คาบสมุทรเกาหลีระอุต่อเนื่องสมใจเมกา หลังรองประธานาธิบดีสหรัฐ กมลา แฮร์ริสเยือนเกาะหลีใต้และญี่ปุ่น และเพื่อต้อนรับวีไอพี เกาหลีเหนือจัดให้ ยิงขีปนาวุธ ICBM ข้ามเกาะญี่ปุ่น ส่งสัญญาณว่า เปียงยางกลัวซะที่ไหน ต่อให้สหรัฐรวมมือกับเกาหลีใต้และญี่ปุ่นก็ไม่หวั่นเพราะพึ่งตนเองได้ทางทหารในฐานะประเทศนิวเคลียร์แล้ว
ล่าสุดกองทัพอากาศเกาหลีเหนือได้ส่งเครื่องบินรบจำนวน ๑๒ ลำ ขึ้นบินซ้อมรบเหนือน่านฟ้าเฉี่ยวเกาหลีใต้ซ้ำ หลังยิงขีปนาวุธระยะไกล ซึ่งสามารถส่งตรงถึงเกาะกวมฐานทัพสหรัฐได้อย่างสบายๆ นับเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ ๓ ปี ที่ปฎิบัติการทางทหารติดๆกัน ด้านผู้นำญี่ปุ่น-เกาหลีใต้ ประกาศจับมือกันหาทางโต้ตอบเกาหลีเหนือ หลังจากก่อนหน้านี้เปิดเผยเอกสารระบุปักหมุดเกาหลีเหนือเป็นอริหมายเลข๑
วันที่ ๗ ต.ค.๒๕๖๕ สำนักข่าวยอนฮับ(Yonhap)ของเกาหลีใต้และรัสเซียทูเดย์ รายงานว่า เครื่องบินรบเกาหลีเหนือจำนวน ๑๒ ลำ ประกอบด้วยเครื่องบินขับไล่แบบไอพ่น ๘ ลำ และเครื่องบินทิ้งระเบิด ๔ ลำ ขึ้นบินซ้อมรบเหนือน่านฟ้าด้านที่ติดกับพรมแดนเกาหลีใต้เมื่อเวลาประมาณ ๑๔.๐๐ น. ตามเวลาท้องถิ่น
ทำให้กองทัพอากาศเกาหลีใต้ส่งเครื่องบินขับไล่แบบไอพ่นจำนวน ๓๐ ลำ เพื่อตอบโต้และป้องกันไม่ให้รุกล้ำน่านฟ้าของเกาหลีใต้ ทั้งนี้ คณะเสนาธิการร่วม (Joint Chiefs of Staff-JCS) ของเกาหลีใต้ประเมินว่ากรณีดังกล่าวเป็นการยั่วยุเพิ่มเติมของเกาหลีเหนือ หลังจากยิงทดสอบขีปนาวุธพิสัยกลางจำนวน ๔ ลูก ตกในทะเลญี่ปุ่น เมื่อวันที่ ๕ ต.ค.ที่ผ่านมา
เสนาธิการร่วมเกาหลีใต้ยืนยันไม่มีการปะทะกัน ในขณะที่เครื่องบินเกาหลีเหนือ ไม่ได้ข้าม”แนวปฏิบัติการทางยุทธวิธี”
กองทัพเน้นย้ำว่าเหตุการณ์ดังกล่าวถือว่าไม่ปกติอย่างมาก อันเนื่องมาจากขนาดของการฝึกซ้อมของเกาหลีเหนือ
ปธน.แห่งเกาหลีใต้ ยูน ซุกยอล(Yoon Suk-yeol) และนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ฟุมิโอะ คิชิดะได้พูดคุยกันทางโทรศัพท์ในบ่ายวันที่ ๖ ต.ค.สองวันหลังจากที่เกาหลีเหนือทดสอบขีปนาวุธที่ทางการโซลระบุว่าละเมิดมติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ น่าแปลกที่สหรัฐและเกาหลีใต้ทดสอบขีปนาวุธได้ แต่เกาหลีเหนือทำแล้วผิด
แหล่งข่าวของรัฐบาลญี่ปุ่น ระบุว่า ผู้นำของทั้งสองประเทศจะยืนยันความร่วมมืออย่างใกล้ชิด เพื่อตอบโต้ภัยคุกคามทางทหารของเปียงยาง ซึ่งจุดชนวนครั้งใหม่เมื่อวันอังคารโดยการยิงขีปนาวุธนำวิถีเหนือหมู่เกาะญี่ปุ่น
การยิงขีปนาวุธครั้งล่าสุดของเกาหลีเหนือมีขึ้นหลังจากที่ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และสหรัฐฯ ได้จัดให้มีการซ้อมรบต่อต้านเรือดำน้ำในน่านน้ำสากลที่อยู่ติดกับทะเลญี่ปุ่นเมื่อวันศุกร์ โดยการนำของกลุ่มเรือบรรทุกเครื่องบินสหรัฐฯ ที่มียูเอสเอส โรนัลด์ เรแกนเป็นหัวขบวน (USS Ronald Reagan) การซ้อมรบครั้งนี้ถือเป็นการฝึกครั้งแรกในรอบ ๕ ปี
