เล่นกับไฟซ้ำ ๆ มังกรจะพิโรธ! สีจิ้นผิงหงายไพ่เด็ด เอาคืนเดือดแน่ หลังไบเดนเร่งแซงก์ชั่นเทคโนโลยีจีน งานนี้ต้องพังกันไปข้าง

0

หลังจากที่สหรัฐฯ ออกมาท้าทายจีนมากขึ้น โดยเพิ่มระดับความตึงเครียด ระหว่างจีนกับไต้หวัน และยังเดินหน้าส่งอาวุธให้ไต้หวัน เป็นการดันให้ไทเปเข้าใกล้สงครามได้อย่างมากขึ้น โดยไม่สนเรื่องการเล่นกับไฟอีกต่อไป บรรดากูรูต่างเคยมองว่า ตอนนี้สหรัฐฯ กำลังใช้แบบแผนวิธีในการแก้ไขปัญหา ด้วยการแซงก์ชั่นจีน ที่เล็งไว้ว่าจะยิงให้จัง ๆ เข้าเป้า แต่ว่าเวลานี้มันกลับดูเหมือนกลายเป็นการสาดกระสุนลูกปืนลูกใส่แบบไม่ยั้งมือไปแล้ว เพราะล่าสุดรัฐบาลอเมริกันให้คำมั่นว่าจะบีบคั้นกดดันนิวซีแลนด์ ให้ตัดส่งการส่งออกผลิตภัณฑ์นมไปยังแดนมังกร นั่นดูเหมือนเป็นแผนการอีกระดับที่สหรัฐฯตั้งเป้าไว้

จีนเตือนสหรัฐต้องชดใช้ หาก "เพโลซี" เยือนไต้หวัน ชี้จีนมีสิทธิ์ปกป้องอธิปไตย : อินโฟเควสท์

ต่อมาก็พบการเคลื่อนไหวของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ซึ่งมีจุดมุ่งหมายที่จะขวางกั้นความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของจีน ด้วยการตัดสินใจออกคำสั่งจำกัดควบคุมการขนส่งชิปประมวลผลกราฟิกระดับก้าวหน้า ซึ่งออกแบบโดยพวกบริษัทอเมริกันอย่าง อินวิเดีย (NVIDIA) และเอเอ็มดี (AMD) ไปประเทศจีน ทั้งนี้รัฐบาลสหรัฐฯ บอกว่ามีความวิตกเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่จะมีการนำผลิตภัณฑ์เหล่านี้ไปเป็นแอปพลิเคชันทางการทหาร

2022 ปีแห่งความตึงเครียดจากความขัดแย้งสหรัฐ-จีน

GPUs เป็นแผงวงจรรวมประเภทหนึ่งที่ใช้ในการทำกราฟิกและภาพวิดีโอ ในการทำงานด้วยคอมพิวเตอร์ซึ่งต้องการผลงานสมรรถนะสูง และการเร่งความเร็วของปัญญาประดิษฐ์ ตลอดจนการเรียนรู้ของเครื่องจักร ขณะที่ อินวิเดีย และเอเอ็มดี ซึ่งตั้งสำนักงานใหญ่อยู่ในรัฐแคลิฟอร์เนียทั้งคู่ มีฐานะเป็นบริษัทเซมิคอนดักเตอร์ใหญ่ที่สุดอันดับ 9 และ 10 ของโลก เมื่อวัดกันด้วยตัวเลขรายรับเมื่อปี 2021

และเมื่อวันที่ 12 สิงหาคม ที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ได้ประกาศมาตรการจำกัดควบคุมการส่งออกพวกเครื่องมือ electronic design automation หรือ EDA (ระบบอัตโนมัติการออกแบบอิเล็กทรอนิกส์) ไปยังประเทศจีน ความเคลื่อนไหวนี้ทำให้ แฮนเดิล โจนส์ (Handel Jones) ซีอีโอของอินเตอร์เนชั่นแนล บิสซิเนส สแตรเตจีส์ (International Business Strategies) บริษัทที่ปรึกษาของแวดวงอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ต้องรีบเขียนแสดงความเห็นว่า การจำกัดควบคุมเช่นนี้อาจจะ “ส่งผลกระทบในทางสร้างความหายนะไปทั่วโลก” โดยส่งผลทำให้เกิด “การสะดุดติดขัดสำคัญๆ ในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ทั่วโลก”

กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยเมื่อคืนนี้

โจนส์ยังตั้งข้อสังเกตต่อไปอีกว่า “สถานการณ์ร้ายแรงมากสำหรับจีน แบบแผนที่ผ่านมาของรัฐบาลสหรัฐฯ นั้น ได้แก่ การมุ่งขยายคำจำกัดความของการตัดสินใจเบื้องต้นของตนเมื่อเวลาผ่านไป เพื่อเป็นการเพิ่มผลกระทบ และนี่น่าจะเกิดขึ้นเช่นกันสำหรับกรณีการตัดสินที่เรากำลังพูดถึงกันนี้” ปรากฏว่าในกรณีนี้ การแซงก์ชั่นใหม่ ๆ เกิดขึ้นตามมาในเวลาไม่ถึง 1 เดือน

