จากกรณีที่ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน ประกาศขอเข้าเป็นสมาชิกองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต้) แบบเร่งด่วนเมื่อวันศุกร์ที่ 30 กันยายน ที่ผ่านมา พร้อมประกาศยกเลิกการเจรจาสันติภาพกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย หลังจากที่ปูตินได้ผนวก 4 ดินแดนของยูเครนเข้าเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซีย โดยสหรัฐฯได้เบรกแรง การเข้าเป็นสมาชิกนาโต้แบบเร่งด่วนของยูเครนเอาไว้ก่อน
แต่ล่าสุด มีไคโล โปลโดยัก ที่ปรึกษาของ เซเลนสกี ก็ได้ทวีตข้อความ ระบุเมื่อค่ำคืนวันที่ 2 ต.ค. 2565 ว่า มีรัฐนาโต้อย่างน้อย 10 ประเทศ รวมถึงบางประเทศที่เป็นอดีตรัฐในสหภาพโซเวียต พร้อมให้การสนับสนุนยูเครนเข้าเป็นสมาชิก
อย่างไรก็ตาม เยน สโตลเตนเบิร์ก เลขาธิการนาโต้ ยังคงสงวนท่าทีในประเด็นดังกล่าว โดยให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ Meet the Press ทางสถานีโทรทัศน์ NBC ว่าการมอบสมาชิกภาพแก่ยูเครน “จะต้องผ่านการรับรองอย่างเป็นเอกฉันท์” จากรัฐนาโต้ทุกประเทศ และเวลานี้นาโต้ยังมองว่า “สิ่งสำคัญที่สุด” ก็คือการส่งความช่วยเหลือให้แก่ยูเครน
ส่วนทางด้าน เจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของทำเนียบขาว ยืนยันว่าสหรัฐฯ สนับสนุนนโยบาย “เปิดประตู” รับสมาชิกใหม่ของนาโต“ทว่าในตอนนี้ เรามองว่าสิ่งที่ดีที่สุดคือการมอบความช่วยเหลือที่ใช้ได้จริงในสนามรบให้แก่ยูเครน ส่วนกระบวนการในบรัสเซลส์นั้นอาจจะกระทำในเวลาอื่นได้”
ขณะเดียวกันท่ามกลางการมุ่งขอเป็นสมาชิกแบบเร่งด่วนยูเครนนั้น รัสเซียก็ทำแต้มเหนือกว่า ด้วยการเดินหน้าลุยเกมรบแบบหนักหน่วง มีการเคลื่อนย้ายอาวุธหลายอย่างไปประจำการยังด่านหน้า และล่าสุดได้มีการลำเลียงรถถัง และ Hyacinths 152mm จำนวนมาก ในครัสโนยาสค์ ประเทศรัสเซีย มุ่งหน้าสู่สนามรบ เพื่อเตรียมพร้อมในการสู้ศึกกับยูเครน เพราะหลังจากที่ยูเครนประกาศชัยว่ายึดคืนเมืองลีมานน์ได้ อาจจะซ้ำรอยตอนยูเครนอ้างว่าชนะรัสเซียในดินแดนนคาร์คีฟ จนทำให้ชะล่าใจ และกลับมาเพลี้ยงพล้ำต่อกองทัพรัสเซียอีกครั้ง