ชาวเวลล์สุดทน! ลุกฮือขอแยกออกจาก UK ขณะที่ “ผู้นำอังกฤษ” ถูกสมาชิกพรรครุมยำกลางที่ประชุม ถูกไล่พ้นตำแหน่ง!
จากกรณีเมื่อช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา มีรายงานว่า น.ส.นิโคลา สเตอร์เจียน มุขมนตรีแห่งสกอตแลนด์ เสนอให้มีการจัดการลงคะแนนเสียงประชามติขอแยกตัวเป็นอิสระจากสหราชอาณาจักรเป็นครั้งที่ 2 ในวันที่ 19 ต.ค. 2566 โดยจะถามคำถามเดิมกับการลงประชามติในปี 2557 ว่า “สกอตแลนด์ควรเป็นประเทศเอกราชหรือไม่?” ขณะที่ ส.ส.ออสเตรเลีย และเครือข่ายตระกูลดังออกมาจุดกระแส แยกเอกราชเป็นสาธารณรัฐออสเตรเลียไม่ขอเป็นเครือจักรภพอังกฤษ
ต่อมาเมื่อวานนี้ (3 ตุลาคม 2565) ทาง Blockdit World Update ได้โพสต์ข้อความถึงกรณีที่เวลล์ ขอแยกเอกราช โดยระบุว่า ภายหลังพิธีพระบรมศพพระราชินีอลิซาเบธที่ 2 ปัญหาที่ซุกไว้ใต้พรมระยะหนึ่งของสหราชอาณาจักรเริ่มปริแตก ประเทศในเครือจักรภพเริ่มก่อหวอดแยกราชเป็นอิสระภาพจากอังกฤษ เช่น ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ สก็อตแลนด์ ไอซ์แลนด์
ล่าสุดคือเวลล์ กองทัพประชาชนปลดแอกชาวเวลล์เดินขบวนตามถนนในเมืองคาร์ดิฟฟ์ เมืองหลวงเพื่อสนับสนุนการแยกตัวเป็นเอกราชของเวลส์ ปีก่อนๆ ที่ผ่านมาก็ก่อม็อบแบบนี้มาตลอดแสดงถึงการสนับสนุนประชาชนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ส่วนในปี 2022 เป็นการเดินขบวนก่อม็อบครั้งที่ 2 สร้างกระแสแยกเอกราช ต่อจากครั้งแรกเมื่อเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา ในเมืองหลวงเวลล์
จัดการโดย All Under One Banner และ YesCymru มีการปราศัยกล่าวสุนทรพจน์โดยนักแสดงจาก House of the Dragon คือ Julian Lewis Jones นักแสดงและนักประพันธ์ Ffion Dafis อดีตผู้นำ Plaid Cymru Dafydd Wigley และอื่นๆ
ประชาชนชาวเวลล์ออกไปตามท้องถนนจำนวนมากเพื่อแสดงการสนับสนุนเวลส์ที่เป็นอิสระ ส่วนรัฐบาลสก็อตแลนด์มีแผนจัดทำประชามติแยกเอกราชในปีหน้า 2023
รัฐบาลกลางอังกฤษ ขณะนี้ตกในสภาพ “ระส่ำระสายอย่างหนัก” นอกจากการนัดหยุดงานของสหภาพแรงงานที่พากันคว่ำบาตรรัฐบาลจากอัตราเงินเฟ้อแล้ว ที่สร้างความหวั่นไหวเก้าอี้ร้อนให้รัฐบาลขณะนี้คือ กองทัพประชาชนปลดแอกชาวอังกฤษ ที่จำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ อย่างน่าแปลกใจ
