สหรัฐหักหลังยุโรป! หลอกขายน้ำมันราคาแพง ทำ 4 ชาติ หันซื้อก๊าซอาเซอร์ไบจาน ที่รัสเซียเป็นหุ้นส่วนใหญ่

0

สหรัฐหักหลังยุโรป! หลอกขายน้ำมันราคาแพง ทำ 4 ชาติ หันซื้อก๊าซอาเซอร์ไบจาน ที่รัสเซียเป็นหุ้นส่วนใหญ่

จากกรณีเมื่อวันที่ 27 กันยายนที่ผ่านมา ยุโรปกำลังเร่งสอบสวนหาสาเหตุการรั่วไหลของท่อส่งก๊าซทั้ง 2 ท่อของรัสเซียในทะเลบอลติก โดยเยอรมัน เดนมาร์ก และสวีเดนชี้ไปในทางเดียวกันว่า สาเหตุเกิดจากท่อส่งก๊าซอาจถูกโจมตีท่ามกลางความขัดแย้งทางด้านพลังงานระหว่างยุโรปกับรัสเซีย

ต่อมาทาง Blockdit World Update ได้โพสต์ข้อความถึงกรณีที่ยุโรป กำลังเจอกับวิกฤตด้านเศรษฐกิจจากสหรัฐและวิกฤตพลังงานจากรัสเซีย โดยอ้างอิงจาก Reuters และ Euronews ระบุว่า ขณะนี้ชาติสหภาพยุโรป (EU) ที่พลาดไปคว่ำบาตรพลังงานก๊าซ และน้ำมัน รัสเซีย กำลังโดนบูมเบอแรงฟาดกลับมาจนบาตรแตก อัตราเงินเฟ้อใน EU เฉลี่ยเกิน 10% ชาติที่สูงสุดพุ่งทะลุออกนอกโลกถึง 24.2% ชาติที่อัตราเงินเฟ้อต่ำสุด 10.6% เงินยูโรด้อยค่าลงมากที่สุดอย่างน่าตกใจ

มีสาเหตุจากยุโรป ใช้เงินจำนวนมากเกินไปซื้อพลังงานราคาแพงจนผิดปกติ ดึงให้อัตราเงินเฟ้อพุ่งไม่หยุดและแนวโน้มยังไม่ลดลง , ในฝรั่งเศส สหภาพแรงงาน CGT และ FSU ที่ใหญ่ที่สุดในภาคพลังงานได้รับผลกระทบอย่างหนักสุดๆ กำลังการผลิตกว่า 60% หยุดไปแล้ว ส่วน TotalEnergies หยุดไปแล้ว 3 วัน ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง พรรครัฐบาลแพ้เลือกตั้งเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อยในรัฐสภา

ม็อบในฝรั่งเศส ตอนนี้เดือดและรุนแรงมากเพราะประชาชนโกรธที่ค่าครองชีพสูง ม็อบในเยอรมนีก็ขย่มรัฐบาลแทบทุกเมืองใหญ่ทั่วประเทศจนร่อแร่เต็มที ส่วนม็อบกองทัพปลดแอกประชาชนอังกฤษ ก็พรึบยึดเมืองใหญ่ต่างๆ ไปเรียบร้อยจากปัญหาวิกฤติพลังงาน โพลสำรวจประชาชนอังกฤษ เกินกึ่งหนึ่ง 51% ต้องการให้ผู้นำลาออก และเลือกตั้งใหม่พรรคฝ่ายค้านก็ออกมาร่วมม็อบขย่มอย่างหนัก  เป็นสมรภูมิรบทางเศรษฐกิจ ที่สหรัฐ ยอมรับเองว่าต้องการแย่งชิงตลาดพลังงานไปจากรัสเซีย

จากกรณีวันที่ 26-27 ก.ย.2022 มือมืดก่อวินาศกรรมท่อก๊าซ Nord Stream 1 และ 2 ในทะเลบอลติก จนเกิดรอยรั่ว 4 จุด ประเมินว่าอัตราการรั่วไหลจากจุดแตก 1 ใน 4 จุดราว 22,920 ก.ก./ชม. ซึ่งเทียบเท่ากับการเผาไหม้ถ่านหินประมาณ 630,000 ปอนด์/ชั่วโมง ถ้ารวมการทำลายสภาพอากาศทั้งหมดจะเทียบเท่ากับการเผาไหม้ถ่านหิน 1,100 ล้านปอนด์ โอโซน ชั้นบรรยากาศ และสภาพอากาศโลกบริเวณเดนมาร์ก สวีเดน ฟินแลนด์ โปแลนด์ ย่อยยับ

