จากกรณีที่ โจเซฟ บอร์เรล ประธานนโยบายต่างประเทศของสหภาพยุโรป ได้กล่าวระหว่างให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ RTVE ของสเปนในวันเสาร์ ที่ 1 ต.ค.ที่ผ่านมา ว่า การผนวก 4 แคว้นของยูเครนเข้าเป็นดินแดนรัสเซีย ทำให้เป็นเรื่องยากมากกว่าเดิม จนแทบเป็นไปไม่ได้ที่สงครามจะยุติลง และเขายังได้แสดงความคิดเห็นในประเด็นเดียวกันว่า “รัสเซียกำลังพ่ายแพ้สงคราม พวกเขาได้พ่ายแพ้ไปแล้วในแง่คุณธรรมและทางการเมือง แต่ยูเครนยังไม่ได้เป็นผู้ชนะ”
อีกทั้งโจเซฟ บอร์เรล ยังกล่าวอ้างว่า ยุโรปได้สร้างสวนแห่งหนึ่งขึ้นมา สวนที่ล้อมรอบไปด้วยป่า “ถ้าเราไม่ต้องการให้ป่ารุกเข้ามาในสวน เราจำเป็นต้องเกี่ยวข้อง มันมีความจำเป็นและเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เพื่อความอยู่รอด” ขณะที่ทั้งยูเครนและบรรดาชาติตะวันตกปฏิเสธไม่ยอมรับความเคลื่อนไหวผนวกดินแดนของรัสเซีย และชี้ว่าเป็นการกระทำที่ “ผิดกฎหมาย” ส่วนทางด้านสหรัฐฯ อังกฤษ และแคนาดา ต่างประกาศมาตรการคว่ำบาตรระลอกใหม่เพื่อตอบโต้รัสเซีย แม้ว่าที่ผ่านมาจะยังไม่ได้ผลเท่าที่ยุโรปคาดการณ์ไว้เลยก็ตาม
การคว่ำบาตรรอบใหม่ของยุโรป ที่จะพุ่งเป้าไปยังรัสเซียอีกครั้งนั้น กลายเป็นความท้าทายของยุโรป เพราะขณะนี้ยุโรปเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วงที่อุณหภูมิเริ่มลดต่ำลงเข้าสู่หน้าหนาวที่แสนจะเยือกเย็น คนยุโรปทุกคนทราบดีว่าความเยือกเย็นของยุโรปนั้น ไม่เพียงแต่จะผลาญเงินในกระเป๋าอย่างมากจากค่าไฟค่าก๊าซเพื่อทำให้บ้านอุ่น อีกทั้งการคว่ำบาตรครั้งนี้ จะยิ่งปลุกระดมม็อบในยุโรปให้เพิ่มขึ้น เพราะคนยุโรปต่างจากคนเอเชียตรงที่การประท้วงการโวยวายว่ากล่าวกดดันรัฐบาลนั้น จะรุนแรงมากกว่าการประท้วงทั่วไป ถ้ามีเรื่องปากท้องมาเกี่ยวข้อง และต้องบอกว่าการสู้รบในยูเครนตอนนี้ที่มีการยืดยื้อนั้นส่งผลโดยตรง ทำให้ราคาค่าพลังงานนั้นพุ่งสูงแตะระดับเป็นประวัติการณ์
อย่างไรก็ตามยังมีอีกประเด็นที่น่าติดตาม เมื่อกูรูอย่าง Thanong Fanclub ได้โพสต์ข้อความ ระบุว่า ลือหนักมากว่าแบงก์สวิสฯใกล้ล้ม ยังคงเป็นเหตุผลให้น่าติดตามสถานการณ์ในยุโรป หลังการคว่ำบาตรรัสเซียรอบใหม่ต่อไป ว่าจะทำให้ยุโรปเผชิญกับความยากลำบาก ทั้งเรื่องค่าเงิน ค่าครองชีพ และพลังงานมากอีกแค่ไหน