ท่ามกลางสงครามข่าวสารที่สื่อตะวันตกโหมกระหน่ำ ว่ารัสเซียพลาดท่าและกำลังพ่ายแพ้ เซเลนสกี้และไบเดนก็โยนประเด็น “อมาเกตดอน” สงครามนิวเคลียร์ใส่โลกทันทีโดยมีสื่อตะวันตกรับลูก รายงานข่าวรัวๆว่ารัสเซียกำลังจะใช้นิวเคลียร์ทางยุทธศาสตร์ในยูเครนแล้ว ทางฝ่ายรัสเซียยืนยันว่าจะใช้ต่อเมื่อศัตรูเตรียมหรือมีการใช้ต่อรัสเซียก่อน
ด้านสมรภูมิสู้รบดุเดือด พบการปรากฏตัวของ NATO นั้นชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ไม่เพียงแต่ในแง่ของอาวุธและกระสุน เดนิส ปูชิลินหัวหน้าภูมิภาคโดเนตสก์ หรือดีพีอาร์ชี้ไปที่ทหารรับจ้างชาวโปแลนด์และอังกฤษจำนวนมากรวมตัวกันอยู่ในแนวหน้าของดอนบาส ซึ่งเคียฟหมายมั่นว่าจะยืดคืนสร้างขวัญกำลังใจให้ฝ่ายตน และเป็นผลงานขอเงินและอาวุธเพิ่มได้ การสู้รบแนวหน้าโดเนตสก์จึงดุเดือดและกำลังผสมนาโต้ทุ่มมาตรงนี้ค่อนข้างมาก แต่ตอนนี้กองกำลังพิเศษเชเชนพร้อมลุยอยู่ที่นั้นกว่า ๑๐,๐๐๐ คน ด้วยสไตล์รบเดือดห้าวหาญไม่ประณีประนอม
ก่อนหน้านี้รัสเซียเปิดเผยว่าพวกเขาใช้ขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียง Kinzhal ในยูเครนเพื่อทำลายคลังเก็บอาวุธทางตะวันตกของที่โอเดสซา ระยะหลังโอเดสซาเจอโดรนกามิกาเซ่เสียเป็นส่วนใหญ่
ล่าสุดอดีตประธานาธิบดีรัสเซียสายดุ ก็แพร่คลิปตรวจงานที่โรงผลิตขีปนาวุธอแวงการ์ดซึ่งเป็นนิวเคลียร์ทางยุทธศาสตร์ชนิดหนึ่งที่มีอานุภาพร้ายแรง แสดงให้เห็นว่า รัสเซียมีศักยภาพในการผลิตอาวุธทางยุทธศาสตร์เหนือชั้น ผลิตเองไม่ต้องซื้อจำนวนไม่จำกัด สวนกระแสข่าวว่า อาวุธรัสเซียมีแต่ของเก่าและกำลังหมดสต็อก ทั้งๆที่ความจริงยูเครนเป็นฝ่ายสูญเสียทั้งอาวุธและกำลังคน สภาพนี้เริ่มแพร่ในสังคมโซเชียลแบบปิดไม่มิด
นอกจากนี้ กองทัพรัสเซียยังใช้ เฮลิคอปเตอร์ต่อสู้รุ่นเอ็มไอ-๓๕ (MI-35)ในสมรภูมิ ควบคู่ไปกับขบวนรถถังเบาและคุ้มกันหน่วยส่งมอบยุทธภัณฑ์ทางทหาร
บินรบรุ่น ซู-๒๕(Su-25) และA-50 AEW (Airborne Early Warning)ของกองทัพอากาศรัสเซียยังเป็นพระเอก ทำการยิงขีปนาวุธเป็นคู่จากระดับความสูงต่ำ ลาดตระเวน กระทรวงกลาโหมรัสเซียเผยแพร่ภาพทางสื่อโซเชียลของรัสเซีย โดยแสดงให้เห็นการสู้รบในยูเครนที่ยังคงดำเนินต่อไป
วันที่ ๘ ต.ค.๒๕๖๕ สำนักข่าวทาซซ์และรัสเซียทุเดย์รายงานว่า รัมซาน คาดิรอฟ(Kadyrov) ผู้นำเชเชน เปิดเผยว่ากำลังพลของเชเชนที่มีส่วนร่วมในสมรภูมิยูเครน มีทหารราว ๑๐,๐๐๐ นายกำลังสู้รบที่แนวหน้าโดเนตสก์แล้ว และจากสื่อโซเชียลของเชเชนเผยแพร่ภาพข่าว นายทหารของเชเชนรายงานว่ากองกำลังพร้อมลุยศึกเคียฟ ๗๐,๐๐๐ นายรอคำสั่งเข้าพื้นที่
คาดิรอฟเน้นย้ำว่า “หน่วยข่าวกรองตะวันตกกำลังทำสงครามข้อมูล ซึ่งพยายามเสี้ยมเรา ทำให้รัสเซียเชื่อว่าสาธารณรัฐเชเชนไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของรัสเซีย เราได้พิสูจน์แล้วว่าเรา ชาวเชชเนีย เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวใหญ่ของรัสเซียที่ไม่อาจแบ่งแยกได้”