ล่าสุดนายกรัฐมนตรีเมตต์ เฟรเดอริกเซน แห่งเดนมาร์ก ที่เซ็นเซอร์ของกองทัพพบว่ายานโดรนทะเลก่อวินาศนั้นเป็นของมือมืดชาติหนึ่ง เธอร้อนตัวจัดนั่งไม่ติดบินฉุกเฉินไปพบกับนายกรัฐมนตรีลิซ ทรัสส์ แห่งอังกฤษ ในกรุงลอนดอน
หารือเกี่ยวกับวิกฤตขาดแคลนพลังงาน และปัญหาท่อส่งก๊าซ Nord Stream  ผู้นำทั้งสองเห็นพ้องว่า “เหตุการณ์นี้เป็นการก่อวินาศกรรมจากกลุ่มที่มีการวางแผนเอาไว้แล้ว” แต่ไม่กล้าบอกว่าชาติใด

ผู้นำเดนมาร์ก หารือกับเยนส์ สโตลเทนเบิร์ก เลขาธิการ NATO และชาร์ลส์ มิเชล ประธานคณะมนตรียุโรป เกี่ยวกับกรณีการก่อวินาศกรรมบนท่อส่งก๊าซฯ ดังกล่าว ส่วนสหภาพยุโรป (EU) ก็ชี้ชัดว่า “เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการก่อวินาศกรรม” แต่ก็ไม่กล้าพูดว่าชาติใดทำ ด้านสหรัฐฯ ออกมาระบุว่า “ยังเร็วเกินไปที่จะยืนยันว่ารอยรั่วที่เกิดขึ้นเป็นการก่อเหตุวินาศกรรม” ดังนั้นขณะนี้มีสหรัฐ เพียงชาติเดียวที่เห็นต่างจากทุกชาติทั่วโลก

ด้าน 4 ชาติยุโรปใต้ คือ บัลแกเรีย , โรมาเนีย , ฮังการี, และสโลวาเกีย เสนอให้จัดหาก๊าซจากอาเซอร์ไบจาน แต่ว่าบริษัทก๊าซในประเทศนี้ “รัสเซียถือหุ้นใหญ่” เรียบร้อยแล้ว ถ้าซื้อจะต้องบวกราคาขายเพิ่มอย่างน้อย 3 เท่า และเพิ่มราคาเป็นขั้นบรรไดเมื่อถึงฤดูหนาว

กลุ่มผู้ผลิตน้ำมันโอเปกและรัสเซีย จะลดกำลังการผลิตน้ำมันรวดกว่า 1 ล้านบาร์เรล/วัน ผลที่ตามมาคือจะทำให้ราคาน้ำมันดิบโลกดีดกลับขึ้นไปอีกครั้ง เพื่อตอบโต้กลุ่ม G7 ที่นำโดยสหรัฐ และยุโรป ออกมติกำหนดเพดานราคาน้ำมันรัสเซีย ชาติที่อ่วมสุดคือยุโรปเจ้าเก่า เพราะสหรัฐห้ามซื้อน้ำมันรัสเซียผู้ผลิต ต้องซื้อน้ำมันจากสหรัฐ หรือยี่ปั้วชาติตะวันออกกลาง ซึ่งก็คือน้ำมันรัสเซียที่ส่งไปจำหน่ายอยู่ดี

สรุป..รัฐบาลฝรั่งเศส เยอรมนี อังกฤษ ร่อแร่อย่างหนัก เดนมาร์กน้ำท่วมปากที่รู้ว่าใครก่อวินาศกรรม ตระเวณเคลียร์ตัวเองวิ่งวุ่นในยุโรป แต่ไม่กล้าปรึกษา”สหรัฐ” ส่วนทวีปยุโรปกำลังถูกสหรัฐ รัสเซีย และกลุ่มโอเปค รุมบีบให้ซื้อพลังงานก๊าซ น้ำมันแพงขึ้นกว่านี้ไปอีกเรื่อยๆ