ท่ามกลางการสู้รบคุโชนในยูเครน วันที่ ๓๐ ก.ย.๒๕๖๕ วันประวัติศาสตร์แห่งการคืนสู่เหย้าของชาวรัสเซียที่ทั่วโลกเป็นพยาน ปธน.วลาดิเมียร์ ปูตินปราศรัยอย่างดุดันพร้อมลงนามผนวกดินแดน ๔ แคว้นซึ่งเคยเป็นของสหภาพโซเวียตรัสเซียในอดีต ต้อนรับลูกหลานสลาฟกลับคืนสู่อ้อมอกแผ่นดินแม่ เนื้อหาการปราศรัยมีหลักใหญ่คือ
๑.รัสเซียจะปกป้องแผ่นดินรัสเซียด้วยกองทัพและทรัพยากรที่มีอย่างเต็มที่
๒.จะไม่มีชาติตะวันตกไหนๆ เป็นจ้าวโลกแต่เพียงผู้เดียวอีกต่อไป (Western hegemony)
๓.เราจะต่อสู้เพื่อประเทศรัสเซียที่ยิ่งใหญ่และมีประวัติศาสตร์นี้
๔.ขณะนี้ อเมริกากำลังยึดครองเยอรมนี ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ไว้ในอำนาจของตน
๕.ยูเครนควรหันมาเจรจากับรัสเซียบนเงื่อนไขไม่เปลี่ยนแปลงการผนวก๔แคว้น
พร้อมกุมมือผู้นำ ๔ แคว้นประกาศกระหึ่มห้องประชุม “รัส-ซิ-ยา” รัสเซีย รัสเซีย รัสเซียฯ
ภายใต้บรรยากาศแห่งความสุขและความภารภูมิใจของคนรัสเซีย เคียฟได้ระเบิดโจมตีขบวนรถพลเรือนในซาโปริชเชียที่กำลังอพยพไปยังรัสเซีย ดับอย่างน้อย ๒๔ ราย ขณะเดียวกันปธน.เซเลนสกี้ ก็ได้ประกาศยื่นใบสมัครเข้านาโต้แบบเร่งด่วนเพื่อเปิดทางให้นาโต้เข้าสู่ความยัดแย้งโดยตรง แต่น่าจะแห้วเพราะขาใหญ่นาโต้ออกมาปฎิเสธว่าผิดกฎ เพราะนาโต้จะไม่รับประเทศที่เป็นคู่ขัดแย้งมีการพิพาทสู้รบ อีกทั้งยังอ้างว่าต้องมีหลายขั้นตอน ซ้ำยังย้ำอีกว่านาโต้ไม่ได้ต้องการชนกับรัสเซียโดยตรง พูดอย่างทำอีกอย่างเหมือนลูกพี่อเมริกา เพราะทั้งอังกฤษ-โปแลนด์เคลื่อนไหวกำลังพลชัดเจนที่ชายแดนเบลารุสและรอบๆคาลินินกราด
แล้วก็เป็นไปตามคาด สหรัฐและอียูออกมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียรอบที่ ๘ เพื่อตอบโต้การผนวกดินแดนอิสระ ๔ แคว้นเข้ากับดินแดนรัสเซียคว่ำบาตรไปถึงกระดาษชำระรัสเซียโน่นแต่ไม่คว่ำบาตรเพชรรัสเซีย
วันที่ ๑ ต.ค.๒๕๖๕ สำนักข่าวรัสเซียทูเดย์และสปุ๊ตนิกรายงานว่าปธน.วลาดิเมียร์ ปูติน ได้ลงนามในสนธิสัญญาเกี่ยวกับการรวมดินแดนที่เคยอยู่ในยูเครน ๔ แห่งเข้าสู่สหพันธรัฐรัสเซีย พิธีในวันศุกร์เป็นจุดเริ่มต้นของกระบวนการอย่างเป็นทางการของการภาคยานุวัติ
หัวหน้าสาธารณรัฐโดเนตสค์และลูแกนสค์, เดนิส ปูชิลิน และลีโอนิด ปาเซคนิก รวมถึงผู้นำของเคอร์ซอนและซาโปโรซี, วลาดิมีร์ ซัลโด และเยฟเจนีย์ บาลิตสกี ลงนามในเอกสารร่วมกับปูตินตามผลที่ประกาศเมื่อต้นสัปดาห์นี้โดยคณะกรรมการการเลือกตั้งท้องถิ่น โดเนตสค์ ๙๙.๒๓% ลูฮันสก์ ๙๘.๔๒% ซาโปริชเชีย ๙๓% เคอร์ซอน ๘๗%
