จากกรณีที่มีรายงานบันทึกของทำเนียบขาวที่ถูกส่งไปยังกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา ระบุว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ ได้อนุมัติงบสนับสนุนทางทหารแก่ยูเครนเพื่อต่อสู้ในสงครามกับรัสเซียเพิ่มอีก 600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 21,600 ล้านบาท ด้วยการใช้อำนาจของประธานาธิบดีที่เปิดทางให้ผู้นำสหรัฐสามารถอนุญาตการถ่ายโอนอาวุธส่วนเกินจากคลังอาวุธของสหรัฐให้แก่ชาติพันธมิตรได้
กระทรวงกลาโหมสหรัฐระบุว่า อาวุธที่จะถูกจัดส่งตามงบประมาณการช่วยเหลือดังกล่าวมีทั้ง ระบบยิงจรวดหลายลำกล้องไฮมาส กล้องมองกลางคืน เครื่องมือขุดและเคลื่อนหิน กระสุนปืนใหญ่ขนาด 105 มิลลิเมตร กระสุนปืนใหญ่แบบนำวิถีขนาด 155 มิลลิเมตร งบประมาณการช่วยเหลือครั้งใหม่นี้ยังรวมถึงงบฝึกฝนอบรมทางทหารด้วย
แม้ว่าการเปิดเผยจะหนุนหลังยูเครน ยังคงเดินหน้าไปต่อเรื่อย ๆ โดยสหรัฐฯไม่สนใจว่า ยูเครนจะบอบช้ำจากการใช้กำลังพลมากแค่ไหน แม้ว่าจะมีการอนุมัติงบจำนวนมหาศาล แต่ดูเหมือนว่าจะเป็นเพียงการป่าวประกาศผ่านสื่อเท่านั้น ยังไม่มีการกำหนดวันส่งมอบอาวุธที่ชัดเจน และสหรัฐฯยังไม่กล้าฟันธงด้วยซ้ำ ว่าแท้จริงแล้วยูเครนจะชนะสงครามหรือไม่
ล่าสุดไฮนซ์-คริสเตียน สตราเคอ (Heinz-Christian Strache) อดีตรองนายกรัฐมนตรีออสเตรีย ออกมาเปิดเผยกล่าวโทษสหรัฐฯ ที่เป็นต้นเหตุของสถานการณ์สงครามในยูเครน เจ้าตัวเปิดเผยว่า รัฐบาลวอชิงตันและนาโต้ได้เปิดฉากสงครามตัวแทนกับรัสเซีย ซึ่งก่อให้เกิดอันตรายต่อยุโรปเช่นกัน นอกจากนี้ เขายังให้ความสนใจต่อผลที่ตามมาที่เลวร้ายต่อเศรษฐกิจยุโรปจากการคว่ำบาตรรัสเซียและเรียกร้องให้มีการยกเลิกมาตรการดังกล่าวด้วย