หลังจากประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน ประกาศขอเข้าเป็นสมาชิกองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต้) แบบเร่งด่วนเมื่อวันศุกร์ที่ 30 กันยายนที่ผ่านมา พร้อมประกาศยกเลิกการเจรจาสันติภาพกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย หลังจากที่ปูตินได้ผนวก 4 ดินแดนของยูเครนเข้าเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซีย
ส่วนท่าทีของสหรัฐและนาโต้ดูจะให้ความสำคัญกับการสู้รบในพื้นที่ มากกว่าการสนับสนุนให้ยูเครนเป็นสมาชิกนาโต้แบบเร่งด่วนตามที่เซเลนสกีร้องขอ โดยนายเจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติประจำทำเนียบขาว ตอบข้อซักถามเกี่ยวกับการเป็นสมาชิกนาโต้ของยูเครนว่า วิธีที่ดีที่สุดในการสนับสนุนยูเครนคือการให้การสนับสนุนผ่านการดำเนินการภาคพื้นดิน
ซัลลิแวนกล่าวว่า การตัดสินใจใด ๆ เกี่ยวกับการเข้าเป็นสมาชิกนาโต้ต้องขึ้นกับการพิจารณาของ 30 ชาติสมาชิกและประเทศที่ต้องการเข้าร่วมกับนาโต้ แต่ในกรณีการสมัครสมาชิกนาโต้ของยูเครน เขาเห็นว่าควรดำเนินการในเวลาที่ต่างออกไป ทั้งนี้เขากล่าวอีกว่า “สหรัฐมีจุดยืนชัดเจนมานานหลายทศวรรษว่า เราสนับสนุนนโยบายเปิดกว้างสำหรับนาโต้ ซึ่งการตัดสินใจใดๆ ขึ้นกับชาติสมาชิกและประเทศที่ต้องการเข้าร่วม แต่สำหรับมุมมองของเราในขณะนี้ วิธีที่ดีที่สุดสำหรับการให้การสนับสนุนยูเครนคือการให้การสนับสนุนการปฏิบัติการภาคพื้นดิน ส่วนกระบวนการในบรัสเซลส์ (การเข้าเป็นสมาชิกนาโต้) ควรดำเนินการในเวลาที่ต่างออกไป รวมทั้งเป้าหมายของนาโต้ ก็ต้องการหยุดดการกระทำของรัสเซีย ที่จะไม่ให้สงครามบานปลาย”
ทั้งนี้ความเคลื่อนไหวของรัสเซีย มีรายงานว่า หลังจากการผนวกรวม 4 แคว้นสำเร็จ ปูตินสั่งการให้ขนอาวุธล็อตใหญ่ไปปักหลักยังพื้นที่ 4 แคว้น โดยมีอาวุธยุทโธปกรณ์ประเภทหนักและยานพาหนะทางทหาร พร้อมด้วยกำลังพลจำนวนมหาศาล ด้วยขบวนรถไฟจากทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ มุ่งหน้าสู่โดเนสตค์, ลูฮานสค์, เคอร์ซอน, ซาราปอริชเซีย 4 ดินแดนของรัสเซียที่เพิ่งผนวกมาจากยูเครน แสดงให้เห็นถึงการตอบโต้กลับไปยังสหรัฐฯและนาโต้ ให้เห็นถึงความเด็ดเดี่ยวในการรบ และปกป้อง 4 แคว้นที่เพิ่งผนวกมาจากยูเครน และหากรัสเซียยกระดับการรบเมื่อไหร่ คาดว่าสหรัฐฯและนาโต้ จะต้องกลับไปทบทวนใหม่ว่า จะเลือกจบสงครามยูเครน หรือจะหนุนศึกให้ยืดยื้อออกไป