพสต์คลิปวีดีโอ ในสมรภูมิระหว่างรัสเซีย-ยูเครน พร้อมระบุข้อความว่า หน่วยทหารปืนใหญ่รัสเซียยิงปืนใหญ่อัตตาจรสายพาน 2S7 Pion 203 mm. โจมตีต่อตำแหน่งกองทัพยูเครนในภูมิภาคดอนบาส
ทั้งนี้การโจมตีดังกล่าว เกิดขึ้นในระยะเวลาที่มีเหตุโจมตีสะพานไครเมีย จึงจับให้น่าจับตาอีกครั้งว่า รัสเซียจะเดินเกมเอาคืนกรณีนี้อย่างไร เนื่องจากเป็นการเปิดฉากทำลายจุดสำคัญ ที่รัสเซียเชื่อว่า หากเป็นฝีมือยูเครน ตามที่ ที่ปรึกษาของเซเลนสกีเปิดเผย และมีสหรัฐฯรู้เห็นอยู่เบื้องหลังด้วยนั้น ก็อาจจะทำให้ปูตินยกระดับสงครามและการโจมตีที่หนักขึ้นเรื่อย ๆ