หลังจากเดินหน้ากระชับพันธมิตรตะวันออกในงานSCO ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม ประหนึ่งเปิดตัวกำลังหลักต้านมหาอำนาจเดี่ยวสหรัฐและพันธมิตร ทำให้สหรัฐหวาดหวั่นอย่างปิดไม่มิด ถ้ารัสเซีย-จีน-อินเดีย-อิหร่าน จะนัดคุยกันบ่อยๆเหมือนที่เจอกันตัวเป็นๆในซัมมิตครั้งนี้
หลังประชุมเสร็จปุ๊ป วลาดิเมียร์ ปูตินปธน.แห่งรัสเซีย เปิดแถลงข่าว ย้ำเป้าหมายการปฏิบัติการพิเศษทางทางทหารของรัสเซียว่าเน้นปลดปล่อยดอนบาส และทำลายทัศนคติของชนชั้นสูงตะวันตกที่มีต่อรัสเซียในสงครามตัวแมนในยูเครน ต้นเหตุของวิกฤตพลังงานทั่วโลก และ ‘อาณานิคม’ยุคใหม่ของตะวันตกที่ต้องเดินตามก้นสหรัฐอย่างไร้เหตุผล ฮือฮาที่ปูตินฟันธงว่า สงครามจะจบเมื่อไหร่มันขึ้นอยู่กับสหรัฐและตะวันตกไม่ใช่รัสเซีย และจะยกระดับรุนแรงแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับยูเครนและผู้สนับสนุน ขณะที่แถลงข่าวอยู่ การสู้รบในยูเครนก็เริ่มเห็นเค้าลางการยกระดับยุทธวิธีชัดเจนขึัน ที่สำคัญฟันธงว่ายังไม่เห็นเค้าลางการเจรจาสันติภาพว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่
กลยุทธ์ใหม่ที่ปูตินใช้ในการสั่งสอนนาโต้ในสงครามยูเครน ได้มีการใช้หน่วยการบินและอวกาศเป็นครั้งแรกโจมตีอาวุธไฮมาร์สและจรวดโอลคาที่สหรัฐส่งให้ยูเครน ถึง ๒๕ ลำรวมทั้งทำลายศูนย์บัญชาการรบของยูเครนพร้อมกันถึง ๕ แห่งราบเป็นหน้ากลอง ดุเดือดด้วยหน่วยรบการบืนและอวกาศที่ทำให้เซเลนสกี้งงแตกเพ้อว่ารัสเซียใช้มนุษย์ต่างดาวช่วย เพราะเพิ่งเห็นฤทธิ์หน่วยรบอวกาศที่ถล่มจากฟ้าอย่างไม่มีสัญญาณเตือน
วันที่ ๑๙ ก.ย.๒๕๖๕ สำนักข่าวทาซซ์และรัสเซียทูเดย์รายงานว่า พล.ท.อิกอร์ โคนาเชนคอฟ Konashenkov โฆษกกระทรวงกลาโหมรัสเซีย รายงานที่ประชุม เกี่ยวกับผลการสู้รบในยูเครนในรอบสัปดาห์ เขาบอกกับนักข่าวเมื่อวันเสาร์ว่า ล่าสุดกองกำลังยูเครน ๒ หน่วยพยายามโจมตีไม่สำเร็จใกล้กับนิคมปราฟดิโนในเขตเคอร์ซัน
โคนาเชนคอฟรายงานที่ประชุมกลาโหมฯว่า “สองหน่วยในกองพลยานยนต์ที่ ๒๘ ของศัตรู ได้รับการสนับสนุนจากรถถัง ๙ คันและรถหุ้มเกราะ ๑๖ คัน พยายามเปิดปฏิบัติการรุกใกล้กับนิคมปราฟดิโนในภูมิภาคเคอร์ซอนไม่สำเร็จ” ไกองทัพรัสเซีย ปลิดชีพทหารยูเครนกว่า ๑๒๐ นาย ทำลายรถถัง ๗ คันและยานรบทหารราบ ๑๓ คันในเวลาไม่กี่ชั่วโมง”
