จากที่วันนี้ 08 ตุลาคม 2565 Blockdit World Update เปิดเผยถึงประวัติความเป็นมาของอาวุธที่ทรงพลังอย่างรถถังและรถหุ้มเกราะ ซึ่งในสถานการณืยูเครนก็มีการนำยุทโธปกรณ์ดังกล่าวมาใช้ทั้งจากฝ่ายรัสเซียและยูเครนโดยพันธมิตรนาโต้
สำหรับเนื้อหาที่ Blockdit World Update นำมาเผยแพร่ ได้ระบุแหล่งที่มาว่า “สนามรบยุคศตวรรษ 2000 แสดงให้เห็นว่าบทบาทของรถถังและรถเกราะนั้นเสียเปรียบมาก เมื่อเผชิญหน้ากับโดรนกามิกาเซ่ ปืนใหญ่นำวิถีด้วยโดรน หรือหุ่นยนต์ต่อสู้ที่ขับเคลื่อนด้วยตัวเองบนพื้นดิน ราชาแห่งสนามรบของรถถัง และยานเกราะ NATO กำลังจะสิ้นสุดลงพร้อมยอดขาย
ซึ่งรถถัง รถหุ้มเกราะรุ่นใหม่ๆ ของรัสเซียจึงออกแบบระบบต่างๆ มาให้ทนถึกใช้กับสภาพทะเลโคลนเหนียวได้ เพราะพื้นดินของรัสเซียฤดูนี้จะนิ่มเหลวเหมือนกับยูเครน
ส่วนอินเดียเอง ก็เสนอรถถัง T-90S Bhishma ของกองทัพอินเดีย เพื่อให้กองทัพรัสเซีย มาทดลองประสิทธิภาพกับทหาร รถถัง รถหุ้มเกราะของ NATO ในสมรภูมิยูเครน ว่าของใครจะอึดกว่ากัน
สิ่งที่ฝ่าย NATO วิตกกังวลอีกอย่างคือกลัวรัสเซีย จะตัดเส้นทาง น้ำจืด ที่จะไหลผ่านจากแคว้นซาโปริชเซีย เคอร์ซอน ไปยังแคว้นโอเดสซา ถ้าขาดน้ำจืดในฤดูหนาวนี้ ทั้งโอเดสซา และนิโคลาเยฟ จะขาดน้ำจนทนไม่ไหว
ขณะนี้เมืองสำคัญทางยุทธศาสตร์ชายแดนเขตยูเครน Bakhmut คงไม่รอดสูญเสียดินแดนเนินสูงกว้างใหญ่ให้ฝ่ายรัสเซียยึดค่อนข้างแน่แล้ว เพราะฝ่าย NATO ล่าถอยออกจากเมืองไปทางยูเครน ท่ามกลางฝนเหล็กห่าใหญ่ตามถล่มจนเสียกระบวนทัพ
เมื่อยึดพื้นที่จาก NATO และยูเครนสมบูรณ์ จัดการบริหารเมือง ก็จะถูกเปลี่ยนชื่อเมืองนี้ใหม่เป็นภาษารัสเซียว่า Artyomovsk เรื่องนี้คงเงียบทางสื่อเหมือนเคย และรัสเซียก็จะไม่ประกาศชัยชนะเพราะไม่ใช่วิสัยของรัสเซีย
จากนั้นจะถึงคิวเมือง Novgorod หรือ เมืองนิวยอร์ก เส้นทางขนส่งอาวุธของยูเครนมีความสำคัญอย่างยิ่งตอนนี้ถูกฝ่ายรัสเซียตัดเส้นทางนี้แล้ว การเสียดินแดน Bakhmut ของยูเครน จะกลายเป็นทยอยเสียดินแดนเพิ่มเป็นโดมิโน่ไปอีกหลายเมืองในอนาคต
ยังไม่นับเมืองลิมาน ที่ยูเครน และ NATO เพิ่งประกาศชัยชนะหุงข้าวกินยังไม่ทันสุก ตอนนี้นักรบฝ่ายรัสเซีย ได้ยึดชานเมืองปิดถนนเข้าออกไปแล้วเรียบร้อย
และกำลังช่วยอพยพชาวบ้านออกจากชานเมือง เพื่อส่งฝนเหล็กห่าใหญ่ประเคนเข้าใส่ที่ตั้งทางทหาร NATO จากสหรัฐ อังกฤษ โปแลนด์ ที่ติดอยู่ในเมือง ถูกบล็อคเส้นทางเสบียง น้ำ ยารักษาโรค เสื้อกันหนาวจะทนได้นานเท่าไรก่อนจะเป็นแท่งไอติม
เป็นบทพิสูจน์ว่า รัสเซีย เองก็มี ขงเบ้ง โดยไม่มีการประกาศชัยชนะรุกคืบยึดพื้นที่ได้ทุกวัน แต่เลือกยึดชัยภูมิที่ครองปัจจัย 4 สำหรับพลเมืองรัสเซียใหม่ 8.8 ล้านคน แล้วอดทนรอจังหวะสภาพอากาศเป็นใจ เพื่อได้เปรียบทางการรบที่ใช้กำลังทหารน้อยกว่า ปิดล้อม ถล่มไปเรื่อยๆ รัสเซียยึดหลัก ทหารสูญเสียแล้วเอาคืนไม่ได้ แต่เมืองเสียบางช่วงเวลาก็ยึดคืนได้
ช้าไม่ทันใจหน่อย แต่ฝ่ายตนไม่สูญเสียหรือสูญเสียน้อยสุด รอประกาศชัยชนะครั้งเดียวตอนทำประชามติแยกเอกราชจากยูเครนรอบใหม่เพิ่มอีก 4 แคว้นรวดไปเลย ศึกนี้พิสูจน์สติปัญญาว่ากุนซือสงครามโลกตะวันตก กับโลกตะวันออก ใครจะปราดเปรื่องกว่ากัน”
