จากกรณีที่ ดร.ปฐมพงษ์ โพธิ์ประสิทธินันท์ เปิดเผยถึงพื้นที่ของยูเครนที่มีทหารรัสเซียอยู่ โดยตั้งคำถาม ว่า “เกิดอะไรขึ้นที่ย่านลีมานน์ของแคว้นโดเนสก์? พร้อมทั้งวิเคราะห์สถานการณ์ล่วงหน้าด้วยนั้น
ทั้งนี้เนื้อหาที่ ดร.ปฐมพงษ์ เปิดเผยไว้ ระบุว่า ระยะนี้ จึงมีข่าวเกี่ยวกับค่ายทหารรัสเซียในพื้นที่เมืองเล็ก ๆ ลีมานน์ ซึ่งอยู่ในเขตแคว้นโดเนสก์และอยู่ห่างจากคาร์คีฟประมาณ 167 กิโลเมตรถูกล้อมและกูรูฝั่งยูเครนก็บอกว่าค่ายทหารรัสเซียที่นี่จะแตกในไม่ช้า แต่ในความจริงแล้ว กองทัพรัสเซียรู้หมดแล้วว่าทหารยูเครนกำลังโอบล้อมเข้ามาในบริเวณไหนของเมืองลีมานน์บ้าง อีกไม่นาน ทหารยูเครนก็จะโดนกวาดล้าง
แต่ล่าสุดกลับกลายเป็นว่า ทางยูเครนออกมาประกาศชัย ว่า “กองทัพยูเครน” ยึดเมืองลีมานน์คืนจากรัสเซีย ซึ่งเป็นที่มั่นสำคัญทางตะวันออกของประเทศ ขณะที่พันธมิตรของรัสเซียชี้ชัดว่า ความพ่ายแพ้ครั้งนี้ จะจี้จุดให้ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน อาจเตรียมใช้อาวุธนิวเคลียร์ที่มีการทำลายต่ำก่อนเป็นครั้งแรก
การยึดคืนเมืองลีมานน์ เกิดขึ้นหลังเพียง 1 วัน หลังประธานาธิบดีปูตินประกาศผนวกดินแดน 4 ภูมิภาค รวมถึงโดเนสก์ ซึ่งเมืองลีมานน์ตั้งอยู่ในภูมิภาคดังกล่าวด้วย
รองหัวหน้าสำนักงานประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ได้โพสต์คลิปวิดีโอผ่านทางโซเชียลมีเดีย เป็นภาพทหารยูเครนประกาศชัยพื้นที่บริเวณนอกอาคารรัฐสภาเมืองลีมานน์เพื่ออ้างสิทธิ หลังยึดคืนจากรัสเซียไว้ได้
“ชาวยูเครนที่รัก วันนี้กองกำลังติดอาวุธยูเครนได้ปลดปล่อยและเข้าควบคุมฐานที่มั่นเมืองลีมานน์ ภูมิภาคโดเนสก์ไว้ได้” ทหารยูเครนนายหนึ่งพูดทางคลิปวิดีโอ พร้อมโยนธงชาติรัสเซียทิ้งลงจากอาคารและแทนที่ด้วยธงชาติยูเครน
รัสเซียใช้เมืองลีมานน์เป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ เพื่อขนส่งเบียงและอาวุธไปยังเมืองทางตอนเหนือของภูมิภาคโดเนสก์ การยึดครองถือดินแดนแห่งนี้ถือเป็นชัยชนะในสนามรบที่ใหญ่ที่สุดของยูเครน นับตั้งแต่การโจมตีตอบโต้แบบสายฟ้าในภูมิภาคคาร์คิฟ ทางตะวันออกเฉียงเหนือ เมื่อเดือนที่แล้ว
ชัยชนะของยูเครนในครั้งนี้ได้สร้างความโกรธเคืองให้กับพันธมิตรของปูติน เช่น แรมซาน คาดีรอฟ ผู้นำภูมิภาคเชชเนียทางใต้ของรัสเซีย ซึ่งเขาได้โพสต์ผ่านเทเลแกรมว่า “ส่วนตัวของผมเห็นว่า ควรใช้มาตรการที่รุนแรงกว่านี้ จนถึงการประกาศกฎอัยการศึกในพื้นที่ชายแดน หรือไม่ก็ใช้อาวุธนิวเคลียร์ที่มีการทำลายต่ำ เพื่อมีเป้าหมายสกัดกองทัพยูเครน
ส่วนเจ้าหน้าที่ระดับสูงคนอื่น ๆ และอดีตประธานาธิบดีดมีตรี เมดเวเดฟของรัสเซียแนะนำให้รัสเซียอาจต้องใช้อาวุธนิวเคลียร์ กรณีมีความจำเป็นและเร่งด่วน
อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดีปูตินกล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วไว้ว่า เขาไม่ได้โกหกเมื่อพูดว่าพร้อมที่จะปกป้อง “บูรณภาพแห่งดินแดน” ของรัสเซียด้วยทุกวิถี และเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีปูตินกล่าวด้วยว่า การดำเนินการดังกล่าวจะขยายครอบคลุม 4 ดินแดนใหม่ที่รัสเซียเพิ่งอ้างสิทธิ์ด้วย ทั้งนี้การที่ยูเครนประกาศชัย ไม่ได้ระบุว่า สูญเสียกำลังพล หรืออาวุธไปมากน้อยแค่ไหน แต่ที่น่าจับตามองอีกนัยหนึ่งคือ นี่อาจจะเป็นแผนการที่รัสเซีย จะยกระดับสงครามให้รุนแรงขึ้น เพื่อปราบยูเครนในดินแดนอื่นอีกหรือไม่