ในขณะที่สหรัฐและตะวันตกกำลังบ่ายหน้ามากระตุ้นความขัดแย้งกับจีนในเอเชีย-แปซิฟิก สหรัฐได้พยายามทุกวิถีทางที่จะกีดกัน เตะตัดขาไม่ให้จีนก้าวรุดหน้าทั้งทางเศรษฐกิจ วิทยาศาสตร์ และการเมืองการทหารอย่างต่อเนื่อง แต่จีนยังคงมุ่งมั่นเดินหน้าพัฒนาตนเองอย่างไม่หยุดยั้ง
ล่าสุดวันชาติจีนซึ่งตรงกับวันที่ ๑ ต.ค. เป็นวันก่อตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีนครบรอบ ๗๓ ปี ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงได้นำเหล่าผู้นำพรรคและคณะบริหารประเทศ
ตลอดจนประชาชนร่วมพิธีแสดงความรำลึกถึงวีรชนผู้พลีชีพด้วยความเคารพและให้เกียรติอย่างสูง ทั้งประกาศจุดยืนอย่างชัดเจนว่า จะไม่ยอมให้พลังอำนาจใดขัดขวางการเจริญก้าวหน้าของจีน พร้อมปกป้องอธิปไตยของประเทศและร่วมมือกับพันธมิตรรักษาสันติภาพของโลกอย่างถึงที่สุด
วันที่ ๑ ต.ค.๒๕๖๕ สำนักข่าวซินหัวและซีจีทีเอ็นรายงานว่า ปธน.สี จิ้นผิงแห่งจีนได้นำคณะผู้บริหารระดับสูงของพรรคและสมาชิก เข้าร่วมพิธีรำลึกวีรชนผู้พลีชีพเพื่อการปฏิวัติและนำพาประเทศจีนพลิกฟื้นจนเติบโตยิ่งใหญ่มาจนปัจจุบัน
สีจิ้นผิง และคณะผู้นำคนอื่นๆของพรรคคอมมิวนิสต์จีน (CPC) และผู้บริหารประเทศ เข้าร่วมพิธีการวางพวงดอกไม้เพื่อรำลึกถึงเหล่าวีรชนของชาติผู้ล่วงลับณ จัตุรัสเทียนอันเหมิน ใจกลางกรุงปักกิ่ง เมื่อช่วงเช้าวันศุกร์ ที่ ๓๐ ก.ย.ที่ผ่านมา
กิจกรรมข้างต้นจัดขึ้นเนื่องในวันวีรชน (Martyrs’ Day) ก่อนวันชาติจีน ซึ่งตรงกับวันที่ ๑ ต.ค. ของทุกปี โดยคณะผู้นำคนอื่นๆ ประกอบด้วยหลี่เค่อเฉียง ลี่จ้านซู วังหยาง หวังฮู่หนิง จ้าวเล่อจี้ หานเจิ้ง และหวังฉีซาน รวมถึงมีตัวแทนจากทุกภาคส่วนเข้าร่วมพิธีการด้วย
ผู้นำจีนได้กล่าวสุนทรพจน์ในพิธีสวนสนามวันชาติ ณ จัตุรัสเทียนอันเหมิน เพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ ๗๐ ปีการก่อตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีน (PRC) ประกาศว่า “ไม่มีกำลังใดสามารถหยุดจีนจากการก้าวไปข้างหน้าได้”
สี จิ้นผิง ดำรงตำแหน่งเลขาธิการทั่วไปของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน และประธานคณะกรรมาธิการการทหารกลาง กล่าวย้ำว่า “เรารวมตัวกันที่นี่ในวันนี้เพื่อการชุมนุมครั้งใหญ่เพื่อเฉลิมฉลองการครบรอบ ๗๐ ปีการก่อตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีน” “ในขณะนี้ คนจีนจากทุกกลุ่มชาติพันธุ์ บุตรธิดาของชาติจีนทั้งในประเทศและต่างประเทศต่างภาคภูมิใจและขอส่งความปรารถนาดีไปยังมาตุภูมิอันยิ่งใหญ่ของเราด้วยความยินดีอย่างยิ่ง”
ผู้นำจีนระบุว่า “เมื่อวานของจีนถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ ในขณะที่จีนปัจจุบันกำลังถูกสร้างขึ้นในมือของคนจีนหลายร้อยล้านคน จีนจะมีอนาคตที่สดใสกว่านี้แน่นอน”
สีกล่าวเสริมว่า “สมาชิกพรรค กองกำลังติดอาวุธ และประชาชนทุกกลุ่มชาติพันธุ์ควรรวมตัวกันอย่างใกล้ชิดยิ่งขึ้น ยึดมั่นในภารกิจก่อตั้ง สร้างความสำเร็จที่มีอยู่ และพัฒนาสาธารณรัฐประชาชนของเราต่อไป ควรมีความพยายามอย่างต่อเนื่องเพื่อให้บรรลุ สองเป้าหมายร้อยปีและการฟื้นฟูชาติ”
