นับวันยิ่งดูเหมือนว่าเสรีภาพที่พรรคสีส้มอ้างจะเลยเถิด!!! เกินพอดีไปมากแล้ว จนนำมาซึ่งการถูกวิพากษ์วิจารณ์ ว่านี่เป็นการป่วนชาติหรือไม่??? ไม่ว่าเขียนประท้วงบนประตูในรัฐสภา ทั้งเรื่องแก้มาตรา 1 ซึ่งมีความผูกโยงกันอยู่!?! การจะเลิกเกณฑ์ทหาร ระเบียบแต่งตัวส.ส. ล่าสุด บวชพระตุ๊ด ฯลฯ เหล่านี้ล้วนเป็นคำถามที่สังคมสงสัยว่าทำเพื่ออะไร??? ใช่เพื่อก่อกระแสเรียกกองเชียร์หรือไม่???
4 ส.ค. 2562
นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กล่าวบนเวทีเสวนา “จินตนาการใหม่ ข้อตกลงใหม่ รัฐธรรมนูญใหม่ : ประเทศไทยแบบไหนที่เราอยากอยู่ร่วมกัน” ที่เชียงใหม่โดยเสนอกรอบแนวคิด 4 อย่างคือ 1. ประชาธิปไตยอำนาจสูงสุดเป็นของประชาชน 2. มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขภายใต้รัฐธรรมนูญ มีพระราชฐานะอยู่เหนือความขัดแย้งทางการเมือง
- มีรัฐสภาซึ่งแสดงออกถึงเจตจำนงของประชาชนอย่างแท้จริง และมีรัฐบาลที่มีประสิทธิภาพมีเสถียรภาพ 4. มีนิติรัฐ สิทธิเสรีภาพของประชาชนได้รับความคุ้มครองมีระบบตรวจสอบการใช้อำนาจ
15 ก.ย. 2562
น.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) กล่าวที่ ตลาดเกษตร จ.มหาสารคาม บนเวทีพรรคร่วมฝ่ายค้านและการมีส่วนร่วมของประชาชน จัดเสวนา “รัฐธรรมนูญนี้เพื่อใคร? รัฐธรรมนูญใหม่เพื่อคนไทยทุกคน”
“ดิฉันเห็นสมควรว่าต้องร่างใหม่ เพราะรัฐธรรมนูญฉบับนี้เฮงซวยทุกมาตรา เนื่องจากกระบวนการที่ทำให้ได้มาซึ่งรัฐธรรมนูญไม่ชอบธรรม ประชาชนไม่ได้มีส่วนร่วมในการร่าง แต่การร่างรัฐธรรมนูญใหม่ผ่านกระบวนการส.ส.ร. และการทำประชามติ”
28 ก.ย. 2562
ที่ลานวัฒนธรรม หน้าศาลากลางจังหวัดปัตตานี 7 พรรคฝ่ายค้านจัดเวทีรณรงค์แก้รัฐธรรมนูญสัญจร ครั้งที่ 4 ภายใต้หัวข้อ “พลวัตแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ สู่นับหนึ่งรัฐธรรมนูญใหม่” มีแกนนำพรรคร่วมฝ่ายค้านเข้าร่วม อาทิ นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ฯลฯ รวมทั้งนักวิชาการอย่างชลิตา บัณฑุวงศ์ อาจารย์คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
โดยชลิตา กล่าวช่วงหนึ่งว่า การแก้ปัญหาของประเทศไทยอาจไม่ต้องอยู่กันเป็นรัฐเดี่ยวหรือรวมศูนย์ก็ได้ การแก้รัฐธรรมนูญอาจแก้มาตรา 1 ด้วยก็ไม่เห็นจะแปลกอะไร”
4 ก.ค. 2562
ที่หอประชุมสภาชั่วคราว อาคารทีโอที ได้มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ส.ส.หญิงพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) และพรรคเพื่อไทย (พท.) สร้างความฮือฮาด้วยการแต่งกายชุดไทยลานนา ตามละคร เนื่อง“กลิ่นกาสะลอง”
