สถานการณ์ล่าสุดในสมรภูมิสู้รบยูเครน ท่ามกลางการโจมตีของเคียฟต่อเป้าหมายพลเรือนในดอนบาส การลงประชามติรวมรัสเซียใน ๓ ภูมิภาค ดอนบาส-เคอร์ซอนและซาโปริชเชีย เป็นไปอย่างคึกคัก จะประกาศผลในวันที่ ๒๘ ก.ย.นี้ มีกองกำลังรักษาความปลอดภัยในทุกจุดที่มีการลงคะแนนเสียง ขณะที่สื่อตะวันตกจะเร่งโหมโฆษณาว่า กระแสต่อต้านทั้งในรัสเซียเรื่องระดมพล และชาวยูเครนใน๓ ภูมิภาคถูกข่มขู่ให้มาลงคะแนน ซึ่งย้อนแย้งกับภาพการชุมนุมต้อนรับลูกหลานรัสเซียเข้าสู่อ้อมอกของมอสโกว์ และการเข้าลงคะแนนอย่างมีความสุขพร้อมเสียงเพลงที่ร่าเริงของฝ่ายรัสเซีย ซึ่งไม่มีสื่อตะวันตกฉบับไหนลงข่าว
การลงประชามติครั้งนี้ ไม่ต่างกับที่เกิดขึ้นในไครเมียเมื่อปี ๒๐๑๔ ไม่ว่าตะวันตกจะรับรองหรือไม่ รัสเซียจะรับรองอย่างถูกต้องตามกฎหมายของกฎบัตรสหประชาชาติ และนับแต่นี้เท่ากับ ๓ ภูมิภาคนี้คือส่วนหนึ่งของประเทศรัสเซีย
ขณะเดียวกันกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย ได้ออกมาชี้แจงคำเตือนเรื่องนิวเคลียร์ของปูตินว่า รัสเซียไม่ได้ขู่ใครด้วยนิวเคลียร์ เพียงแต่เตือนและขอเรียกร้องให้สหรัฐฯเลิกแอบแทรกแซงในยูเครนแล้วทำเป็นไม่เกี่ยว เพราะรัสเซียจะตอบโต้ผู้ให้การสนับสนุนอย่างที่ปธน.ปูตินเคยประกาศไว้
วันที่ ๒๔ ก.ย.๒๕๖๕ สำนักข่าวรัสเซียทูเดย์รายงานว่า การลงประชามติของ ๓ ภูมิภาคในยูเครน ทั้งดอนบาสซึ่งประกอบด้วยสาธารณรัฐโดเนตสก์และลูฮันสก์ ตลอดจนเคอร์ซอนและซาโปริชเชีย ดำเนินการลงประชามติอย่างคึกคัก ประชาชนที่าลงคะแนนมีความตื่นเต้นยินดีอย่างเห็นได้ชัด ขณะเดียวกันในมอสโกว์ ประชาชนก็ออกมาโห่ร้องยินตีต้อนรับลูกหลานรัสเซียกลับแผ่นดินแม่
ดมิทรี เปสคอฟ(Dmitry Peskov) โฆษกของเครมลินยืนยัน การลงคะแนนเสียงในสาธารณรัฐ Donbass ทั้งสองแห่งและภูมิภาคทางตอนใต้ของยูเครนทั้งสองแห่งเริ่มแล้วเมื่อวันศุกร์อย่างคึกคัก
ในการตอบคำถามของสื่อว่าพื้นที่จะได้รับการปฏิบัติเหมือนดินแดนรัสเซียหรือไม่ เปสคอฟตอบย้ำ”แน่นอน” รัฐธรรมนูญของประเทศจะมีผลบังคับใช้ในดินแดนเหล่านี้ทันทีที่พวกเขาเข้าร่วม”
นั่นหมายถึงการส่งสัญญาณบอกว่าใครที่โจมตีกับ ๓ ภูมิภาคนี้ก็เท่ากับรบประเทศรัสเซียโดยตรงนั่นเอง ต่อจากนี้ไปการสู้รบจะไม่ประณีประนอม และไม่ใช่ปฏิบัติการพิเศษทางทหารแต่เป็นการรบเต็มรูปแบบ โดยกองทัพรัสเซียเป็นกองกำลังหลัก มีกองกำลังพื้นที่และหน่วยรบพิเศษจากเชเชนเสริม
ดมิทรี เมดเวเดฟ (Dmitry Medvedev)อดีตประธานาธิบดีรัสเซียและรองหัวหน้าคณะมนตรีความมั่นคงของประเทศ เตือนว่ารัสเซียจะไม่ลังเลใจที่จะใช้“ทุกวิถีทางที่มีอยู่เพื่อปกป้องดินแดนของตน “การบุกรุกดินแดนของรัสเซียถือเป็นอาชญากรรม”เขาระบุด้วยว่า Donbass เข้าร่วมรัสเซียจะทำให้ “การเปลี่ยนแปลงทางภูมิศาสตร์การเมืองของโลกไม่สามารถย้อนกลับได้”