เปียงยางได้ดำเนินการยิงขีปนาวุธจำนวนสูงสุดต่อเนื่องเป็นประวัติการณ์ในปีนี้ โดยจัดขึ้น ๖ ครั้งในช่วง ๑๔ วันที่ผ่านมา
ขีปนาวุธของเกาหลีเหนือที่ทดสอบครั้งล่าสุด อาจเป็นขีปนาวุธพิสัยกลาง อวาซอง-๑๒(Hwasong-12) มีระยะการยิง ๔,๖๐๐ กิโลเมตร ซึ่งเป็นระยะทางแนวนอนที่ยาวที่สุดที่ขีปนาวุธจากประเทศติดอาวุธนิวเคลียร์ทำได้ และเป็นระยะทางที่เพียงพอแล้วที่จะไปถึงเกาะกวมซึ่งเป็นที่ตั้งของฐานทัพหลักที่สำคัญของสหรัฐฯ ในภูมิภาคนี้
ก่อนที่เปียงยางจะยิงขีปนาวุธข้ามหัวญี่ปุ่น กระทรวงการต่างประเทศของเกาหลีเหนือได้แถลงประณามการกลับมาของเรือบรรทุกเครื่องบินของสหรัฐฯว่าเป็น“ภัยคุกคามร้ายแรงต่อเสถียรภาพของสถานการณ์ในคาบสมุทรเกาหลีและบริเวณใกล้เคียง” พร้อมกล่าวเสริมว่าขอประณามความพยายามใดๆ ที่นำโดยสหรัฐฯ ในการบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรใหม่ผ่านสหประชาชาติ
หลังทดสอบขีปนาวุธของเกาหลีเหนือเมื่อวันอังคารนายกฯ คิชิดะ ได้ต่อสายพูดคุยกับประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐฯ พันธมิตรด้านความมั่นคงที่ใกล้ชิดและเห็นร่วมกันว่า จะร่วมกันเพิ่มความสามารถในการยับยั้งและตอบโต้ฯเรียกว่ารายงานลูกพี่ทุกขั้นตอน
อย่างไรก็ตาม ความสัมพันธ์ระหว่างญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ ก่อนหน้านี้เสื่อมโทรมจนถึงระดับเลวร้ายที่สุดในรอบหลายทศวรรษ จากปัญหาแรงงานเชลยในช่วงสงครามและปัญหาดินแดนภายใต้รัฐบาลของมุนแจอิน
สัญญาณของการละลายความสัมพันธ์ได้มีขึ้นเมื่อเร็ว ๆ นี้ ตั้งแต่ประธานาธิบดีแห่งเกาหลีใต้ ยูน ซุกยอล ให้คำมั่นว่าจะใช้แนวทางที่มุ่งสานสัมพันธ์กับญี่ปุ่นในอนาคต
ในปลายเดือนกันยายน คิชิดะและยูนยืนยันเป้าหมายของประเทศของตนในการฟื้นฟู “ความสัมพันธ์ทวิภาคีที่มั่นคง” ในการประชุมนอกรอบอย่างไม่เป็นทางการ ที่สมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติในนิวยอร์ก การพูดคุยแบบนั่งต่อหน้ากันระหว่างผู้นำสองชาติครั้งนั้น ถือเป็นครั้งแรกตั้งแต่เดือนธันวาคม ๒๐๑๙
คงต้องจับตาดูต่อไปว่า พันธมิตรเกาหลีใต้และญี่ปุ่นจะจี๋จ๋ากันไปได้นานแค่ไหนจุดวาบไฟใหม่ที่คาบสมุทรเกาหลีจะร้อนระอุกว่าประเด็นไต้หวันหรือไม่ เนื่องจากจีนเล่นบทหนืดที่ไม่ค่อยถูกใจสายลุย ยืนยันตลอดว่าจีนจะรวมชาติเกาะไต้หวันด้วยหนทางสันติวิธี แต่ดูเหมือนทั้งลูกพี่อเมริกาและผู้นำใต้หวันจะไม่ยอมให้เกิดขึ้นอย่างแน่นอน เพราะทั้งคาบสมุทรเกาหลีและช่องแคบไต้หวันอยู่ห่างไม่ไกลกันเป็นเพื่อนบ้านกันแต่ต้องมารบกันเพราะยอมให้อำนาจภายนอกมาเสี้ยมโดยแท้!!!