น.ส.พรรณิการ์ โพสต์ข้อความผ่านทวีตเตอร์ Pannika Wanich ระบุว่า “เพราะความเป็นไทยไม่ได้มีแค่แบบเดียว #อนาคตใหม่ อยากทำให้สภาเป็นภาพสะท้อนความหลากหลายทั้งทางเชื้อชาติ ศาสนา วัฒนธรรม เราจะพยายามแต่งกายด้วยชุดที่หลากหลาย นำผ้าจากแต่ละภูมิภาคเข้ามาสู่สภา และยังเป็นการส่งเสริมสินค้าท้องถิ่น
10 ก.ค 2562
ที่หอประชุมใหญ่ทีโอที นายธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ ได้แต่งสูทสากลสีแสด พร้อมเนกไทสีเหลือง มาร่วมการประชุมสภาผู้แทนราษฎร
โดยนายธัญวัจน์ กล่าวถึงการแต่งกายของตน ถือว่าแต่งเรียบร้อยประมาณร้อยละ 30 พร้อมยืนยัน การแต่งกายของตนที่ผ่านมาเป็นการกระจายอำนาจทางความคิด วัฒนธรรมและเศรษฐกิจ และส่วนตัวเชื่อว่ากาลเทศะสามารถเดินไปคู่กับความคิดสร้างสรรค์ได้เสมอ ทั้งนี้พรรคอนาคตใหม่ไม่ได้นัดกันแต่งตัว ทุกคนแต่งตัวตามสไตล์ของตัวเอง คงจะเห็นภาพของวาไรตี้
10 ก.ค. 2562
นายอรรถกร ศิริลัทธยากร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ กล่าวอภิปรายในร่างข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฏร ในประเด็นการแต่งกายของสมาชิกส.ส. ว่า ตนเป็นห่วงกลุ่มส.ส.ชายของพรรคอนาคตใหม่ที่แต่งกายไม่ให้เกียรติสถานที่ บางคนใส่เสื้อโปโลและสวมเสื้อสูท ไม่ผูกเน็คไท
20 พ.ย. 2562
หลังจากคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งบัลลังก์อ่านคำวินิจฉัยคดีถือหุ้นสื่อของนายธนาธร โดยมีมติเสียงข้างมากให้ นายธนาธร พ้นจากสถานภาพสมาชิกภาพความเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) นับตั้งแต่วันที่ 23 พฤษภาคม 2562
ต่อมา ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ ได้เขียนให้กำลังใจนายธนาธร ที่ถูกศาลวินิจฉัยหมดสมาชิกสภาพ บริเวณประตูกระจกทางเข้าห้องพัก ส.ส.อนาคตใหม่ ณ รัฐสภาแห่งใหม่ ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักถึงความเหมาะสมกับการใช้สถานที่ราชการในลักษณะดังกล่าว
24 พ.ย.2562
นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้เลขาธิการสภาผู้แทนฯเอาผิดพลพรรค อนค.ที่ “มือบอน”ขีดเขียนประตูกระจกรัฐสภาทำให้ทรัพย์สินของราชการเสียหาย การกระทำดังกล่าว อาจถือได้ว่าเป็นการเจตนาที่จะทำให้ทรัพย์สินของทางราชการเสียหาย ทำให้เสื่อมค่า หรือทำให้ไร้ประโยชน์ซึ่งเป็นทรัพย์ที่ใช้หรือมีไว้เพื่อสาธารณประโยชน์
