จากการที่หลายเมืองของยูเครนถูกรัสเซียเข้าควบคุม เพื่อปลดปล่อยออกจากรัฐบาลเพื่อปกครองบริหารกันเอง โดยมีเมืองสำคัญแยกตัวออกมาผ่านการทำประชามติถามประชาชน ซึ่งจะอยู่ภายใต้การดูแลคุ้มครองจากรัสเซียต่อไป
ทั้งนี้วันที่ 26 กันยายน 2565 ดร.ปฐมพงษ์ โพธิ์ประสิทธินันท์ นักวิชาการทางบูรพคดีศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล ได้เปิดเผยข้อมูลที่น่าสนใจผ่านการโพสต์ลง Blockdit ซึ่งเป็นการวิเคราะห์คาดการณ์ภายหลังจากการลงประชามติเสร็จสิ้นว่า
“เมื่อสงครามจริงแพ้ สงครามข่าวปลอมก็ถูกปล่อยออกมา:ตอนนี้ รัสเซียกุมชะตากรรมเซเลนสกีและกองทัพเซเลนสกีอย่างสิ้นเชิง ทุกอย่างจะคลี่คลายลงเมื่อมีการลงประชามติเสร็จเรียบร้อย ซึ่งมีตารางดังนี้ครับ
๑.วันอังคารคือวันสุดท้ายของการลงประชามติ ๒.วันพุธถัดไปคือวันที่สภาดูม่าของรัสเซียจะลงมติรับเมืองต่างๆ ๔ เมืองที่ประชาชนลงประชามติในยูเครนเข้าเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซีย
๓.วันพฤหัสบดีถัดไป สภาสหพันธรัฐรัสเซียจะโหวตรับเข้าเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซีย ๔.วันศุกร์ ในฐานะประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิเมียร์ ปูตินจะแถลงต่อสภาสหพันธรัฐรัสเซียเพื่อรับรองให้เมือง ๔ เมืองเป็นส่วนหนึ่งของสหพันธรัฐรัสเซีย
พิธีกรรมสิ้นสุดลง ถัดจากนั้น อาจจะในวันเดียวกัน วลาดิเมียร์ ปูติน หรือไม่ก็รมว.กระทรวงกลาโหมของรัสเซีย จะออกแถลงการณ์ในเชิงคำราม ประกาศสงครามใส่ยูเครน และยื่นคำขาดให้กองทัพยูเครนที่เข้ามารุกรานใน ๔ เมืองอยู่ขณะนี้ ต้องรีบม้วนเสื่อถอยทัพกลับไปที่ตั้งเสียโดยทันที
มิฉะนั้นแล้ว จะเจอการรบจริงจังของกองทัพรัสเซีย รัสเซียจะประเคนอาวุธหนักบรรดามีใส่เต็มที่กับกองทัพยูเครนที่รัสเซียถือว่าเข้ามาบุกรุกแผ่นดินรัสเซีย
ดูๆ แล้ว ยูเครนทำท่าจะไม่มีอนาคต เพราะขณะนี้ รับเงินช่วยเหลือจากอเมริกาเดือนละแค่ ๑ พันกว่าล้านดอลล่าร์สหรัฐอเมริกาเท่านั้นเพื่อให้รัฐบาลตนไปรอด ทั้งๆ ที่อเมริกาเองก็กำลังย่ำแย่อย่างหนัก
กุนซือนาโต้คงมองอนาคตข้างหน้าออกแล้ว จึงพยายามดิ้นเฮือกสุดท้าย ใช้หน่วยรบกลุ่มสุดท้ายคือหน่วยทำสงครามข่าวปลอม โดยปล่อยข่าวเท็จออกมาหลายข่าว เช่น ปล่อยข่าวเท็จว่าปูตินรอดจากการถูกลอบสังหาร ปล่อยข่าวเท็จว่าปูตินกำลังหาที่ซ่อนตัวอยู่
ดราม่าข่าวว่าชาวรัสเซียกำลังหลบหนีประเทศ ดราม่ารัสเซียหาคนมาเกณฑ์ทหารไม่ได้ (ในความเป็นจริง รับสมัครแค่ ๓ แสนแต่ผู้มาสมัครเกินโควต้าไปแล้ว) เป็นต้น
สีจิ้นผิง ไม่ต้องการให้โควิด ๑๙ ระบาดในช่วงวันชาติและวันประชุมสภาคอมมิวนิสต์ในเดือนหน้า…เหมือนๆ กับที่ไวรัสโควิด ๑๙ เคยระบาดในวันตรุษจีนเมื่อปีพ.ศ.๒๕๖๒ จึงปลีกตัวไปประชุมวางมาตรการเข้มงวดอยู่ ก็ปล่อยข่าวลวงว่าเขากำลังถูกทำรัฐประหาร
ผมเดานะครับ เมืองโอเดสซา มิโคลาเยฟ ดนีปรอ และเมืองคาร์คิฟน่าจะตกเป็นของรัสเซียไปเรียบร้อยในเดือนหน้าด้วย มิหนำซ้ำในเดือนหน้า กองทัพรัสเซียอาจจะจ่อกรุงเคียฟไปด้วยเลยเพื่อคุกคามเซเลนสกีให้ยอมมอบตัว จำคำพูดของผมเอาไว้นะครับ”
ขณะที่ Blockdit World Update ได้โพสต์ข้อความพร้อมภาพถึงท่าทีของรัสเซียต่อการประชุมของยูเอ็นด้วยว่า “ล่าสุดนาย Sergey Lavrov รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย แถลงการณ์ต่อสมาชิกนานาชาติ ในการประชุมสมัยที่ 77 สหประชาชาติ (UN) ว่า “รัสเซียจะปกป้องความปลอดภัยของประชาชนและดินแดนที่ผนวกเข้ากับอาณาเขตของเราจากการลงประชามติ จะอยู่ภายใต้การคุ้มครองเต็มรูปแบบของรัฐธรรมนูญรัสเซีย”
แสดงเจตนาเปิดเผยแต่นานาชาติสากล ว่า รัสเซียจะใช้กำลังและอาวุธทุกชนิดที่มีตอบโต้ชาติใดก็ตามที่ทำให้พลเมือง และดินแดนของตนไม่ปลอดภัย ไม่สงบเรียบร้อย อันเป็นสิทธิตามกฎหมายสากล”