ก่อนหน้านี้ สภาแห่งรัฐจัดงานเลี้ยงรับรองที่ห้องโถงใหญ่ของประชาชนในกรุงปักกิ่งเมื่อวันที่ ๓๐กันยายน เพื่อเฉลิมฉลองวันครบรอบ ๗๓ ปีของการก่อตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีน
งานเลี้ยงต้อนรับมีผู้เข้าร่วมโดยพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศจีน (CPC) และผู้นำของรัฐปธน.สี จิ้นผิง (Xi Jinping), นายกรัฐมนตรี หลี่ เค่อเฉียง(0Li Keqiang), รองนายกรัฐมนตรี หลี่ ฉานชู (Li Zhanshu) เป็นต้น รวมถึงแขกเกือบ ๕๐๐ คนจากทั้งในและต่างประเทศ
นายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อเฉียง กล่าวปราศรัยว่า พรรคฯจะจัดการประชุมระดับชาติครั้งที่ ๒๐ ในปีนี้ และเน้นย้ำถึงความสำคัญที่สำคัญของงาน
นายกรัฐมนตรีหลี่กล่าวว่า “ปีนี้เป็นปีที่สำคัญอย่างยิ่งในการพัฒนาของจีน “ในการเผชิญกับการพัฒนาที่ซับซ้อนและท้าทายทั้งในและนอกประเทศจีน ทั้งประเทศของเราภายใต้การนำที่แข็งแกร่งของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนซึ่งมีสหายสี จิ้นผิงเป็นแกนหลัก ได้ก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับแรงผลักดันและความมุ่งมั่น”
นายกรัฐมนตรีหลี่เน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นในการดำเนินธรรมาภิบาลเพื่อส่งมอบผลประโยชน์ให้กับประชาชน
หลี่ยังได้เน้นถึงการสนับสนุนความพยายามเพื่อสร้างความมั่งคั่งและความมั่นคงในระยะยาวของฮ่องกงและมาเก๊า ด้วยนโยบาย “หนึ่งประเทศ สองระบบ” รวมถึงนโยบายของคนฮ่องกงที่บริหารงานฮ่องกงและมาเก๊าได้ดำเนินการรุดหน้าอย่างมั่นคง เต็มที่ และซื่อสัตย์
หลี่ย้ำว่าจีนต่อต้านการเคลื่อนไหวแบ่งแยกดินแดน “เอกราชของไต้หวัน” และการแทรกแซงจากภายนอกอย่างแข็งขัน และส่งเสริมการรวมชาติอย่างสันติของความสัมพันธ์ข้ามช่องแคบอย่างอย่างจริงจัง
เมื่อสิ้นสุดช่วงวันหยุดยาวเพื่อเฉลิมฉลองวันชาติจีน ๑-๗ ต.ค.แล้ว ยังจะมีอีกวาระเหตุการณ์สำคัญที่จะเกิดขึ้นในเดือนตุลาคมปีนี้ นั่นก็คือ การประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีนครั้งที่ ๒๐ ในวันที่ ๑๖ ต.ค.ที่จะถึงนี้ ซึ่งการประชุมดังกล่าวจะจัดขึ้นทุก ๆ ๕ ปี และไฮไลท์ของประชุมสมัชชาฯ ครั้งนี้ ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ซึ่งอยู่ในตำแหน่งมา ๒ สมัย รวมเวลา ๑๐ ปี จะได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการพรรคและประธานาธิบดีจีนเป็นสมัยที่ ๓ ได้ปกครองประเทศอีก ๕ ปี ซึ่งไม่เคยมีมาก่อน เนื่องจากรัฐธรรมนูญเดิมระบุไว้ว่า วาระดำรงตำแหน่งดังกล่าวมีเวลาจำกัดสูงสุดเพียง ๒ สมัยเท่านั้น แต่สภาประชาชนแห่งชาติจีนลงมติในปี ๒๐๑๘/พ.ศ.๒๕๖๑ ผ่านความเห็นชอบให้แก้ไขธรรมนูญของพรรคฯว่าด้วยวาระการดำรงตำแหน่งของประธานาธิบดี จากที่จำกัดไว้สูงสุดเพียง ๒ สมัย ให้เป็นการดำรงตำแหน่งอย่างไม่มีกำหนด
