ตบหน้าเซเลนสกี! เชลยศึกยูเครนที่ถูกรัสเซียปล่อยตัว แห่ลงประชามติ ขอเป็นพลเมืองใหม่ อาสาร่วมรบสู้NATO
จากกรณีเมื่อวันที่ 22 ก.ย.ทีผ่านมาว่า ทำเนียบประธานาธิบดียูเครนออกแถลงการณ์ ว่ารัสเซียปล่อยตัวเชลยศึก 215 คน ซึ่งเป็นความเคลื่อนไหวที่รัฐบาลเคียฟ “ไม่คาดคิดมาก่อน” โดยผู้ที่ได้รับอิสรภาพทั้งหมดในรอบนี้ มีความเชื่อมโยงทางใดทางหนึ่งกับสมรภูมิในเมืองมาริอูโปล ที่รัสเซียยึดครองพื้นที่ได้อย่างเบ็ดเสร็จ เมื่อปลายเดือนเม.ย. ที่ผ่านมา
ล่าสุดทางเพจ World Update ได้โพสต์ข้อความถึงกรณีรัสเซีย ได้รับสมัครทหารปกป้องดินแดนเกินเป้า 254% โดยอ้างอิงจาก Tass news และ RT news ระบุเนื้อหาบางส่วนว่า
วันที่ 21 ก.ย.ที่ผ่านมาผู้นำยูเครน ให้สัมภาษณ์กับสื่อฝรั่งเศส ระบุว่า “ตั้งแต่เดือน ก.พ.ที่ผ่านมา ได้ขออาวุธระบบต่อต้านอากาศยาน Iron Dome จากอิสราเอล เพื่อใช้ยิงสกัดกั้นอาวุธรัสเซีย แต่จนถึงบัดนี้ อิสราเอลยังไม่ยินยอมจัดหาระบบต่อต้านขีปนาวุธให้ยูเครน ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับอิสราเอล พูดตรงไปตรงมา เขาตกใจมาก ไม่เข้าใจว่าทำไมพวกเขาถึงไม่ให้การป้องกันทางอากาศแก่เรา”
เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองอิสราเอล เดินทางไปประชุมกับกองทัพยูเครน ใกล้เมืองคาร์คิฟ เพราะอิสราเอลไม่อยากเปิดหน้าชนกับรัสเซียโดยตรงเนื่องจากมีชาวยิวรัสเซียอาศัยราว 80,000 ราย เดินทางเผ่นบินหนีกลับบ้านไปแล้วกว่า 12,000 ราย เหตุวิตกไปเองว่าจะถูกกลาโหมรัสเซียระดมพลไปรบกับชาวยิวยูเครนพวกเดียวกัน เลยไปตั้งหลักก่อน
ต่อมาสื่อตะวันตกและสื่อไทย พาปั่นข่าวกันครึกครึกโครมว่าชาวรัสเซียพากันบินหนีออกนอก กันใหญ่ แต่แท้จริงแล้วส่วนใหญ่เป็นชาวยิวรัสเซีย รวมถึงพวกไฮโซโปรตะวันตกที่กระต่ายตื่นตูมกันไปเอง แบบประเภท “พวกโลกสวย รักสันติภาพ” แต่ความจริงคือรักตัวกลัวตาย ประมาณนั้น
ล่าสุดผู้นำยูเครน ไอเดียบรรเจิด (อีกแล้ว) สั่งหน่วยคอมมานโดบุกโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ Zaporizhzhya เป็นรอบที่ 3 มิฉะนั้นยูเครนก็จะถูกทิ้งลอยแพไว้โดยไม่มีไฟฟ้าใช้ในฤดูหนาวนี้ แม้ว่า 2 รอบแรกโดนทหารรัสเซีย 500 นาย ยำคอมมานโดยูเครนเป็นปุ๋ยอาหารปลาไปกว่า 100 นาย ก็ไม่เข็ด
