ท่ามกลางวิกฤตพลังงานในยุโรป บรรดาประเทศต่างๆกำลังเผชิญสภาพอากาศหนาวเหน็บกว่าปกติในฤดูหนาวนี้ จากคำทำนายของศูนย์พยากรณ์อากาศระยะปานกลางแห่งยุโรป เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ขณะที่คนอังกฤษออกมาชุมนุมทั่ว ประเทศ โวยค่าครองชีพพุ่งสูง รณรงค์ชักดาบค่าพลังงาน และวิพากษ์วิจารณ์นายกรัฐมนตรีคนใหม่ว่าไร้ฝีมือ สถานการณ์การประท้วงแบบเดียวกันได้เกิดขึ้นที่ปารีส ฝรั่งเศส และเยอรมนีมีแนวโน้มขยายตัวอย่างกว้างขวาง
วันที่ ๓ ต.ค.๒๕๖๕ หนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียลไทม์สและเดอะการ์เดี้ยน รายงานอ้างคำสัมภาษณ์ของ ฟลอรองซ์ ราเบียร์ ผู้อำนวยการใหญ่ของศูนย์พยากรณ์อากาศระยะปานกลางแห่งยุโรป (European Centre for Medium-Range Weather Forecasts หรือ ECMWF) ระบุข้อมูลในเบื้องต้นบ่งชี้ว่าในเดือนพฤศจิกายนและธันวาคม ยุโรปตะวันตกอาจเจอกับความกดอากาศสูงช่วงเวลาหนึ่งที่อาจนำมาซึ่งสภาพอากาศเย็นลง มีลมลดลงและฝนตก และมันอาจทำให้ปริมาณไฟฟ้าที่ก่อกำเนิดจากแหล่งพลังงานหมุนเวียนลดลงตามไปด้วย
ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์อากาศ กล่าวต่อว่า ในขณะที่ในระยะสั้นยุโรปอาจเจอสภาพอากาศที่อุ่นขึ้นสืบเนื่องจากเฮอร์ริเคนในแอตแลนติกเมื่อเร็วๆ นี้ แต่ปรากฏการณ์บรรยากาศที่เรียกว่า ลานีญา จะนำอากาศเย็นเข้ามาในภายหลัง เหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นเป็นปกติ สืบเนื่องจากความเย็นของมหาสมุทรแปซิฟิก ซึ่งก่อให้เกิดผลกระทบกระเพื่อมกับสภาพอากาศทั่วโลก และสามารถเปลี่ยนแปลงรูปแบบของกระแสลมและหยาดน้ำฟ้า
บรรดาเจ้าหน้าที่รัฐบาลตะวันตกและบุคคลสาธารณะชื่อดังทั้งหลาย ต่างเคยออกมาเตือนเกี่ยวกับสถานการณ์ล่อแหลมที่อียูอาจต้องเผชิญในช่วงฤดูหนาวปีนี้ ในนั้นรวมถึง บิล เกตส์ มหาเศรษฐีผู้ก่อตั้งไมโครซอฟท์ ที่ออกมาเตือนเมื่อวันพฤหัสบดีที่ ๒๙ ก.ยงที่ผ่านมาว่า ในไม่อีกกี่เดือนข้างหน้า ทวีปยุโรปแห่งนี้อาจเจอสถานการณ์ที่น่ากลัวอย่างยิ่ง เนื่องจากประชาชนมากมายจะไม่สามารถทำความอบอุ่นแก่บ้านเรือนของพวกเขา
ในช่วงเวลาใกล้เคียง คาดรี ซิมสัน หัวหน้าฝ่ายนโยบายพลังงานของสหภาพยุโรป คาดการณ์เช่นกันว่าฤดูหนาวนี้ “จะไม่ใช่เรื่องงาย” แต่ฤดูหนาวถัดไป “จะยากลำบากกว่านี้อีก”
มาดูประชาชนในเมืองหลักหลายแห่งในยุโรป ได้พร้อมใจกันออกมาประท้วง ในอังกฤษ ชาวอังกฤษจำนวนนับหลายแสนคน ได้รวมตัวตามเมืองต่างๆ หลายสิบแห่งทั่วราชอาณาจักรเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา เพื่อแสดงความขุ่นแค้นต่อวิฤตค่าครองชีพ ในสิ่งที่แกนนำระบุว่าเป็นการประท้วงอย่างพร้อมเพรียงกันครั้งใหญ่ที่สุดในสหราชอาณาจักรในรอบหลายปี พร้อมกับเปิดแคมเปญเบี้ยวไม่จ่ายค่าก๊าซและค่าไฟฟ้าจนกว่าจะลดราคาในระดับที่สามารถจ่ายได้
