ในขณะที่สหรัฐไล่บี้ประเทศอื่นที่ไม่ยอมสยบต่อข้อเรียกร้องของสหรัฐไปทั่ว ปัญหาในบ้านปะทุเป็นรายวัน ไม่สามารถจัดการอะไรได้ เอาแต่กระตุ้นสงครามนอกบ้าน ที่หนักที่สุดคือปัญหาเศรษฐกิจถดถอย ท่ามกลางราคาสินค้าอุปโภคบริโภคสูงต่อเนื่องแม้จะกดราคาพลังงานได้บางส่วน แต่การเลือกมาตรการขึ้นดอกเบี้ยนโยบายอย่างหนักของเฟด ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจจริงของสหรัฐทั้งระบบ ทั้งธุรกิจและประชาชน ดอกเบี้ยที่สูงไม่หยุดทำให้คนไม่สามารถผ่อนบ้าน หรือเช่าบ้านได้เกิดกระแสคนไร้บ้านเพิ่ม อาชญากรรมยิ่งพุ่งกระฉูด และที่คิดว่าจะไม่กระทบต่อตลาดหลักทรัพย์ที่เป็นแหล่งรายได้สำคัญของสหรัฐก็ไม่จริง นักลงทุนเริ่มหวั่นไหวเมื่อเฟดไม่สนใจสิ่งใดเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ย เพื่อขายพันธบัติให้เงินดอลลาร์กลับเข้าสู่สหรัฐให้มากที่สุด ความกังวลฟองสบู่ดอลลาร์จะแตก ส่งผลกระทบอย่างชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ
ล่าสุด CEO ของธนาคารยักษ์เตือนแรงต่อไบเดนและทีมบริหารว่า อย่าเอาแต่เล่นการเมือง การปฏิเสธและตัดขาดน้ำมันและก๊าซเป็น ‘หนทางสู่นรก’ สำหรับสหรัฐฯ
วันที่ ๒๓ ก.ย.๒๕๖๕ สำนักข่าวรัสเซียทูเดย์และฟอกซ์บิซิเนสรายงานว่า เจมี่ ไดมอน ซีอีโอของ เจพีมอร์แกน เชส (JPMorgan Chase) เตือนว่าการตัดขาดโครงการพลังงานเชื้อเพลิงฟอสซิลใดๆในอนาคต จะเกิดความหายนะของอเมริกาอย่างไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้
ผู้นำในอุตสาหกรรมการธนาคารปะทะกับส.ส.มิชิแกน ราชิดา ทีไลบ์ จากพรรคเดโมแครต (Rashida Tlaib, D-Mich) เมื่อวันพุธที่ผ่านมาในการประชุมคณะกรรมการบริการทางการเงินของสภาผู้แทนราษฎร หลังจากที่ ทีไลบ์เรียกร้องให้ธนาคารใหญ่สหรัฐ ๖ แห่งให้คำมั่นที่จะยุติการจัดหาเงินทุนให้กับผลิตภัณฑ์เชื้อเพลิงฟอสซิลทั้งหมดทันที ไดมอนตอบทันทีว่า ไม่ และตอบโต้ว่านั้นคือหายนะสำหรับอเมริกา
คำขอของ ส.ส.เดโมแครต ได้ถามถึงจุดยืนของนายธนาคารคนอื่นๆ และพวกเขาทั้งหมดตอบว่าพวกเขาจะลงทุนในน้ำมันและก๊าซต่อไปนอกเหนือจากโครงการพลังงานทางเลือก
ทีไลบ์ระบุว่า “พวกนายธนาคารเขาไม่ได้สนใจคนทำงานและชุมชนแนวหน้าเช่นเราที่กำลังเผชิญกับโรคหอบหืดจำนวนมาก ปัญหาระบบทางเดินหายใจและอื่น ๆ อีกมากมาย”
ส.ส.เดโมแครตเตือนว่า “เรากำลังเผชิญกับวิกฤตสภาพภูมิอากาศในวันนี้ และความมุ่งมั่นที่จะทำให้เป็นศูนย์จำเป็นต้องมีความมุ่งมั่นในการยุติการจัดหาเงินทุนเชื้อเพลิงฟอสซิลทั้งหมดในทันที เพราะในท้ายที่สุด เราจะจ่ายค่าใช้จ่ายจากผล กระทบด้านสาธารณสุขจำนวนมหาศาล”
คำวิพากษ์รุนแรงต่อการบริหารเศรษฐกิจของทีมใบเดน และเดโมแครตแบบนี้ไม่ใช่เป็นครั้งแรก ก่อนหน้านี้ไดม่อนส่งคำเตือนหลายครั้งเกี่ยวกับเฮอริเคนเศรษฐกิจที่จ่ออยู่หน้าปากซอยบ้านของสหรัฐ ที่คาดไม่ได้ว่าจะมีขนาดรุนแรงสักแค่ไหน ยามเผชิญหน้ากับทีมของเดโมแครตมีอันต้องซัดกันแบบไม่เกรงใจอยู่บ่อยครั้ง นั่นหมายถึงนายทุนใหญ่ทั้งด้านการเงินและการลงทุนของสหรัฐไม่เชื่อถือฝีมือบริหารเศรษฐกิจของไบเดนเลยแม้แต่น้อย และสิ่งที่สะท้อนความจริงนี้คือ ข่าวการที่กระทรวงการคลังสหรัฐพยายามควานหามือดีทางเศรษฐกิจมาแก้ปัญหาบูมเมอแรงคว่ำบาตรรัสเซียย้อนกลับเศรษฐกิจสหรัฐและพันธมิตรยุโรปอย่างสาหัส อัตราจ้างสูงจนป่านนี้ยังหาไม่ได้ แปลว่าทีมไบเดนช่างไร้ฝีมือ และแปลกว่า มือดีอย่างไดมอนหรือคนอื่นๆไม่อาสาไปช่วยรัฐบาลเลย
อเล็กซ์ ฟาเร็ตส์(Alex Parets) ที่ปรึกษาปลัดกระทรวงการก่อการร้ายและข่าวกรองทางการเงินกล่าวกับสำนักข่าวบลูมเบิร์กว่าฝ่ายบริหารของ Biden กำลังมองหาการจ้างผู้ที่มีความสามาตรเชิงทฤษฎี แต่สามารถแก้ปัญหาเชิงปฏิบัติมากกว่า
ตำแหน่งซึ่งให้เงินเดือนสูงถึง ๑๗๖,๓๐๐ ดอลลาร์ต่อปีนั้นต้องผ่านการตรวจสอบความปลอดภัยลับสุดยอดด้วย
รายงานระบุความเร่งด่วนของบทบาทดังกล่าวเพิ่มขึ้นเมื่อกรอบการคว่ำบาตรที่วอชิงตันใช้ลงโทษประเทศอื่นๆในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา มีความซับซ้อนมากขึ้น ความยากลำบากยังเพิ่มขึ้นอีกจากการที่ทำเนียบขาวคว่ำบาตรรัสเซียเกี่ยวกับความขัดแย้งในยูเครน ซึ่งทำให้ฝ่ายบริหาร “ปวดหัว” รับมือกับผลย้อนกลับไม่ตกจนปัจจุบัน