ซึ่งต้องห้ามตามประมวลกฎหมายอาญา ม.360 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ นอกจากนั้นยังอาจเข้าข่ายความผิดตาม ม.12 ของ พรบ.รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง 2535 ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 5 พันบาทอีกด้วย
14 พ.ย. 2562
ที่รัฐสภา (เกียกกาย) พล.ท.พงศกร รอดชมภู รองหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พร้อมด้วย ส.ส.ของพรรคอนาคตใหม่ ร่วมแถลงข่าวการเสนอร่างแก้ไข พ.ร.บ.รับราชการทหาร มีหลักการเพื่อยกเลิกการเกณฑ์ทหารที่ทำมากกว่า 100 ปี และจะให้มีหลักกติกาสากลเหมือนทหารในประเทศพัฒนาแล้ว โดยอ้างว่าเป็นหลักการตามแนวทางของพรรค คือปฏิรูประบบกองทัพ
24 พ.ย. 2562
ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายธนาธร พร้อมด้วยทีมงานพรรคอนาคตใหม่ สาขาจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เดินทางรณรงค์ยกเลิกการณ์เกณฑ์ทหาร ซึ่งเป็นหนึ่งในเรื่องสำคัญที่อยู่ใน ร่าง พ.ร.บ.รับราชการทหาร ที่พรรคอนาคตใหม่ได้เสนอต่อสภาผู้แทนราษฎรไปแล้ว
23 พ.ย.2562
วาสนา นาน่วม ผู้สื่อข่าวสายทหารชื่อดัง ได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊ก Wassana Nanuam โดยนำบทความที่อ้างว่าเป็นของนายทหารคนสำคัญของกองทัพอากาศที่เขียนถึงการต่อต้านการเป็นทหาร โดยข้อความส่วนหนึ่งระบุว่า
อันตราย!!
ยกเลิกเกณฑ์ทหาร
“นายพลทัพฟ้า” ฉะ แนวคิด ยกเลิกเกณฑ์ทหาร เป็นอันตรายต่อชาติ….หากใช้ระบบสมัครใจ แล้ววันหนึ่ง ไม่มีคนอยากสมัคร หรือสมัครน้อย ไม่มีกำลังทหาร จะทำอย่างไร….ชี้เดิม เป็นระบบเท่าเทียม ไม่ใช่คนรวย ไม่ต้องเป็นทหาร คนจนเท่านั้นที่ต้องเป็น
กองทัพต้องการ สร้างทหารที่แข็งแกร่งใน 24 เดือน เผยที่ผ่านมา สมัคร เป็นแค่6เดือน-12เดือน แล้วแต่วุฒิการศึกษา ชี้ การเกณฑ์ทหาร เป็นการสร้าง “เม็ดเลือดขาว” ของร่างกาย ระบุ มันเป็น วิทยาศาสตร์ ประชาชน เป็น”เม็ดเลือดแดง” ชี้ ต้องถูกสร้างมาโดยไขกระดูก คือ กองทัพ
“ต่อต้านการเป็นทหาร” เท่ากับ ไม่รู้เรื่องราวทางวิทยาศาสตร์ทางธรรมชาติ
“ต่อต้านการเป็นทหาร” เท่ากับ นำพาสังคมสู่ความหายนะ
“ต่อต้านการเป็นทหาร” แท้จริงแล้ว มันเป็นเพียงเรื่องราวของคนไทยกลุ่มหนึ่ง ผู้ไม่รู้ไม่เข้าใจในวิทยาศาสตร์ทางธรรมชาติแม้แต่น้อย เท่านั้น
การต่อต้านการเป็นทหารในประเทศไทยในประเทศไทยในขณะเวลานี้แท้จริงก็คือ ผลผลิตของความคิดที่ไม่เป็นวิทยาศาสตร์ทางธรรมชาติอันถือเป็นอันตรายยิ่งต่อชาติบ้านเมือง
