หลังจากที่หลาย ๆ ประเทศให้การติดตามสถานการณ์สงครามในรัสเซีย-ยูเครน อย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางการลงประชามติ 4 แคว้น ที่ใกล้จะรู้ผลตัดสินขาดแล้ว ว่าประชากรส่วนใหญ่นั้น เห็นด้วยกับการรวมแคว้นกับรัสเซีย และยินยอมให้รัสเซียปกป้องแคว้นให้รอดพ้นจากการยึดคืนของยูเครน
ขณะที่สถานการณ์ในรัสเซีย ภายหลังระดมพลทหารจำนวนมาก ก็เริ่มมีทหารบางส่วนออกไปปฎิบัติภารกิจแล้ว โดยมีคลิปเผยแพร่ ขณะที่ประชาชนในมอสโก ต่างออกมาร้องเพลงสรรเสริญ เสริมกำลังให้พลทหาร เพื่อไปทำภารกิจให้ชาติ รวมทั้งยังมีรายงานสถานการณ์บริเวณชายแดนรัสเซีย มีรถถัง รถหุ้มเกราะ มากกว่า 20 คัน มุ่งหน้าไปยัง Narva พรมแดนติดต่อกับรัสเซียด้วย ถือเป็นการขนยุทโธปกรณ์ครั้งใหญ่ ภายหลังมีคำสั่งเกณฑ์ทหาร 3 แสนนายที่ปูตินได้บัญชาการไว้ก่อนหน้านี้
การเคลื่อนพลของรัสเซียครั้งนี้ มีเป้าประสงค์จะยึดพื้นที่ยูเครนเพิ่ม และจำเป็นต้องทำลายล้างอาวุธของนาโต้ให้หมดสิ้น หลังจากสงครามยืดยื้อมานานจนเกินไป ทำให้การรบครั้งนี้ ยังไม่มีฝ่ายใดคาดเดาได้ว่า รัสเซียจะใช้แผนไหน ทั้งยูเครนที่เชื่อว่ารัสเซียพร้อมใช้อาวุธนิวเคลียร์จริง ๆ และยังไม่มีหนทางที่จะสู้ เนื่องจากกำลังรออาวุธจากตะวันตก แต่งานนี้เซเลนสกี ก็สั่งให้กองทัพออกระดมกำลังพล ให้ได้มากกว่าที่รัสเซียมี เพื่อหวังว่าจะยื้อเวลาในเกมรบออกไปให้ได้อีกระยะหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม บรรดากูรูด้านสงครามได้วิเคราห์ว่า ประธานาธิบดีปูติน กำลังสั่งสอนผู้สนับสนุนชาติตะวันตกของรัฐบาลยูเครนที่สร้าง “ภัยคุกคาม” ต่อต้านรัสเซีย และเตือนว่า การข่มขู่คุกคามใด ๆ ต่อบูรณภาพทางดินแดนของรัสเซียอาจเผชิญกับอาวุธชนิดใดก็ได้ที่รัฐบาลรัสเซียเห็นว่า จำเป็นต้องใช้ “ประเทศของเรามีอาวุธทำลายล้างสูงที่หลากหลายด้วย และในบางประเภท เป็นอาวุธที่ทันสมัยมากกว่าที่บรรดาประเทศนาโต้ครอบครองด้วยซ้ำ”
