จากกรณีสำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโรม ประเทศอิตาลี เมื่อวันที่ 26 กันยายน เอ็กซิตโพลการเลือกตั้งทั่วไปในอิตาลี ซึ่งเป็นการเลือกตั้งทั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภาชุดใหม่นั้น
ทั้งนี้ปรากฏว่า พรรคบราเธอร์ส ออฟ อิตาลี ซึ่งเป็นพรรคขวาจัดภายใต้การนำของนางจอร์เจีย เมโลนี ได้รับการเลือกตั้งระหว่าง 22-26% ทิ้งห่างพรรคคู่แข่งสำคัญ คือพรรคประชาธิปไตย ซึ่งเป็นพรรคสายกลาง-ซ้าย ของนายเอ็นริโก เลตตา อดีตนายกรัฐมนตรี
ด้าน เมโลนี ยืนยันว่า พรรคของเธอเป็นเพียงพรรคอนุรักษนิยมทั่วไป ไม่ใช่พรรคฟาสซิสต์ เธอมีจุดยืนสนับสนุนนโยบายของอียูเรื่องยูเครน และจะไม่ดำเนินการใดก็ตาม ที่จะเป็นการ เพิ่มความเสี่ยงให้กับเศรษฐกิจของอิตาลี ซึ่งมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ในยูโรโซน แต่ยังคงเผชิญกับสภาวะหนี้สินล้นพ้นตัว
ล่าสุดวันนี้ 28 กันยายน 2565 ดร.ปฐมพงษ์ โพธิ์ประสิทธินันท์ นักวิชาการทางบูรพคดีศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล ได้ออกมาโพสต์ข้อความถึงนายกใหม่อิตาลีผ่าน Blockdit ด้วยว่า
“นโยบายพื้นฐานของนางจิโอร์เจีย เมโลนี (Georgia Meloni) นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของอิตาลี:พูดถึงนโยบายหลักของเธอสั้นๆ นะครับ เดี๋ยวเมื่อปฏิบัติงานจริงๆ ผมเชื่อว่าจะทยอยออกมาให้อ่านเป็นระยะๆครับ
๑.ต่อต้านการทำแท้ง เพราะเธอเป็นชาวคริสต์ ๒. ยึดมั่นประเพณีครอบครัวที่อยู่บนพื้นฐานศาสนา ๓.ต่อต้าน LGBTQ ๔.ต่อต้านสงครามในยูเครนที่อเมริกาอยู่เบื้องหลัง
๕.อิตาลีต้องการเป็นมิตรกับรัสเซียมากกว่า ไม่ใช่อเมริกา ๖.ต่อต้านการคว่ำบาตรรัสเซีย ๗.ต่อต้านการขยายตัวของนาโต้ซึ่งก่อให้เกิดสงครามที่ยูเครน ฯลฯ
คลิปที่ผมให้ดูคราวก่อน (https://fb.watch/fP4qmNeUIr/) เป็นตอนที่เธอพูดต่อต้านวัฒนธรรมเดี่ยว (monoculture) เสรีนิยมของนโยบายจัดระเบียบโลกใหม่ครับ ซึ่งมุ่งให้วัฒนธรรมเสรีนิยมระบาดไปทั่วโลก ทำลายอุดมการณ์ทางศาสนา ทำลายวัฒนธรรมครอบครัว ทำลายวัฒนธรรมประเพณีพื้นเมืองเดิมของท้องถิ่น ทำลายค่านิยมทางศาสนา ฯลฯ
และวัฒนธรรมเสรีนิยมจากประเทศทุนนิยมสุดโต่งของอเมริกานี้กำลังถูกนำมาล้างสมองคนทั้งโลกผ่านสื่อโซเชียลมิเดีย (FB Twitter Instagram Youtube เป็นต้น)
ประเทศที่มีผู้นำได้สติ จึงพยายามสร้าง platforms ใหม่ๆ ขึ้นมาใช้ในประเทศของตนเอง ไม่ว่ารัสเซีย เกาหลีเหนือ จีน หรือ เมียนมาร์ โดยเฉพาะรัฐบาลเกาหลีเหนือ ไม่ส่งเสริม K-pop หรือวัฒนธรรมเสรีนิยม แต่เกาหลีใต้กลับรับวัฒนธรรมอเมริกามาอย่างเต็มๆ เมียนมาร์ก็พยายามสร้าง MTube ของตนเองขึ้นมาแทน Youtube ของมะกัน
ส่วนไทยนั้น ยังไม่เห็นคิดทำอะไรจริงจัง เพราะรัฐบาลยังมีวิสัยทัศน์ไม่ชัดเจนในเรื่องวัฒนธรรม ยังมองไม่เห็นปัญหาเชิงวัฒนธรรมที่มาพร้อมๆ กับสื่อโซเชียลมิเดีย/สื่อกระแสหลักของโลกอยู่
คนที่ดูแลรับผิดชอบในเรื่องนี้เป็นนักการเมืองที่ได้ตำแหน่งมาเพราะเป็นสมาชิกพรรคการเมือง ไม่ได้รับการรับเลือกมาเพราะเข้าใจปัญหาทางวัฒนธรรมดีเป็นพิเศษอะไร
ไทยเราจึงกำลังถูก *วัฒนธรรมเดี่ยว* (mono-culture) เสรีนิยมของระบบทุนนิยมเสรีครอบงำเต็มตัว ถ้าไม่รีบแก้ไขเสียตอนนี้ ไทยจะตกเป็นทาสทางวัฒนธรรมของอเมริกาอย่างชนิดโงหัวไม่ขึ้นในอนาคต และวัฒนธรรมเดี่ยวเสรีนิยมนี้ก็กำลังทำลายวัฒนธรรมไทยถึงรากเหง้าอยู่ด้วย”