ไล่ตั้งแต่อีสบอร์นไปจนถึงเอดินบะระ นิวคาสเซิล ไปจนถึงนอริช มีผู้คนจำนวนมากออกมาชุมนุมประท้วงทั่วสหราชอาณาจักร สอดคล้องกับช่วงเวลาที่จะมีการปรับขึ้นค่าก๊าซและค่าไฟ ซึ่งจะทำให้ค่าครองชีพของประชาชนพุ่งสูงตามไปด้วย
ในกรุงลอนดอน ผู้ชุมนุมรวมตัวกันที่จัตุรัสคิงส์ครอส และชูป้ายที่มีข้อความว่า “ไม่จ่ายให้สหราชอาณาจักร” และ “พอแล้ว” รวมถึง “แช่แข็งราคา ไม่ใช่ประชาชน” เพื่อระบายความไม่พอใจต่อความทุกข์ยาก และเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งแก้ไขปัญหาค่าครองชีพแพง
ฟาร์ซานา คานอม ผู้ช่วยครูวัย 23 ปีรายหนึ่ง เผยว่า สถานการณ์ปัจจุบันทำให้เธอจำเป็นต้องเลือกระหว่างจ่ายค่าพลังงานที่พุ่งสูงกับการลงทุนในอาชีพการงานของเธอ “แต่ถ้าเราออกมาพร้อมกัน ส่งเสียงของเราให้ได้ยินไปทั่ว เมื่อนั้นบางทีเราอาจสร้างความแตกต่าง”
บรรดาผู้ชุมนุมยังได้ร่วมลงนามในหนังสืออุทธรณ์ฉบับหนึ่ง เรียกร้องให้ยุบสภาจัดการเลือกตั้งทั่วไป เพื่อยุติความยุ่งเหยิงจากรัฐบาลชุดนี้ ซึ่งเบื้องต้นมีผู้ร่วมลงนามแล้วกว่า 300,000 คน
ที่ฝรั่งเศส ขบวนการเสื้อกั๊กเหลืองลงถนนประท้วงในปารีส 1 ต.ค ปะทะกับตำรวจอย่างดุเดือด จนป่านนี้ยังไม่เลิกรา สมทบกับคนงานสหภาพแรงงานยังคงหยุดงานประท้วงในหลายภาคส่วนและเดินขบวนทั่วตั้งแต่วันที่ ๒๙ ก.ย.เป็นต้นมา นอกจากนี้ยังมีการประท้วงกรณีอิหร่านลงโทษหญิงไม่สวมผ้าคลุมหน้าเป็นเหตุให้เสียชีวิตสมทบอีก คราวนี้ปธน.อิมานุเอล มาครงยังไม่มีทีท่าว่าจะแก้ปัญหาอย่างไร ส่วนใหญ่ที่เห็นในหน้าหนังสือพิมพ์ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับกรณียูเครนซะเป็นส่วนมาก ยิ่งสร้างความไม่พอใจแก่ฝูงชนอย่างมาก ต้องติดตามกันต่อไปว่าจะหาทางลงกันอย่างไร เพราะความหนาวเยือกทารุณย่างกรายมาถึงแล้ว
ด้านเยอรมนี ผู้ประท้วงนับหมื่นเดินขบวนในวันเสาร์ที่ ๑ ต.ค.ที่ผ่านมา เพื่อต่อต้านเงินเฟ้อและค่าครองชีพที่เพิ่มสูงขึ้นในเยอรมนี
การชุมนุมในใจกลางเมืองโคโลญจน์ ผู้ประท้วงหลายร้อยคนตะโกนว่า: “พอแล้ว: พอแล้ว ราคาต้องตก” โดยผู้ประท้วงเรียกร้องให้ทางการจัดการกับปัญหานี้และดำเนินมาตรการเพื่อต่อต้านภาวะเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะราคาพลังงาน
ผู้ประท้วงเน้นย้ำว่าผู้คนหลายหมื่นถูกผลักเข้าสู่ความยากจนเนื่องจากราคาที่สูงขึ้น และหลายคนไม่สามารถจ่ายค่าน้ำมันและค่าไฟฟ้าได้ ในขณะที่ผู้ฉวยโอกาสจำนวนมาก โดยเฉพาะบริษัทพลังงาน กำลังฉวยโอกาสจากสถานการณ์ แสดงความไม่พอใจรัฐบาลอย่างมาก เนื่องจากมุ่งสนใจตอบสนองต่อสหรัฐและนาโต้ไม่สนใจแก้ปัญหาของประชาชน