ปธน.ปูตินกล่าวสุนทรพจน์ครั้งประวัติศาสตร์ ในพิธีลงนามที่จตุรัสแดง กรุงมอสโกว์ โดยเขาได้ลงนามในสนธิสัญญาปูทางสำหรับการรวมดินแดนที่เคยอยู่กับอดีตสหภาพโซเวียต ๔ แห่งเข้าสู่สหพันธรัฐรัสเซีย เหนือสิ่งอื่นใด ประธานาธิบดีให้ความเห็นเกี่ยวกับอนาคตของภูมิภาคทั้งสี่ในรัสเซียว่า จะมีการเจรจาที่เป็นไปได้กับเคียฟ และนโยบายลัทธิอาณานิคมใหม่ หรือนีโอโคโลเนียลลิสต์(neocolonialist) ของสหรัฐฯและพันธมิตร เป็นรากเหง้าของวิกฤตการณ์สมัยใหม่มากมายที่เกิดขึ้นบนโลก
ปธน.ปูตินปราศรัยตอกย้ำว่า “มอสโกว์จะปกป้องทางเลือกของประชาชนและต่อต้านลัทธิอาณานิคมใหม่ของตะวันตก”
เขากล่าวว่า “โลกได้เข้าสู่ยุคใหม่ของ “การเปลี่ยนแปลงเชิงปฏิวัติ” ศูนย์กลางอำนาจและการพัฒนาแห่งใหม่ซึ่งเป็นตัวแทนของประชาคมระหว่างประเทศส่วนใหญ่กำลังก่อตัวขึ้น พวกเขาไม่เพียงแค่พร้อมที่จะยืนหยัดเพื่อผลประโยชน์ของพวกเขาอย่างเปิดเผย แต่ยังพร้อมยจะปกป้องผลประโยชน์ของพวกเขาไม่ยอมให้ใครมาปล้น”
ผู้นำรัสเซียย้ำว่า “การล่มสลายของอำนาจตะวันตกนั้นไม่สามารถย้อนกลับได้”รัสเซียกำลังต่อสู้เพื่อแนวทางที่ยุติธรรมและเสรี”
ด้านสหรัฐฯ ออกมาตรการคว่ำบาตรบุคคลและบริษัทสัญชาติรัสเซียหลายร้อยราย โดยเฉพาะข้าราชการระดับสูงและครอบครัวของรัฐบาลรัสเซียและเบลารุส รวมถึงผู้ให้การสนับสนุนอาวุธแก่รัสเซีย ภายหลังปธน.ปูตินลงนามในรับรองความเป็นอิสระของแคว้นซาปอริซเซียและแคว้นเคอร์ซอน หนึ่งวันก่อนพิธีลงนามผนวกแคว้นทั้ง ๔ ในวันที่ ๓๐ ก.ย.
เยนส์ สโตลเทนเบิร์ก เลขาธิการNATO กล่าวว่า “นาโต้มิอาจยอมรับการผนวกดินแดนของรัสเซียได้ เนื่องจากดินแดนดังกล่าวรัสเซียได้มาโดยมิชอบ และไม่เป็นไปตามหลักการประชาธิปไตย”
ด้านสถานการณ์สู้รบในยูเครน เคียฟโจมตีขบวนรถลี้ภัยที่กำลังมุ่งหน้าเข้าสู่พื้นที่ควบคุมโดยรัสเซียของภูมิภาคซาโปริชเชียตามรายงานของหน่วยงานท้องถิ่นมีผู้เสียชีวิต ๒๔ ราย จุดอันตรายในโซนแครสนี ลิมาน(Krasny Liman)จากที่ตั้งรับกำลังพลิกกลับเป็นรุกเพราะกำลังเสริมทั้งกองทหารและอาวุธเพียบ
เดนิส ปูชิลิน (Denis Pushilin) หัวหน้าสาธารณรัฐประชาชนโดเนตสค์ (DPR) เปิดเผยเมื่อวันพฤหัสบดีว่า กองกำลังพันธมิตรกำลังพลิกสถานการณ์ที่เมืองแครสนี ลีมันอย่างฮึกเหิมหลังจากตั้งรับมาหลายวันอย่างเด็ดเดี่ยว