นั่นคือข้อความของ “เสืออากาศ 24/7” นายทหารอากาศระดับนายพล คนสำคัญของ ทอ. ที่เขียนบทความ เรื่อง “ต่อต้านการเป็นทหาร ซึ่งถูกนำมาเผยแพร่ต่อโดย วาสนา ด้วยการโพสต์ในเฟซบุ๊ก Wassana Nanuam เมื่อวันที่23 พ.ย.ที่ผ่านมา
24 พ.ย. 2562
ธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์” ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ 1 ใน 4 ส.ส. LGBT โพสต์ผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัวว่า “หากกะเทยมีความศรัทธาในศาสนา ทำไมสังคมบางส่วนจึงมองว่า เป็นพระตุ๊ด พระแต๋ว และไม่เหมาะสม ความศรัทธาทำไมจึงมีเรื่องเพศที่กำหนดการเข้าถึง มันไม่ควรจะเกี่ยวกับเรื่องเพศไม่ใช่หรือ”
24พ.ย.2562
พระมหาไพรวัลย์ วรวัณโณ พระนักเทศน์ชื่อดังวัดสร้อยทอง กล่าวถึงกรณีนายธัญวัจน์ โดยมองว่า เรื่องนี้ไม่ควรเป็นประเด็นที่มาดราม่า หากศึกษาพระธรรมวินัยให้ถ่องแท้ คำถามแบบนี้ก็จะไม่เกิด ซึ่งไม่มีข้อห้ามเพศที่3 บวช แต่หากจะเข้ามาบวชจะต้องเปลี่ยนพฤติกรรม ไม่แต่งหน้าทาปาก วัตรปฏิบัติต้องสำรวม
นอกจากนี้ พระมหาไพรวัลย์ ยังได้อธิบายข้อปฏิบัติผ่านเฟซบุ๊ก ว่า ในข้อพระวินัย มีการอธิบายเกี่ยวกับคำว่าบัณเฑาะก์ไว้ชัดเจนมาก ว่าหมายถึงบุคคลประเภทไหน บัณเฑาะก์อย่างไรห้ามการบวช บัณเฑาะก์อย่างไรไม่ห้าม เวลาตั้งคำถามต่อเรื่องพวกนี้ ต้องกลับไปดูคำที่ใช้ในข้อพระวินัย ไม่ใช่เอาคำไทยเป็นที่ตั้ง พระพุทธเจ้าท่านไม่ได้ห้าม ตุ๊ด เกย์ ไม่ให้บวช
ท่านใช้คำว่าบัณเฑาะก์ ซึ่งเป็นคำที่มีคำอธิบายมากกว่าแค่เรื่องของเพศสภาพแบบที่สังคมเราเข้าใจกัน บัณเฑาะก์ในทางพระวินัย หมายถึงบุคคลที่มีความบกพร่องทางเพศด้วย เช่น คนที่มีอวัยวะเพศไม่ปรากฎ บวชได้แน่ แต่การบวชไม่ใช่แค่เรื่องว่าการผิดหรือไม่ผิด เหมาะสมหรือไม่เหมาะสมของเพศสภาพ พฤติกรรมเสียหายและละเมิดพระวินัยหลังบวชต่างหากที่สำคัญ และเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเพศสภาพ
พฤติกรรมนี้คือคำถามที่สังคมคนไทยได้ตั้งต่อพรรคอนาคตใหม่ว่าทำไปเพื่ออะไรกันแน่ เพราะที่พูดและทำออกมาแต่ละเรื่องนั้น แม้จะเป็นสิ่งที่คิดและพูดได้แต่ต้องควรไตร่ตรองใคร่ครวญด้วยใช่หรือไม่ว่า??? ไม่สร้างความปั่นป่วนแตกแยกให้กับประเทศชาติ??? ต้องไม่เกินขอบเขตจนเลยเถิดไปจากความเป็นจริงของสังคมที่ตนสังกัดอยู่!!!
สุดท้ายพื้นฐานความคิด หากจัดอยู่ในจำพวกเสรีนิยม ก็ต้องไม่ไร้เดียงสา คิดเพียงเรื่องเสรีภาพ แต่ไม่ดูพื้นฐานความเป็นจริงแบบนี้ จะถูกสงสัยได้ว่า สร้างกระแส เรียกกองเชียร์เพื่อให้ประโยชน์แก่พรรคและคนของตัวเองเท่านั้น???