ประชาชนเรือนหมื่น เรือนแสนคน ได้ยึดชัทดาวน์ทั้งเมืองเล็กและเมืองใหญ่ทั่วสหราชอาณาจักรอย่างเป็นระบบ พวกเขาไม่พอใจต่อวิกฤตค่าครองชีพขาดแคลนพลังงานราคาถูก อัตราเงินเฟ้อสูง ของแพง ราคาก๊าซและค่าไฟฟ้าที่พุ่งสูงขึ้น เป็นคลื่นม็อบมหาชนมืดฟ้ามัวดินหลั่งไหลระลอกใหญ่ที่สุด อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนในรอบหลายสิบปี ที่น่าสนใจคือการประสานงานระหว่างองค์กรชุมชนหลายแห่งและสหภาพแรงงานอย่างเป็นระบบแบบแผน
ต่อยอดจากการประท้วงนัดหยุดงานของพนักงานรถไฟครั้งใหญ่ที่สุดในอังกฤษ ในรอบหลายทศวรรษ สร้างความเสียหายย่อยยับ และบรรดาม็อบจงใจให้เกิดผลกระทบสูงสุดทวีความเสียหายไปทุกระบบ เพื่อบีบให้รัฐบาลนายกรัฐมนตรีลิซ ทรัสส์ อยู่ไม่ได้และบอบช้ำทางการเมืองเหมือนอดีตนายกรัฐมนตรีจอห์นสัน
ขณะที่สมาชิกอาวุโสบางคนในรัฐบาลพรรคอนุรักษ์นิยม ระบุว่าเธอยังไม่ควรแกะกล่องใส่สิ่งของที่ย้ายเข้าไปในบ้านเลขที่ 10 เพราะตัวเธอกำลังจะถูก “โยนออกมาจากบ้านประจำตำแหน่ง” ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า
การประชุมพรรคอนุรักษ์นิยม กลายเป็นหายนะ “เวทีเชือด” เมื่อเธอโดนสมาชิกในพรรค “รุมขย้ำกินโต๊ะ” การรับมือปัญหาเศรษฐกิจ ในพรรคเธอถูกตำหนิว่า “โยนบาป” ความผิดทั้งหมดไปให้รัฐมนตรีคลังคนใหม่ ควาซี ควาร์เท็ง
ทำให้อดีตรัฐมนตรีคนหนึ่งบอกว่า “รู้สึกละอาย” ที่พรรคการเมืองของเราลดภาษีให้แก่คนที่อยู่บนสุด ที่จะยิ่งได้รับผลประโยชน์มากขึ้น ดังนั้น ลิซ ทรัสส์ ควรจะมีไหวพริบพอที่จะตระหนักว่าเธอได้สูญเสียความน่าเชื่อถือไปหมดแล้ว และไม่สามารถทำอะไรเพื่อกอบกู้ได้ เธอคือคนที่รอเข้า “สู่ลานประหาร” และจะอยู่ไม่ถึงคริสต์มาสนี้ถ้าไม่ปรับเปลี่ยนนโยบาย
ล่าสุดนายกรัฐมนตรีลิซ ทรัสส์ เครียดจัดโดนถล่มจากที่ประชุม ส.ส.พรรคอนุรักษ์นิยม รุมทึ้งเธอจมเขี้ยวขัดขวางการกู้เงินเพื่อลดภาษี 45% ให้คนร่ำรวย เธอแกว่งกลับลำไม่เอานโยบายที่เคยประกาศหาเสียงแล้ว หลังจากเกิดปฏิกิริยาที่ปั่นป่วนจากตลาดต่างประเทศ และการจลาจลจากกลุ่มอนุรักษ์นิยมที่เพิ่มสูงขึ้นเกี่ยวกับนโยบายนี้ ยิ่งใกล้ฤดูหนาวยิ่งหนาวเหน็บ เพื่อนเลื่อยขาเก้าอี้ ม็อบรุมเร้ากันขนาดนี้ไม่รู้ว่าผู้นำอังกฤษจะพ้นคริสต์มาส ทันตั้ง NATO โลก แล้วกดปุ่มนิวเคลียร์ตามที่คุยโวไว้หรือไม่