ความเคลื่อนไหวเพื่อควบคุมการส่งออกไปยังจีนในช่วงเร็ว ๆ นี้ ไม่ได้มีเพียงแค่เครื่องมืออุปกรณ์ EDA และชิป GPUs เท่านั้น ในวันที่ 12 สิงหาคม กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ยังได้ออกคำสั่งจำกัดควบคุมพวกซับสเตรตทำเซมิคอนดักเตอร์ (semiconductor substrates) ซึ่งทำจากแกลเลียมออกไซด์ (gallium oxide) และเพชร รวมทั้งเทคโนโลยี pressure gain combustion (PGC) ซึ่งจะเป็นตัวปรับปรุงยกระดับสมรรถนะของเครื่องยนต์กังหันก๊าซ (gas turbine)

บริษัทจีนคาดปัญหาชิปขาดแคลนอาจยืดเยื้ออีก 2-3 ปี : อินโฟเควสท์

โดยที่สำนักงานอุตสาหกรรมและความมั่นคง ของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ระบุเอาไว้ในเอกสารเผยแพร่สื่อมวลชน ดังนี้ : “แกลเลียมออกไซด์ และเพชร เป็นวัสดุที่เปิดทางให้พวกเซมิคอนดักเตอร์ซึ่งใช้วัสดุเหล่านี้สามารถทำงานภายใต้เงื่อนไขที่รุนแรงต่างๆ ได้มากขึ้น เป็นต้นว่า ณ ระดับไฟฟ้าแรงสูง หรืออุณหภูมิสูง พวกเครื่องมืออุปกรณ์ซึ่งใช้ประโยชน์จากวัสดุเหล่านี้สามารถที่จะเพิ่มศักยภาพทางการทหารขึ้นมาอย่างสำคัญ

รมต.พาณิชย์สหรัฐฯ เผยการลงนามการค้าสหรัฐฯ-จีนจะมีขึ้นในเดือนนี้

“เทคโนโลยี PGC มีศักยภาพอย่างกว้างขวางสำหรับการนำไปใช้ทั้งกับสิ่งที่เกี่ยวข้องกับพื้นโลกและกับการบินและอวกาศ เป็นต้นว่า จรวด และระบบไฮเปอร์โซนิก” เอกสารเผยแพร่นี้ยังอ้างอิงคำกล่าวของ ปลัดกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ฝ่ายกิจการอุตสาหกรรมและความมั่นคง (Under Secretary of Commerce for Industry and Security) แอลเลน เอสเตเวซ (Alan Estevez) ที่บอกว่า “ความก้าวหน้าต่าง ๆ ทางเทคโนโลยีที่เปิดทางให้พวกเทคโนโลยีอย่างเช่น เซมิคอนดักเตอร์ และเครื่องยนต์ทั้งหลายทำงานได้เร็วยิ่งขึ้น ทรงประสิทธิภาพมากขึ้น เป็นระยะเวลานานขึ้น และทำงานในเงื่อนไขร้ายแรงต่าง ๆ ได้มากขึ้น สามารถที่จะกลายเป็นตัวเปลี่ยนเกมทั้งในบริบทด้านการพาณิชย์และด้านการทหาร”

ทำให้บรรดากูรูและนักวิชาการต่างประเทศ จับตามองว่า เมื่อสหรัฐฯกล้าแซงก์ชั่นจีนในเรื่องเทคโนโลยีถึงเพียงนี้ จะทำให้เรื่องตัดส่งการส่งออกผลิตภัณฑ์นมไปยังแดนมังกร เป็นเรื่องที่จะเกิดขึ้นจริงหรือไม่ เพราะความตึงเครียดระดับรุนแรงที่สหรัฐฯ พยายามเปิดหน้าขนาดนี้ จะทำให้จีนตอบโต้ความเคลื่อนไหวเหล่านี้อย่างไร และเมื่อใด รวมทั้งจะรุนแรงแค่ไหน หรือว่าต้องมีใครพังกันไปข้างหนึ่งกันแน่ ก็อาจจะเป็นไปได้

ทำเนียบขาว-ก.ต่างประเทศจีนยืนยัน 'โจ ไบเดน-สี จิ้นผิง' หารือทางไกลครั้งแรก 15 พ.ย.นี้

 

สี จิ้นผิง' อวยพร 'ไบเดน' ขอให้หายป่วยเร็ววัน

กระทรวงพาณิชย์สหรัฐ คาดการณ์ปัญหาชิปขาดตลาดจะยาวนานถึงปลายปี 2022 – TechTalkThai