สนามรบในอวกาศจะไม่ได้เป็นเพียงนิยายวิทยาศาสตร์อีกต่อไป และอาวุธต่อต้านดาวเทียมกำลังจะกลายเป็นความจริงในการสู้รบในอนาคตอันใกล้ เมื่อจีนและรัสเซียยกระดับการพัฒนาวิทยาศาสตร์อวกาศและติดตั้งอาวุธต่อต้านดาวเทียมได้แล้ว นายพลสหรัฐฯเคยออกมาเผยถึงความพยายามอย่างหนักของเมกาเพื่อไล่ให้ทันคู่แข่ง แต่จนบัดนี้สภาพยังครึ่งๆกลางๆ ในขณะที่ปีนี้จีนไปท่องอวกาศถี่ยิบ แต่สหรัฐเลื่อนการส่งยานอวกาศออกไป และต้องขออาศัยสถานีอวกาศรัสเซียทั้งๆที่สู้กับยิบตาภาคพื้นดิน
ล่าสุดนายพลเรืออังกฤษเตือนฝ่ายตะวันตกว่ารัสเซียมีศักยภาพ สามารถโจมตีดาวเทียมของตะวันตกได้ มอสโกว์สามารถใช้อาวุธยุทโธปกรณ์ในอวกาศเพื่อกำหนดเป้าหมายทำลายโครงสร้างพื้นฐานของตะวันตกได้ในทันทื พร้อมขู่สำทับว่านาโต้จะตอบโต้รัสเซียอย่างรุนแรงแน่นอน
วันที่ ๓ ต.ค.๒๕๖๕ สำนักข่าวรัสเซียทูเดย์และเดอะเทเลกราฟ รายงานว่า พลเรือโทโทนี่ ราดาคิน ผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันสหราชอาณาจักร (UK’s Chief of the Defence Staff Admiral Tony Radakin) ให้สัมภาษณ์กับเทเลกราฟเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา มองว่ารัสเซียเป็นภัยคุกคามต่อสหราชอาณาจักรในระยะยาวอย่างน่าวิตก
ราดาคินกล่าวว่า “รัสเซีย มีความสามารถ ด้านอวกาศ เราเห็นตัวอย่างดังกล่าวเมื่อปลายปีที่แล้ว เมื่อรัสเซียระเบิดวัตถุในอวกาศซึ่งสร้างเศษซากขนาดมหึมา รัสเซียมีความสามารถด้านนิวเคลียร์ รัสเซียมีความสามารถใต้น้ำ สารพัดน่าทึ่ง”
เขาอ้างถึงการทดสอบขีปนาวุธต่อต้านดาวเทียมของรัสเซียเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งเห็นขีปนาวุธยิงจากภาคพื้นดินนำดาวเทียมลาดตระเวนโซเวียตเก่าออกไป สหรัฐฯ กล่าวหารัสเซียว่า“วางอาวุธในอวกาศ”และสร้างกลุ่มขยะ แม้ว่าสหรัฐฯ จะทดสอบขีปนาวุธต่อต้านดาวเทียมของตนเองด้วยผลลัพธ์ที่คล้ายคลึงกันเมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว และกำลังพยายามทำอีกแต่ยังไม่ประสบผลสำเร็จ แต่อินเดียและจีนได้ทดลองใช้อาวุธดังกล่าวแล้วด้วย
พลเรือเอกฉวยโอกาสกล่าวถึง “ความสามารถใต้น้ำ”ของรัสเซีย มาโยงกับเหตุระเบิดหลายครั้งทำให้ท่อส่งก๊าซ Nord Stream รัสเซีย-เยอรมนีเสียหายเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แน่นอนสหรัฐและตะวันตกรับกันเป็นทอดๆ ชี้หน้ารัสเซียว่าทำลายทรัพย์สินของตนเอง มอสโกว์สวนเจ็บว่า ผู้ที่ได้ประโยชน์ที่สุดคือสหรัฐ ทั้งรมว.ต่างประเทศสหรัฐ แอนโทนี บลิเคน และผู้บริหารโปแลนด์ พากันลืมตัวหลุดปากดีใจกันยกใหญ่ว่า เป็นโอกาสดีที่ยุโรปจะได้หันหลังให้รัสเซียและมาซื้อก๊าซLNGจากสหรัฐแทน