รอบนี้ถ้าล้มเหลวอีก ผู้นำยูเครน ที่เคยให้สัญญาว่าจะจัดหาไฟฟ้าให้กับยุโรปผ่านโรมาเนียและเคยคุยโวออกสื่อไปทั่วว่าขายไฟฟ้าได้เงินเยอะมาก แต่ถ้ายึดโรงไฟฟ้าคืนไม่ได้ก่อนรัสเซีย เบลารุส และพันธมิตรจะรับรองการแยกเอกราชแคว้นซาโปริชเซีย ทางยูเครนก็จะอ้างกับว่าไม่สามารถปฏิบัติตามพันธกรณีและจัดหาไฟฟ้าให้กับยุโรปได้ เพื่ออ้างเอาตัวรอดไปวันๆ ส่วนทหารตนเองจะเป็นปุ๋ยเท่าไรเขาไม่เคยสนอยู่แล้ว
ล่าสุด อดีตทหารกองทัพยูเครนทั้งชายหญิงที่เคยถูกจับกุมเป็นเชลยศึกของรัสเซีย ที่ถูกปล่อยตัวหลายกลุ่มได้ทะยอยเดินทางมาใช้สิทธิลงออกเสียงคะแนนประชามติแยกเอกราชจากยูเครน พร้อมยื่นคำร้องต่อผู้บริหารสาธารณรัฐโดเนตสค์ แสดงความจำนงค์ขอเป็นพลเมืองใหม่ของดินแดนในอารักขารัสเซียแห่งนี้ พร้อมยื่นคำร้องอาสาร่วมเข้ารับการระดมพลเป็นทหารในสังกัดกองทัพโดเนตสค์ ไปต่อสู้กับฝ่าย NATO และยูเครน ซึ่งพวกเขาจะต้องถูกคัดกรองโดยละเอียดป้องกันการเป็นใส้ศึก
ด้านสาธารณรัฐเชชเนีย รัสเซีย มีชายที่อาสาเข้าเกณฑ์ระดมพลเป็นทหารมากกว่าโควต้าถึง 254% พล.ท.รามซาน คาดีรอฟ ผู้นำเชชเนีย แถลงว่ากำลังขอโควต้าทหารเพิ่มเพื่อก่อตั้งหน่วยทหารใหม่ “ผู้พิทักษ์แผ่นดินพ่อ” เขาระบุว่า “เมื่อต้นปี 2000 พวกเราจำได้ว่าชาวสาธารณรัฐเชเชน ก็เคยรอการลงประชามติในลักษณะเดียวกันเพื่อยุติการนองเลือด แล้วกลายเป็นพลเมืองรัสเซียที่เต็มเปี่ยม มันเกิดขึ้นและทุกคนสามารถเห็นได้ว่าภูมิภาคของเราเจริญรุ่งเรืองขึ้นมาก หลังจากเหตุการณ์สำคัญการลงประชามติ พวกเรามีความสงบสุข เราเริ่มมีชีวิตใหม่ เราสร้างเมืองใหม่ และตอนนี้เราอยู่อย่างปลอดภัยสมบูรณ์
เพื่อนๆ เชเชนของฉันกำลังเฝ้าดูด้วยความสนใจและภาคภูมิใจว่าการลงประชามติเกี่ยวกับอนาคตของ 4 ภูมิภาคเหล่านี้ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว นี่เป็นเหตุการณ์ที่รอคอยมานาน ฉันแน่ใจว่าผู้อยู่อาศัยในดอนบาส ซาโปริชเซีย และเคอร์ซอน จะตัดสินใจเลือกสิ่งที่ถูกต้องเช่นเดียวกันสำหรับอนาคตของพวกเขา รัสเซียจะไม่ทอดทิ้งประชาชนของตนเองและจะทำทุกอย่างเพื่อให้ประชาชนรู้สึกปลอดภัย
ฉันขอแสดงความยินดีกับ Denis Vladimirovich Pushilin และ Leonid Ivanovich Pasechnik (ผู้นำดินแดนใหม่) ในเหตุการณ์สำคัญและมีความรับผิดชอบในชีวิตของผู้คนหลายล้านคน! อนาคตที่ยิ่งใหญ่และยอดเยี่ยมเป็นไปได้เฉพาะกับรัสเซียเท่านั้น นี่จะเป็นทางเลือกเดียวที่เหมาะสม ดูเหมือน 4 ดินแดนแยกเอกราชจากยูเครน จะตัดสินใจเดินตามรอยรุ่นพี่เชชเนีย ที่เคยผ่านฝันร้ายจากชาติตะวันตกสนับสนุนอาวุธก่อภัยสงครามจนย่อยยับมาก่อน