หลังจากที่ทางยูเครนออกมาประกาศชัย ว่า “กองทัพยูเครน” ยึดเมืองลีมานน์คืนจากรัสเซีย ซึ่งเป็นที่มั่นสำคัญทางตะวันออกของประเทศ ขณะที่พันธมิตรของรัสเซียชี้ชัดว่า ความพ่ายแพ้ครั้งนี้ จะจี้จุดให้ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน อาจเตรียมใช้อาวุธนิวเคลียร์ที่มีการทำลายต่ำก่อนเป็นครั้งแรก และคาดว่าหลังจากนี้ ปูตินจะหมายตาในพื้นที่ลีมานน์ เพื่อเอาคืนอย่างสาสม
ล่าสุดดร.ปฐมพงษ์ โพธิ์ประสิทธินันท์ ได้เปิดเผยสถานการณ์ในรัสเซีย-ยูเครน โดยระบวุ่า กองทัพรัสเซียรายงานว่าวันที่ ๑ ตุลาคม คือเมื่อวาน กองทัพรัสเซียได้ สังหารทหารยูเครนได้ ๗๐๐ กว่าคนขึ้นไป ทำลายรถถัง ๑๒ คัน ทำลาย รถ APC มากกว่า ๒๐ คัน ทำลายแท่นยิงขีปนาวุธหลายลำ กล่อง ๒ ชุดและยิงเครื่องบิน Mig-29 ของยูเครนตก ๑ เครื่อง รู้สึกได้ว่ารัสเซียเพิ่มดีกรีการโต้กลับในเดือนตุลาคม หลังจากผนวกแคว้น ๔ แคว้นเสร็จแล้ว วันนี้กองทัพยูเครนที่เข้าเมืองลีมานน์ (Lyman) น่าจะเป็นเป้าหลักที่รัสเซียจะถล่ม จับตาให้ดีครับ
อย่างไรก็ตาม บรรดากูรูด้านสงคราม ต่างมองว่า เกมใหม่ที่ต้องจับตาระหว่างรัสเซียและยูเครนในการทำสงคราม อาจจะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเป็นตัวเร่งให้เกิดสงครามโลกครั้งที่ 3 ก็เป็นไปได้ จากปฏิกิริยาความเคลื่อนไหวของผู้นำทั้งสองประเทศในประเด็นของการรวมแคว้น ทำให้ความขัดแย้งไม่น่าจะจบลงง่าย ๆ ด้วยการตั้งโต๊ะเจรจาอย่างแน่นอน แม้ว่าตุรกีจะเคยเปิดเผยว่า ปูตินจะเจรจากับยูเครน แต่จะต้องเปลี่ยนเงื่อนไขใหม่ และทางยูเครนก็โต้กลับว่าจะไม่ยอมเจรจากับปูติน โดยพาลเรื่องลงประชามติว่ายูเครนก็พอจะสู้กลับ เพื่อทวงดินแดนคืนเช่นกัน ดังนั้น สิ่งที่บรรดากูรูด้านสงคราม คาดคิดไว้ก็คือ ปูตินอาจจะล้มกระดานเกมศึก ด้านอาวุธนิวเคลียร์ ในเร็ววันนี้