หลังจากที่มีการวิเคราะห์ของบรรดากูรู ว่าสถานการณ์ในสงครามรัสเซีย-ยูเครน ที่ยืดยื้อนานกว่า 7 เดือนนั้น ในการถล่มเดือดในพื้นที่คาร์คีฟ และมีการตอบโต้กลับ ถล่มโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ของยูเครนนั้น จะเป็นจุดเริ่มต้นที่นาโต้อยากเปิดหน้ารบกับรัสเซียตรง ๆ มากกว่า ไม่ว่าใครจะขึ้นมานำทัพ ทั้งสหรัฐฯ อังกฤษหรือเยอรมันนี น่าจะมีเป้าหมายเดียวกันคือ พร้อมเปิดฉากสงครามครั้งใหม่ให้เดือดกว่าเดิม
ทั้งนี้การออกมารุกเดือด ทวงคืนพื้นที่ของยูเครน ที่เคยนิ่งเงียบมานานหลายเดือน เสมือนเป็นสัญญาณสุดท้ายที่ยูเครนต้องสู้แบบกลั้นใจ แม้ว่าอาวุธและกำลังจะพลไม่พร้อมมากนัก เนื่องจากตะวันตกก็ยังคงลังเลที่จะช่วยเหลือต่อ การต่อสู้ของยูเครนครั้งนี้ นักวิชาการต่างมองว่า ประมาทก่อนไปที่จะเสียกำลังพลจำนวนมาก เพราะสู้รัสเซียไม่ได้ เพราะจากที่เคยนิ่งเงียบไมหลายเดือน และคลังแสงของรัสเซียมีมากกว่าเห็น ๆ ดังนั้นสถานการณ์ในยูเครนตอนนี้ ดูเหมือนจะหันไปทางไหนก็เริ่มจนมุม จะสู้ต่อก็ไม่มีทางชนะ แต่หากไม่สู้ก็ไม่รอดเช่นกัน เท่ากับตอนนี้รัสเซียล่อให้ยูเครนติดกับเต็ม ๆ
ล่าสุด “เซเลนสกี” ออกมาเปิดเผยว่า เมืองและหมู่บ้านมากมายที่ชิงกลับมาได้ถูกกองกำลังรัสเซียทำลายเสียหายหนัก ขณะที่เมืองใหญ่เมืองหนึ่งกำลังเร่งซ่อมระบบประปาและเขื่อนที่ถูกขีปนาวุธมอสโกโจมตี ทั้งนี้ครีวีริห์ เมืองใหญ่ที่สุดในภาคกลางของยูเครนที่มีประชากรราว 650,000 คนช่วงก่อนสงคราม รวมทั้งเป็นเมืองเกิดของประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครนด้วย ถูกโจมตีด้วยจรวดร่อน 8 ลูกเมื่อวันพุธ ที่ 14 ก.ย. ที่ผ่านมา
เซเลนสกี กล่าวระหว่างปราศรัยทางวิดีโอว่า หนึ่งในเป้าหมายที่ถูกโจมตีคือเขื่อนคาราชูนอฟ ซึ่งไม่มีความสำคัญทางทหาร แต่เป็นที่พึ่งพิงในชีวิตประจำวันของพลเรือนนับแสน
ส่วนด้านโอเลคซานดร์ วิลกุล ผู้บัญชาการคณะบริหารทางทหารเมืองครีวีริห์ โพสต์บนเทเลแกรมว่า บ้านเรือน 112 หลังถูกน้ำท่วม แต่เจ้าหน้าที่กำลังเร่งซ่อมแซมเขื่อนบนแม่น้ำอินฮูเล็ตส์ และน้ำที่ท่วมลดลงแล้ว นอกจากนี้เซเลนสกียังเดินทางไปยังเมืองอีเซียม โดยไม่ได้แจ้งล่วงหน้า เมืองนี้เคยเป็นที่มั่นสำคัญของทหารรัสเซียในแตว้นคาร์คีฟ ทางตะวันออกเฉียงเหนือของยูเครน จนกระทั่งเมื่อ 4 วันก่อนหน้านั้นที่กองทัพรัสเซียถูกเคียฟตอบโต้กลับสายฟ้าแลบจนต้องถอยร่นออกไป
อย่างไรก็ตาม ยังเป็นประเด็นที่ทำให้หลาย ๆ ชาติที่หนุนยูเครน ไม่อาจวางใจการเคลื่อนไหวของรัสเซียได้ มีแต่ยูเครนที่รีบประกาศชัยชนะ ทั้ง ๆ ที่เหมือนจะกลายเป็นว่า ยูเครนติดกับรัสเซียตามแผนด้วยซ้ำ