หลังจากที่สัปดาห์ก่อนมีรายงานระบุว่า ประชาชนกว่า 100,000 คน ในอังกฤษลงนามในคำร้องของรัฐบาล เพื่อเรียกร้องให้มีการเลือกตั้งทั่วไปในทันที “เพื่อยุติความวุ่นวายของรัฐบาลปัจจุบัน” พบว่ามีผู้ลงนามในคำร้องจำนวน 101,500 ราย ในวันพฤหัสบดี ที่ 29 ก.ย. 2565 ที่ผ่านมา ซึ่งผ่านเกณฑ์ 100,000 ราย ที่จำเป็นสำหรับญัตติเพื่อพิจารณาอภิปรายในรัฐสภา
โดยคำร้องดังกล่าวเปิดตัวก่อนมินิงบประมาณของรมต.คลัง ซึ่งทำให้เงินปอนด์ร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์ ซึ่งต้องการการแทรกแซงที่ไม่เคยปรกฏมาก่อนจาก IMF และธนาคารแห่งประเทศอังกฤษ
ทั้งนี้มีการติดตามสถานการณ์ว่า ฝั่งรัฐบาลของลิซ ทรัสส์ จะออกมาตอบโต้เคลื่อนไหวต่อสถานการณ์นี้อย่างไร ท่ามกลางการจับตามองของประชาชนทั้งประเทศว่า ความโกลาหลที่ปกคลุมรัฐบาลอังกฤษนั้นไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เพราะลิซ ทรัสส์ เพิ่งเข้ามารับตำแหน่งได้ไม่นาน ก็มีประชาชนบางส่วนไม่พอใจและเรียกร้องให้ยุติบทบาท จากนี้อังกฤษอาจจะเจอกับสถานการณ์การเมืองที่ดุเดือด ประชาชนประท้วงรายวันมากขึ้น เมื่อความหนาวเย็นเข้ามาคืบคลานหนักขึ้น
ล่าสุดประชาชนหลายพันคนในอังกฤษรวมตัวตามเมืองต่าง ๆ หลายสิบแห่งทั่วราชอาณาจักร ตั้งแต่วันเสาร์ ที่ 1 ต.ค. ที่ผ่านมา เพื่อแสดงความขุ่นแค้นต่อวิฤตค่าครองชีพ ในสิ่งที่แกนนำระบุว่าเป็นการประท้วงอย่างพร้อมเพรียงกันครั้งใหญ่ที่สุดในสหราชอาณาจักรในรอบหลายปี พร้อมกับเปิดแคมเปญไม่จ่ายค่าก๊าซและค่าไฟฟ้าจนกว่าจะลดราคาในระดับที่สามารถจ่ายได้
ไล่ตั้งแต่อีสบอร์นไปจนถึงเอดินบะระ นิวคาสเซิล ไปจนถึงนอริช มีผู้คนจำนวนมากออกมาชุมนุมประท้วงทั่วสหราชอาณาจักร สอดคล้องกับช่วงเวลาที่จะมีการปรับขึ้นค่าก๊าซและค่าไฟ ซึ่งจะทำให้ค่าครองชีพของประชาชนพุ่งสูงตามไปด้วย
ในกรุงลอนดอน ผู้ชุมนุมรวมตัวกันที่จัตุรัสคิงส์ครอส และชูป้ายที่มีข้อความว่า “ไม่จ่ายให้สหราชอาณาจักร” และ “พอแล้ว” รวมถึง “แช่แข็งราคา ไม่ใช่ประชาชน” เพื่อระบายความไม่พอใจต่อความทุกข์ยาก และเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งแก้ไขปัญหาค่าครองชีพแพง
บรรดาผู้ชุมนุมยังได้ร่วมลงนามในหนังสืออุทธรณ์ฉบับหนึ่ง เรียกร้องให้ยุบสภาจัดการเลือกตั้งทั่วไป เพื่อยุติความยุ่งเหยิงจากรัฐบาลชุดนี้ ซึ่งเบื้องต้นมีผู้ร่วมลงนามแล้วกว่า 300,000 คน
นอกจากนี้ แกนนำการประท้วงยังได้ทำการรณรงค์ให้ประชาชนไม่จ่ายค่าก๊าซและค่าไฟฟ้าจนกว่าจะลดราคาในระดับที่สามารถจ่ายได้ มีรายงานว่าหลายครัวเรือนทั่วสหราชอาณาจักรพากันเผาบิลค่าสาธารณูปโภค ในการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์สนับสนุนการรณรงค์ไม่จ่ายค่าก๊าซและค่าไฟฟ้าของกลุ่ม Don’t Pay UK ในขณะที่ล่าสุดขบวนการเคลื่อนไหวรากหญ้าแห่งนี้ได้รับเสียงตอบรับจากครัวเรือนต่าง ๆ เกือบ 200,000 ครัวเรือน ที่เตรียมยกเลิกบริการหักบัญชีอัตโนมัติ หากว่าชาวสหราชอาณาจักร 1 ล้านคนสัญญาว่าจะไม่จ่ายบิลค่าสาธารณูปโภค
เบื้องต้น แกนนำของกลุ่มรณรงค์นี้สัญญาว่าจะไม่จ่ายตั้งแต่วันเสาร์ ที่ 1 ต.ค. เป็นต้นไป ซึ่งเป็นวันที่ Ofgem หน่วยงานที่วางข้อกำหนดตลาดพลังงานก๊าซและไฟฟ้าของสหราชอาณาจักร มีกำหนดปรับขึ้นราคาก๊าซและไฟฟ้า แต่พวกเขาบอกว่าหากมีประชาชนร่วมลงนามในระดับ 1 ล้านคน มันจะเป็นจำนวนที่ปลอดภัยจากการโดนย้อนศร
สหราชอาณาจักรมีกำหนดปรับขึ้นเพดานราคาพลังงาน ซึ่งประกอบด้วยค่าไฟฟ้าและค่าก๊าซที่ภาคครัวเรือนต้องจ่าย เป็น 3,549 ปอนด์ต่อปี หรือเพิ่มขึ้น 80% ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม จากนั้นจะปรับเป็น 5,400 ปอนด์ในเดือนมกราคม แต่ภายใต้รัฐบาลของลิซ ทรัสส์ ได้ปรับแผนใหม่โดยกำหนดให้เพดานราคาพลังงานอยู่ที่ 2,500 ปอนด์ต่อปีเป็นเวลา 2 ปี
อย่างไรก็ตาม เป้าหมายของกลุ่มผู้ประท้วงยังคงเหมือนเดิม โดยเรียกร้องให้ปรับลดบิลค่าพลังงานให้อยู่ในระดับที่พอจะจ่ายได้ และประกาศว่า “จะพร้อมใจกันระงับชำระเงิน หากเสียงเรียกร้องของเขาถูกเพิกเฉย”