ทำกันเป็นขบวนการ! ยูเครนจัดฉากสังหารพลเรือน ใส่ร้ายรัสเซีย ขณะสหรัฐ-อังกฤษ ขวาง UN ชันสูตรร่างตรวจหัวกระสุน

0

ทำกันเป็นขบวนการ! ยูเครนจัดฉากสังหารพลเรือน ใส่ร้ายรัสเซีย ขณะสหรัฐ-อังกฤษ ขวาง UN ชันสูตรร่างตรวจหัวกระสุน

จากกรณีที่วันนี้ (16 กันยายน 2565) เพจ World Update ได้โพสต์ข้อความถึงกรณีที่ยูเครน จัดฉากประหารชีวิตหมู่พลเรือนหลายร้อย แล้วโยนบาปรัสเซีย โดยอ้างอิงจาก Aljazeera และกลาโหมรัสเซีย ระบุเนื้อหาบางส่วนที่สำคัญว่า

ผ่านไป 5 เดือนจากการประหารชีวิตหมู่ชาวเมืองบูชา แล้วโยนบาปให้รัสเซีย ชาวโลกจับโป๊ะแตกหลักฐานได้จากสื่อต่างชาติในเหตุการณ์ และคณะตรวจสอบจากคณะแพทย์ทหารบกฝรั่งเศส , ต่อมาช่วง 30 ส.ค.- 6 ก.ย. สหรัฐ อังกฤษ สั่งกองกำลัง NATO ที่ส่วนใหญ่เป็นกองกำลังจากโปแลนด์ อังกฤษ และหน่วยคอมมานโดยูเครนที่ฝึกจบมาจากอังกฤษ เกิน 50% บุกยึดทางใต้แคว้นเคอร์ซอน และซาโปริชเซีย แค่สัปดาห์เดียวโดนทหารคอสแซคท้องถิ่นฝ่ายแยกดินแดน นักรบเชเชน และนักรบแวกเนอร์รัสเซีย จัดหนักยำใหญ่กลยุทธ์คีมปากอ้า “หม้อต้ม” ทำปุ๋ยชีวภาพเกลื่อนไป 4,100 รายบาดเจ็บ 8,000 ราย พ่ายแพ้ยับเยินไปตามระเบียบ อายแทบแทบแผ่นดินไม่สมราคาคุยที่ผู้นำยูเครนคุยโวประโคมข่าวสื่อตะวันตกมาก่อนว่าจะยึดคืนทางใต้ถึงแคว้นไครเมีย
วันที่ 7 ก.ย.สหรัฐ อังกฤษ โปแลนด์ ระดมกองกำลัง NATO ขนานใหญ่ 25,000 คน แก้หน้าและกลบข่าวความพ่ายแพ้ทางใต้ หันมาบุกยึดแคว้นคาร์คิฟ ที่ความจริงแล้วแคว้นนี้ฝ่ายพันธมิตรรัสเซียเพิ่งเริ่มควบคุมพื้นที่ไปได้ 33% เท่านั้นเพื่อทำเป็น “รัฐกันชน” ให้กับเมืองอุตสาหกรรมซีวีโรโดเนตสก์ ที่กองทัพสาธารณรัฐลูฮันสก์ ยึดครองดินแดนสนามบิน ปลดปล่อยจากยูเครนไปก่อนแล้ว โดยเมืองกันชนเช่นอีเซียม เป็นการวางกำลังหลวมๆ ตามยุทธวิธีทางทหารปกติที่ใช้ปกป้องเมืองหลัก , เมื่อ NATO ที่นำโดยผู้บัญชาการสหรัฐ อังกฤษ ทุ่มกองกำลัง และอาวุธหนักจากหน่วยรบพิเศษสหรัฐ อังกฤษ โปแลนด์ ฯลฯ ไปที่คาร์คิฟ รัสเซียย่อมต้องปรับยุทธวิธีเป็นปากคีบ และ”หม้อต้ม” อีกครั้ง จึงเคลื่อนย้ายกำลังทหารในส่วนกลางหม้อออกไปออกไปในวันที่ 8-9 ก.ย. ไปยังขอบหม้อและเมืองหลักเพื่อความปลอดภัย