ไม่ต้องบอกก็รับรู้ได้ว่า หน่วยพิเศษเชเชน จะรุกรบดุเดือดแค่ไหนเมื่อใจเป็นหนึ่งเดียวกับรัสเซีย ต้องจับตากลยุทธ์การสู้รบทั้งกองกำลังหลักและหน่วยพิเศษที่วันนี้มีทั้งเชเชน, วาร์กเนอร์ คอแซค กำลังพลภาคพื้นดินที่น่าเกรงขามว่าจะประสานสู้กวาดล้าง กองกำลังผสมนาโต้และเคียฟสุดโต่งอย่างไร
ด้านเวทีการเมืองระหว่างประเทศ หลังจากปธน.เซเลนสกี้เรียกร้องให้นาโตใช้นิวเคลียร์โจมตีรัสเซียก่อน เพื่อขัดขวางมอสโกว์ไม่ให้ใช้อาวุธนิวเคลียร์’
รมว.ต่างประเทศรัสเซีย เซอร์เก ลาฟรอฟ (Sergei Lavrov) ตอบโต้ทันทีเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า การยุยงของเคียฟสร้างความเสี่ยงที่เกี่ยวกับการใช้อาวุธนิวเคลียร์อย่างแท้จริง สหรัฐฯ และพันธมิตรต่างก็มีส่วนรับผิดชอบต่อ “ความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นอย่างเป็นอันตรายในระดับโลก” เนื่องจากพวกเขาได้จัดหาอาวุธยุทโธปกรณ์ร้่ายแรงให้กับระบอบการปกครองของประธานาธิบดีวลาดิมีร์ เซเลนสกี ยูเครน ทั้งๆ ที่เขามีความทะเยอทะยานอย่างเปิดเผยของกลุ่มลัทธิทหารหัวรุนแรงสุดโต่ง” เขาเห็นด้วยกับปธน.มาครงแห่งฝรั่งเศษที่เคยกล่าว่า นาโต้และยุโรปสมองตายไปแล้ว

โฆษกเครมลินดมิทรี เปสคอฟ เฉ่งทันทีว่า โลกควรสังเกตการเรียกร้องของเซเลนสกี้ ในการโจมตีนิวเคลียร์เชิงป้องกันต่อรัสเซีย เนื่องจากคำกล่าวเหล่านี้เท่ากับการเรียกร้องให้เริ่มสงครามโลกครั้งใหม่ ซึ่งจะส่งผลกระทบร้ายแรงอย่างมหาศาล เขาเน้นว่าสหรัฐฯ และอังกฤษซึ่ง “ปกครองโดยพฤตินัยในเคียฟ” ควรรับผิดชอบต่อคำแถลงของเซเลนสกี้ครั้งนี้ด้วย
ฝั่งรัสเซียกล่าวโต้เซเลนสกี้ไม่ทันขาดคำ ปธน.โจ ไบเดนก็ออกมาประกาศอะมาเก็ตดอนที่สหรัฐ รับลูกเป็นปี่เป็นขลุ่ย
ปธน.โจ ไบเดนแห่งสหรัฐฯ ได้กล่าวสุนทรพจน์เกี่ยวกับการคุกคามของอาวุธนิวเคลียร์ในช่วงสงคราม ในงานระดมทุนเมื่อวันพฤหัสบดีที่ ๖ ต.ค.ที่ผ่านมา
ไบเดนประกาศกร้าวถึงความขัดแย้งในปัจจุบันในยูเครน โดยอ้างว่าปธน.ปูตินจะใช้ทุกวิถีทางเพื่อปกป้องรัสเซียและอาณาเขตแคว้นที่ผนวกใหม่ ว่าเป็นช่วงเวลานิวเคลียร์ที่อันตรายที่สุดนับตั้งแต่วิกฤตการณ์ขีปนาวุธของคิวบาเมื่อ ๖๐ ปีก่อน และสหรัฐจะทำทุกวิถีทางเพื่อหยุดยั้ง
รุ่งขึ้นทั้งเซเลนสกี้และทำเนียบขาว ออกมาแก้ตัวพัลวันว่า คำพูดของปธน.ไบเดนไม่ใช่มติหรือข้อมูลข่าวกรอง เป็นความเห็นส่วนตัว ด้านผู้นำยูเครนซัดสื่อว่าบิดเบือนเขาแค่ขอให้นาโต้คว่ำบาตรเพิ่ม ไม่ได้ขอให้ใช้นิวเคลียร์ แหมพูดว่าอะไรก็ไลฟ์สดซะขนาดนั้น ยังแก้ตัวไปน้ำขุ่นๆ
เป็นเช่นนี้ ชาวโลกก็ยังคงต้องระทึกกันต่อไปว่าฉากแนวรบยูเครนจะขยายไปถึงโปแลนด์หรือไม่ สหรัฐจะยอมแลกนุกส์กับรัสเซียจริงหรือเพราะฝ่ายรัสเซียเปิดชัดพร้อมคุย ไม่ลุยก่อน แต่ถ้าศัตรูขยับรัสเซียก็ไม่ยอมปล่อยผ่านแน่!???