เขาสรุปว่า “ระบบป้องกันภัยทางอากาศของรัสเซียได้ทำลายโดรนไร้คนขับของยูเครนจำนวน ๘ ลำ และสกัดกั้นจรวดโอลคา (Olkha) และขีปนาวุธไฮมาร์ส (HIMARS) ๒๕ ลำในช่วง ๒๔ ชั่วโมงที่ผ่านมา”
โดรนถูกยิงใกล้กับนิคมโปครอฟกอย(Pokrovskoye), เบเรสโตวอย( Berestovoye )และโคเดมา (Kodema) ในสาธารณรัฐประชาชนโดเนตสค์, การตั้งถิ่นฐานของโปโลจี (Pologi) ในเขตซาโปริชเชีย (Zaporozhye), การตั้งถิ่นฐานของ โนโววอสเรรเซนสกอย (Novovoskresenskoye) และ ชคาโลโว (Chkalovo) ในเขตภาคเคอร์ซอน (Kherson) และนิคมคอมโซมอลสกอย (Komsomolskoye) ในเขตภาคนิโคลาเยฟ (Nikolayev)
นอกจากนี้ จรวดโอลคา และไฮมาร์ส ๒๕ ลำถูกสกัดกั้นใกล้กับโนวายา คาชอฟกา (Novaya Kakhovka) และเคอร์ซอน
ด้านแนวรบในคาร์คอฟ โฆษกฯกล่าวว่า กลุ่มติดอาวุธกว่า๕๐ คนจากกองทหารคราเคน (Kraken) ของยูเครนและกองกำลังผสมยูเครน ๒ กลุ่มถูกทำลายจากการโจมตีของกองกำลังการบินและอวกาศของรัสเซียในเขตนี้
โฆษกกลาโหมกล่าวว่า “เครื่องบิน ขีปนาวุธ และปืนใหญ่ของรัสเซียโจมตีฐานบัญชาการของกองทัพยูเครน ๕ แห่งในช่วง ๒๔ ชั่วโมงที่ผ่านมา”
เขากล่าวว่า “การโจมตีโดยเครื่องบินยุทธวิธีและเครื่องบินของกองทัพ ขีปนาวุธ และปืนใหญ่โจมตีศูนย์บัญชาการ ๕ แห่งของกองกำลังยูเครนใกล้เมืองพิสคูนอฟกา (Piskunovka), เซเวอร์ซ(Seversk), โนวูเครนกา(Novoukrainka) และเมืองอาร์ตอยมอฟสก์(Artyomovsk) ในสาธารณรัฐประชาชนโดเนตสค์และใกล้ เมือง คามิชเชวากา(Kamyshevakha) ในเขตซาโปริชเชีย (Zaporozhye) นอกจากนี้ การทำลายปืนใหญ่ ยูนิต กองกำลัง และยุทโธปกรณ์ถูกกำหนดเป้าหมายในการรบ ๑๑๗ พื้นที่”
กระทรวงกลาโหมระบุว่า รวมอาวุธที่ถูกทำลายแล้ว มีเครื่องบินทั้งหมด ๒๙๓ ลำ เฮลิคอปเตอร์ ๑๕๕ ลำ โดรน ๑,๙๗๓ ลำ ระบบขีปนาวุธป้องกันภัยทางอากาศ ๓๗๕ ลำ รถถัง ๔,๙๙๘ คันและยานเกราะต่อสู้อื่นๆ จรวดหลายลำกล้อง๘๓๗ ลำ ระบบปืนใหญ่และปืนครก ๓,๓๙๓ กระบอก และยานยนต์ทหาร ๕,๖๔๐ คัน ถูกทำลายตั้งแต่เริ่มปฏิบัติการทางทหารพิเศษของรัสเซีย