นอกจากนี้ มาลคอล์ม คาลเมอร์(Malcolm Chalmers) รองผู้อำนวยการสถาบัน Think Tank ของรอยัล ยูไนเต็ด เซอร์วิส อินสติติ้ว (Royal United Services Institute) ออกมาให้สัมภาษณ์แบบเดียวกันว่าเขาสามารถจินตนาการถึงการโจมตีของรัสเซีย ต่อระบบดาวเทียมซึ่งอาจทำลายโครงสร้างพื้นฐานด้านการสื่อสารของตะวันตกได้ในฉับพลัน
“รัสเซียยังสามารถโจมตีระบบ GPS ที่มีบทบาทสำคัญในทั้งทหารและพลเรือนทั่วโลก”เขากล่าวว่า “บริการพลเรือนอาจหยุดชะงักได้ เช่น ระบบนำทางผ่านดาวเทียมที่ใช้ในโทรศัพท์และรถยนต์ส่วนใหญ่ของเรา”
ราดาคินขู่ว่า หากรัสเซียมีการเคลื่อนไหวดังกล่าวจะกระตุ้นการตอบสนองจาก NATO อย่างรุนแรงเป็นไปได้ว่าการแทรกแซงทางทหารโดยตรงอาจไม่เพียงพอ
สหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักรได้ลงนามใน Combined Space Operations Vision ๒๐๓๑ ร่วมกับออสเตรเลีย แคนาดา ฝรั่งเศส เยอรมนี และนิวซีแลนด์ เอกสารดังกล่าวสนับสนุนการใช้พื้นที่อย่างรับผิดชอบและตระหนักถึงภัยคุกคามที่เพิ่มขึ้นจาก “โครงการต่อต้านอวกาศที่ก้าวร้าวของรัสเซียและจีน” แต่กระนั้นสหรัฐและพันธมิตรก็ยังตามหลังการพัฒนาด้านอวกาศของรัสเซียและจีนอย่างไม่เห็นฝุ่น
รัสเซียทดสอบขีปนาวุธต่อต้านดาวเทียมขึ้นตรงนูดอลเมื่อวันที่ ๑๕ พ.ย.๒๕๖๔ โดยโจมตีดาวเทียมรัสเซีย Tselina-D ที่หมดอายุแล้ว พล.อ.เจมส์ ดิกคินสัน หัวหน้าหน่วยบัญชาการอวกาศของสหรัฐฯ ระบุว่าการกระทำของรัสเซียเป็นความพยายามที่จะ “ปฏิเสธการเข้าถึงและการใช้พื้นที่ของสหรัฐอเมริกาและพันธมิตรเขายังตั้งข้อสังเกตอีกว่าระบบอาวุธต่อต้านอวกาศของรัสเซีย “บ่อนทำลายเสถียรภาพเชิงยุทธศาสตร์” ของสหรัฐ
อย่างไรก็ตาม ผู้นำและนักวิเคราะห์ทางทหารของรัสเซียโต้แย้งว่าอาวุธต่อต้านดาวเทียมและอาวุธต่อต้านอวกาศของพวกเขาเป็นกลไกในการฟื้นฟูเสถียรภาพทางยุทธศาสตร์ รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมของรัสเซีย โดยเซอร์เก ชอยกู(Sergey Shoigu) อธิบายว่าการทดสอบเป็นการดำเนินการตามปกติของ “ระบบอาวุธล้ำสมัยแห่งอนาคต”ของรัสเซีย ที่มีจุดประสงค์เพื่อเสริมความแข็งแกร่งในการยับยั้งและป้องกันความพยายามของอเมริกาที่หวังสร้างความได้เปรียบทางทหารในอวกาศแต่ฝ่าเดียว
แม้รัสเซียจะไม่ได้ประกาศว่ามีความตั้งใจที่จะต่อสู้กับตะวันตกในอวกาศ แต่นายพลสหรัฐฯหลายคนได้ให้คำเตือนที่คล้ายกันก่อนหน้านี้ในเดือนกรกฎาคมว่า รัสเซียมี“ความสามารถทางไซเบอร์ มีความสามารถด้านอวกาศ และมีโปรแกรมเฉพาะใต้น้ำ จึงสามารถคุกคามสายเคเบิลใต้น้ำที่ทำให้ข้อมูลของโลกส่งผ่านได้ทั่วโลก”เขา คำเตือนของราดาคินมาพร้อมกับการเรียกร้องให้สหราชอาณาจักรเพิ่มงบฯการใช้จ่ายด้านการทหารก้อนใหญ่า แบบนี้ชาวบ้านเรียกอ้าปากก็เห็นลิ้นไก่ แต่ตอนนี้เงินน่ะมีไหม???
