หลังจากที่บรรดากูรูด้านสงคราม ต่างวิเคราะห์ถึงเกมใหม่ที่ต้องจับตาระหว่างรัสเซียและยูเครนในการทำสงคราม อาจจะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเป็นตัวเร่งให้เกิดสงครามโลกครั้งที่ 3 นั้น สืบเนื่องมาจากปฏิกิริยาความเคลื่อนไหวของผู้นำทั้งสองประเทศในประเด็นของการรวมแคว้น ทำให้ความขัดแย้งไม่น่าจะจบลงง่าย ๆ ด้วยการตั้งโต๊ะเจรจาอย่างแน่นอน
แม้ว่าตุรกีจะเคยเปิดเผยว่า ปูตินจะเจรจากับยูเครน แต่จะต้องเปลี่ยนเงื่อนไขใหม่ และทางยูเครนก็โต้กลับว่าจะไม่ยอมเจรจากับปูติน โดยพาลเรื่องลงประชามติว่ายูเครนก็พอจะสู้กลับ เพื่อทวงดินแดนคืนเช่นกัน ดังนั้นสิ่งที่บรรดากูรูด้านสงคราม คาดคิดไว้ก็คือปูตินอาจจะล้มกระดานเกมศึกด้านอาวุธนิวเคลียร์ ในเร็ววันนี้
ล่าสุดในเพจเฟซบุ๊ก Around the World ได้โพสต์ข้อความ ที่มีรายงานจากเมโทร สื่ออังกฤษ ระบุว่า ตามคำสั่งใหม่ที่ของกระทรวงกลาโหมรัสเซียที่สำนักข่าวทาซ (TASS) ของรัสเซียกล่าวว่า ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน ได้ลงนามเรียบร้อยแล้วเรียกเกณฑ์ทหารเพิ่มชายชาวรัสเซียอายุระหว่าง 18-27 ปี ระหว่างที่กำลังศึกษาระดับสูง ในคำประกาศระบุว่า เป็นการเกณฑ์ที่ไม่เกี่ยวข้องกับสงครามยูเครน โดยการเกณฑ์กำลังทหารครั้งนี้ มียอดเพิ่มอีก 120,000 นาย
แต่อย่างไรก็ตาม หนังสือพิมพ์เมโทรระบุว่า เป็นที่บังเอิญว่าคำสั่งเรียกกำลังพลเพิ่มนี้ ตรงกับการเคลื่อนกำลังพลบางส่วน สำหรับสงครามขั้นถัดไปของยูเครนซึ่งจะเห็นกำลังทหารรัสเซียอีก 300,000 นายถูกส่งสู่แนวหน้าบนสมรภูมิรบ
ท่ามกลางการจับตาของสื่ออังกฤษว่า เหตุที่ปูตินเรียกเพิ่มกำลังพล มาจากความขาดแคลน และสูญเสียกำลังทหารไปก่อนหน้านี้ แต่ไม่อาจจะระบุจำนวนทหาร หรือพื้นที่ ที่รัสเซียเสียเปรียบในสงครามได้ ยังคงเป็นเพียงคำกล่าวอ้างของสื่อ ที่เชื่อว่าปูตินขาดแคลนพลทหาร
อย่างไรก็ตาม การที่ยูเครนอ้างว่า ฝ่ายตนเองได้ชัยชนะจากการยึดเมืองลีมานน์คืน ทำให้บรรดาสหายคนสนิทของปูติน ยอมรับไม่ได้ และร้องขอว่าให้ปูติน เริ่มใช้อาวุธนิวเคลียร์กำลังต่ำเพื่อปรามยูเครนดูสักตั้ง ซึ่งสถานการณ์ในรัสเซีย-ยูเครน ยังคงมีการปะทะที่ด่านหน้าอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าสหรัฐฯกับนาโต้ จะเริ่มมีความลังเลต่อแผนการช่วยเหลือยูเครนก็ตาม งานนี้ถือว่าต้องวัดใจว่าจะเปิดฉากอาวุธนิวเคลียร์เพื่อจัดการยูเครนหรือไม่
