จากที่ฝ่ายกองทัพยูเครนได้พยายามออกข่าวว่าสามารถเข้าบุกยึดคืนเมืองบางพันที่จากรัสเซียได้แล้ว ต่อมามีการให้ข้อมูลของสองฝ่ายว่ามีกำลังทหารเฝ้าประจำอยู่ รวมทั้งมีการเสริมกำลังของกองทัพรัสเซียเข้าไปอีกด้วยนั้น
ทั้งนี้มีความเคลื่อนไหวจาก ดร.ปฐมพงษ์ โพธิ์ประสิทธินันท์ นักวิชาการทางบูรพคดีศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล ซึ่งได้ออกมาโพสต์ภาพพร้อมข้อความและวีดีคลิป ผ่าน Blockdit ไว้อย่างติดตามหลายข้อความต่อเนื่องกันดังนี้
“สื่อยูเครน/VoiceTV นำเสนอข่าวลวงโลก : ความจริงมีอยู่ว่า ๑.ทหารรัสเซียได้ยกพลเข้าไปในเมืองอีซุม (Izyum) และได้ต่อสู้กับทหารยูเครน
๒.โดยเฉลี่ยแล้ว ทหารยูเครนจะเสียชีวิตราว ๓๐๐-๕๐๐ คนต่อวัน บางวันมากกว่านั้น ถ้ากองทัพรัสเซียโจมตีค่ายทหารใหญ่ๆ ๓.เมื่อทหารรัสเซียต่อสู้กับทหารยูเครนในเมืองอีซุม ทหารยูเครนตายไปเกือบ ๕๐๐ คน
๔.เมื่อทหารเหล่านี้ตายลง ทหารยูเครนอื่นๆ พากันหลบหนีออกไปจากเมือง ทิ้งเพื่อนที่ตายแล้วให้อยู่เบื้องหลัง รัฐบาลก็จะลงรายละเอียดว่าสูญหายเพื่อจะได้ไม่ต้องจ่ายค่าทำศพทหารผู้เสียชีวิต
หลังจากต่อสู้กับทหารยูเครนในเมืองอีซุมแล้ว เห็นทหารยูเครนตายจำนวนมากถึง ๔๕๐ คน กอปรทหารยูเครนอื่นๆ ที่เหลือพากันทิ้งศพเพื่อนของตนไปหมดแล้ว
ทหารรัสเซียจึงช่วยกันขุดหลุมและฝังศพให้ เพราะเห็นว่าทหารเหล่านี้ตายอย่างสมชายชาติทหารจึงควรจะฝังเพื่อให้เกียรติผู้ตาย ร่างกายจะได้ไม่เป็นอาหารของสัตว์เดรัจฉานหรือสัตว์ปีกอื่นๆ ที่มาพบเห็น
๕.นอกจากนั้น ยังมีศพจำนวนหนึ่งถูกฝังไว้ตั้งแต่ ๙ มีนาคมก่อนที่กองทัพรัสเซียจะเข้าไป (กองทัพรัสเซียน่าจะเข้าไปราว ๑ เมษายนเป็นต้นไป) ถามว่าใครลงมือสังหารศพเหล่านั้น? โปรดสังเกตดูวันที่ในวงกลมสีแดงๆ”
“นี่คือข้อเท็จจริงครับ แต่รัฐบาลยูเครนมาออกข่าวใส่ร้ายรัสเซียว่า ‘กองทัพรัสเซียฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยูเครน’ เข้าป่าไปโน่น โปรดดูคลิปข่าวจาก VoiceTV ได้ครับ เป็นตัวอย่างการนำเสนอข่าวที่บิดเบือนข้อเท็จจริง
ตอนนี้ สมรภูมิมีอยู่หลายจุด สื่อเองก็รายงานไม่ไหว สำนักข่าว RT และ Sputnik ตอนนี้ รายงานเฉพาะข่าวใหญ่ๆ ข่าวการสู้รบซึ่งเป็นรายละเอียดปลีกย่อยก็ไม่รายงาน ต้องดูหลายๆ สำนักข่าวมาประกอบกัน ถ้าเป็นสำนักข่าวฝั่งรัสเซีย สื่อไทยไม่รายงานกันเลย จึงถูกล้างสมองด้วยข่าวเท็จจากสำนักข่าวตะวันตกอยู่บ่อยๆ
ภาพประกอบข้างล่างระบุว่าวันนี้ ที่ภาคตะวันออกของยูเครน รัสเซียถล่มหนัก ๔ จุดหลักคือ ๑.เมือง Bakhmut ๒.เมือง Vesela Dolyna ที่ Odesa ๓.เมือง Zaitseve ๔. Otradovka ที่แคว้น Donetsk”