สหรัฐฯ รวมถึงพันธมิตรในยุโรปและที่อื่น ๆ รวมถึงเยอรมนี ได้กล่าวไว้แล้วว่าพวกเขาจะไม่ยอมรับผลการลงประชามติที่เริ่มขึ้นเมื่อวันศุกร์ เจนส์ สโตลเทนเบิร์ก เลขาธิการ NATO ยังได้ตราหน้าโพลสำรวจว่าเป็น “การลงประชามติหลอกลวง”
เมื่อไม่นานมานี้ วอชิงตันได้ให้คำมั่นว่าจะให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติมแก่เคียฟเพื่อเสริมสร้างชัยชนะให้ยูเครน การพัฒนาเกิดขึ้นในขณะที่รัสเซียได้ประกาศการระดมพลบางส่วนในวันพุธ เซอร์เก ชอยกู (Sergey Shoigu) รมว.กระทรวงกลาโหมรัสเซียกล่าวว่า การระดมกำลังจะต้องเรียกร้องให้มีกองหนุนราว ๓๐๐,๐๐๐ นายถือเป้นเพียง ๑% ของศักยภาพในการระดมกำลังทั้งหมดของรัสเซีย และจำเป็นต้องมีกองกำลังเพิ่มเติมเพื่อควบคุมแนวพื้นที่ติดต่อยาว ๑,๐๐๐ กม. รับมือกับกองกำลังยูเครนและดูแลพื้นที่ที่รัสเซียยึดครอง
เซอร์เกย์ รยาบคอฟ (Sergey Ryabkov) รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย กล่าวเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า ในการปราศรัยทางวิดีโอในการประชุมครบรอบ ๖๐ ปีของวิกฤตการณ์ขีปนาวุธคิวบา
รยาบคอฟกล่าวว่า “มอสโกว์ได้สังเกตเห็นปฏิกิริยาที่เจ็บปวดของวอชิงตัน ต่อการที่รัสเซียกำหนดให้คลังแสงนิวเคลียร์ของตนแจ้งเตือนการสู้รบระดับสูง เราไม่ได้ข่มขู่ใครด้วยอาวุธนิวเคลียร์ หลักคำสอนทางการทหารของรัสเซีย กำหนดไว้ชัดการใช้คลังแสงนิวเคลียร์ เพื่อป้องกันตัวเมื่อมีภัยคุกคามต่อรัฐ”
“รัสเซียกำลังเตือนสหรัฐและพันธมิตรตะวันตกว่าการเคลื่อนไหวหนุนยูเครน มีความเสี่ยงต่อการเผชิญหน้าโดยตรงกับรัสเซีย าและเรียกร้องอย่างแข็งขันให้สหรัฐฯหลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่อาจนำไปสู่การปะทะทางทหารและการใช้อาวุธชั้นสูงโดยตรงกับรัสเซีย”
ปธน.วลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย สั่งให้หน่วยภาคพื้นดินของประเทศติดตั้งขีปนาวุธข้ามทวีป รวมทั้งเรือจากกองเรือทางเหนือและแปซิฟิก ให้เตรียมพร้อมในการสู้รบระดับสูง เขาเชื่อมโยงการตัดสินใจนี้กับการคว่ำบาตรที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายของสหรัฐและพันธมิตรากับรัสเซีย รวมถึงตอบโต้”คำแถลงเชิงรุกที่ก้าวร้าว”โดยปธน.ไบเดนและเจ้าหน้าที่สหรัฐฯตลอดจนสหภาพยุโรป แต่ทำเนียบขาวกลับกล่าวหาปธน.ปูตินว่า “สร้างภัยคุกคามที่ไม่มีอยู่จริงเพื่อผลักดันความก้าวร้าวต่อไป”
เขารู้เห็นกันทั้งโลกว่า สงครามยูเครนคือสงครามตัวแทนของสหรัฐและตะวันตกที่ซัดกับรัสเซีย สหรัฐและนาโต้ยังยืนกรานว่าตนเองไม่เกี่ยวแค่กองหนุน ขณะที่สื่อตะวันตกจะโหมกระพือว่า รัสเซียหลังชนฝาต้องควักนิวเคลียร์ออกมาขู่ แต่รัสเซียกำลังบอกว่า สหรัฐต่างหากเป็นฝ่ายที่เอานิวเคลียร์มาแบล็คเมรัสเซีย รัสเซียจะใช้แน่เมื่อถูกศัตรูคุกคาม และสถานการณ์สู้รบในพื้นที่นั้นรัสเซียยังคงเป็นฝ่ายแต้มต่อเป็นผู้กำหนดเกม ไม่ใช่ยูเครนที่เป็นฉากหน้าของสหรัฐและนาโต้!!!