เพื่อหลอกให้กองกำลัง NATO ขนกำลังและอาวุธหนักมากๆ เข้ามาอยู่ในหม้อต้ม หรือ “Killing Zone” แทน เมื่อฝ่าย NATO และยูเครนงับเหยื่อแล้วก็คึก บุกเดินหน้ายึดเมืองอิเซียม จากนั้นใช้มุกเดิมคือ “จัดฉากประหารชีวิตหมู่” พลเรือนตนเองคล้ายฉากเมืองบูชา โดยทหารรับจ้าง OUN เชื้อสายยิวยูเครน ลากชาวบ้านที่พบว่าใช้เงินรูเบิล , ผูกผ้าขาวที่แขน ขา หรือแค่ขับรถผ่านแล้วสงสัย จัดการประหารชีวิตหมู่ข้างถนนพลเรือนเหล่านั้นราวกว่า 1,000 ราย ส่วนใหญ่เป็นชาย หรือหญิงชราสูงวัย ไม่มีคนวัยฉกรรจ์ เพราะอพยพลี้ภัยข้ามแดนไปอยู่แคว้นเบลโกรอด รัสเซีย หรือเขตสาธารณรัฐลูฮันสก์แล้วราว 5,000 คน , เมื่อแผนจัดฉาก “บูชาภาค2” สั่งประหารชีวิตหมู่พลเรือนยูเครนในคาร์คีพเรียบร้อยแล้ว ประธานาธิบดีเซเลนสกี้ แห่งยูเครน ก็เดินทางไปเมืองอีเซียม
พร้อมการ์ดนักรบ OUN ยิวและหน่วยรบอังกฤษ ถ่ายเซลฟีโชว์พร้อมแถลงประกาศชัยชนะแล้วรีบกลับกรุงเคียฟ เพื่อพบกับนางเออร์ซูลา ฟอน เดอร์ ลีเยน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป ที่เดินทางโดยรถไฟมากรุงเคียฟ เพื่อฟ้องและประโคมข่าวว่าเพิ่งพบหลุมศพชาวอีเซียมหมาดๆ ราว 440 หลุม หลังกองทัพพันธมิตรรัสเซียเคลื่อนกำลังออกจากเมืองไปกว่า 1 สัปดาห์ ขั้นตอนจากนี้คือสื่อตะวันตกและสื่อไทยจะประโคมข่าวโยนยาปให้รัสเซีย และใส่ร้ายว่าผู้นำรัสเซียก่ออาชญากรรมสงคราม
แต่ถ้าหน่วยงานกาชาติสากล หรือสหประชาชาติ จะขอผ่าศพชันสูตรดูประเภทหัวกระสุนหรือชนิดอาวุธ ที่ตกค้างในร่างกายศพชาวบ้าน ทางสหรัฐ อังกฤษ ยูเครน จะโวยวายขัดขวางไม่ยอมเด็ดขาด ซึ่งมุกนี้เตี้ยมกับผู้นำยูเครนมาแล้ว โดยอัดคลิปล่วงหน้าก่อนลงมือประหารชีวิตหมู่เพื่อนำไปแถลงในที่ประชุมสหประชาชาติ ครั้งต่อไป ที่จะมีนายเซอร์เกย์ ลาฟลอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียไปร่วมประชุมด้วยที่นครนิวยอร์ค
ขณะนี้กองทัพรัสเซียได้ใช้อาวุธที่มีประสิทธิภาพรุนแรงขึ้นเช่น FAB-500 , Kh-101 ทิ้งระเบิดจากป้อมบินยักษ์บิน Tu-95MS , ขีปนาวุธ Iskander-M , โดรนกามิกาเซ่ M214 Geran-2 , เฮลิคอปเตอร์โจมตี , ปืนใหญ่นำวิถีเลเซอร์ด้วยโดรนชี้เป้า , จรวดหลายลำกล้องเทอร์โบบาริก ฯลฯ ใส่กองกำลัง NATO อย่างหนักเป็นปุ๋ยชีวภาพเบาะๆ เกิน 5,000 ราย อัตราย่อยสลายเฉลี่ย 800 ราย/วัน , นักรบแว็กเนอร์รัสเซีย , นักรบเชเชนชุดใหม่ , กองทัพลูฮันสก์ ถูกประจำการขอบกลศึกหม้อต้มในคาร์คีฟห้ามกองกำลัง NATO ออกมาจากกรอบวงล้อมขอบหม้อ
จำนวนนักรบฝ่าย NATO จุดนี้ 25,000 คน เป็นปุ๋ยหายวับ และบาดเจ็บหนักไปแล้ว 60% ที่เหลือทั้งหมดจะไม่มีใครได้กลับบ้าน และพบร่างทหารผิวดำชาวอเมริกัน ผิวขาวชาวอังกฤษ โปแลนด์ สวีเดน ผสมปนเปกับร่างนักรบยูเครนจำนวนมากเกลื่อนไปทั่วในสมรภูมิคาร์คิฟ