หลังจากที่มอสโกเดินหน้าทำประชามติผนวก 4 เขตทางตะวันออกและใต้ของยูเครน พร้อมยืนยันว่า ดินแดนเหล่านั้นจะอยู่ภายใต้ “การปกป้องอย่างสมบูรณ์” หากตกลงผนวกเข้ากับรัสเซีย ซึ่งรวมถึงการปกป้องโดยใช้อาวุธนิวเคลียร์
แม้ว่าทางเคียฟและตะวันตกโจมตีว่า การทำประชามติเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซียในดินแดนที่มอสโกยึดได้เป็นการกระทำจอมปลอมเพื่อสร้างความชอบธรรมในการเข้าผนวกดินแดนเหล่านั้น และยกระดับสงครามด้วยกองกำลังที่เกณฑ์มาใหม่ หลังจากพ่ายแพ้ในสนามรบก่อนหน้านี้
ขณะที่บรรดาผู้เชี่ยวชาญ และผู้รู้ทางการทหาร ได้วิเคราะห์เกมการเดินแผนรบต่อจากนี้ของรัสเซีย ไว้ 5 แผนด้วยกัน สำหรับแนวทางของแคมเปญรัสเซีย ในยูเครน อาจเป็นดังนี้ ด้วยเงื่อนทางภูมิศาสตร์ ภูมิอากาศ และภูมิรัฐศาสตร์ สถานการณ์ในภาพใหญ่ที่รัสเซียอาจมุ่งหวังที่จะขับเคลื่อนไป คือ
1. ก่อนฤดูหนาวมาถึง รัสเซียต้องสถาปนาความมั่นคงทางการเมืองใน 4 รัฐเกิดใหม่ โดยผนวกเข้ากับสหพันธ์ได้สำเร็จ เพื่อให้มีความแน่นอนทางการเมืองในพื้นที่ดังกล่าว
2. เสริมความมั่นคงในทางกฎหมายและเสริมกำลังทางการรบในทั่ง 4 รัฐ ในต้นฤดูหนาว และรักษาสถานการณ์ที่ได้เปรียบไว้ตลอดฤดูหนาว โดยเสริมแนวป้องกัน ให้เข้าตีได้ยากในฤดูหนาว พร้อมกับโจมตีที่พักพิงในฤดูหนาวของกองกำลังยูเครนด้วยอาวุธที่มีความแม่นยำสูง
3. บั่นทอนเมืองหลักที่เป็นฐานในการรุกกลับ/ตีโต้ของยูเครน คือ คาร์คีฟ และรบกวนพื้นที่ที่เคียฟจะใช้เป็นฐานเพื่อป้องกันโอเดสซา คือ นีเปอร์ กรอปิวนิดสกีย ครีวิริก และอาจรวมถึงจุดสำคัญอื่น ๆ ที่อยู่ในโซนตะวันออกเฉียงใต้ของแนวถนน E584 ตัดกับ E94 เป็นการสร้างเงื่อนไขที่เหมาะสมต่อความได้เปรียบในพื้นที่ที่โอเดสซา
4. การจะเปิดโอกาสในการเจรจาสันติภาพนั้น ขึ้นอยู่กับเจตนารมณ์ระยะยาวที่รัสเซียมีต่อโอเดสซาประกอบกับท่าทีของเซเลนสกี ซึ่งถ้ายังยืนยันแนวทางที่เขายึดถืออยู่ และมีกิจกรรมที่เป็นปฏิปักษ์ต่อคนเชื้อสายรัสเซียในโอเดสซา ก็มีโอกาสที่รัสเซียจะรุกคืบจากเคอร์ซอน ผ่านนิโคลาเยฟไปยังโอเดสซาให้ได้
5. ถ้าต้องปฏิบัติการต่อโอเดสซา อาจมีการดำเนินกลยุทธ์จาก Transnistria ด้วยก็ได้ หากเงื่อนไขเหมาะสม
ทั้งนี้แนวทางนี้ของรัสเซียจะไม่ได้รับการยอมรับจากเวทียูเอ็นโดยที่ยูเครนไม่ยินยอม ซึ่งหลังฤดูหนาว เซเลนสกีจะเร่งเร้าคนยูเครนและเรียกร้องชาติตะวันตกให้ต่อสู้กับรัสเซียต่อไปอีก ทั้งนี้เงื่อนไขสำคัญ ที่ต่างไปจากปีนี้ที่ยูเครนจะเผชิญ คือ ภาวะอดอยาก นี่จะเป็นเดิมพันแบบชิงดำของรัสเซียฝ่ายหนึ่ง กับยูเครนและชาติตะวันตกอีกฝ่ายหนึ่ง ซึ่งเราจะได้เห็นการใช้ประเด็นมนุษยธรรมมาปั่นข่าวมากขึ้น ยิ่งกว่ากรณีข่าวพบร่างผู้เสียชีวิตที่เมืองบูชา หรือข่าวพบร่างผู้เสียชีวิตในพื้นที่บางส่วนของแคว้นโดเนตส์ซึ่งยูเครนยึดคืนจากรัสเซียเมื่อเร็ว ๆ นี้
ขอบคุณเฟซบุ๊ก Dorne Tipnant