สมรภูมิคาร์คอฟ เป็นการเปิดหน้าชนอย่างชัดเจนแล้วระหว่างกองกำลังนาโต้ที่นำโดยสหรัฐกับกองทัพรัสเซีย อ่านใจปูตินในฐานะผู้บัญชาการทหารสูงสุดซึ่งไม่พูดมาก จะเห็นการขยับทางยุทธศาสตร์ชัดเจนทางทหาร รักษากำลังรบไม่เคลื่อนพลใหญ่ปะทะทางพื้นดิน แต่ใช้วิธีขุดบ่อล่อปลา ล่อมายำเป็นจุดๆ ก่อนหน้านี้สื่อตะวันตกรายงานว่ารัสเซียสั่งขีปนาวุธที่ผลิตโดยเกาหลีเหนือมานับแสนลูก สั่งซื้อโดรนพิฆาตจากอิหร่านไม่ระบุจำนวน จริงหรือแค่ข่าวปล่อย แต่ก็สะท้อนว่ารัสเซียไม่โดดเดียว และพร้อมลุยศึกใหญ่
ล่าสุดเมดเวเดฟ ได้ส่งคำเตือนวันสิ้นโลกให้สหรัฐและตะวันตกว่า ภายใต้สงครามตัวแทนในยูเครน ได้เผยให้เห็นบทบาททหารของกำลังนาโต้และอาวุธยุทโธปกรณ์ของสหรัฐชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ทำให้รัสเซียต้องยกระดับสู่สงครามเต็มรูปแบบกับนาโต้ในพื้นที่ยุโรปอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ เขาเตือนว่า สหรัฐและตะวันตกจะไม่สามารถมีชีวิตที่ราบรื่นอีกต่อไป สงครามครั้งนี้จะชี้ขาดด้วยเครื่องมือรบสุดไฮเทคที่รัสเซียทุ่มสร้างและเตรียมไว้พร้อมจากอวกาศสู่พื้นดิน อีกไม่นานจะได้เจอ เพราะรัสเซียล็อกเป้าไว้แล้วว่ากดปุ่มเมื่อไหร่ถึงเป้าหมายทันที
วันที่ ๑๕ ก.ย.๒๕๖๕ สำนักข่าวสปุ๊ตนิกและรัสเซียทูเดย์ รายงานว่า อดีตปธน.รัสเซีย ดมิทรี เมดเวเดฟ ปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองประธานฝ่วยความมั่นคงรัสเซียกล่าวว่า “กลุ่มนักคิดที่โง่เขลา”แบบตะวันตกกำลังนำประเทศของพวกเขาไปสู่เส้นทางแห่งสงครามนิวเคลียร์ ด้วยการทำสงครามลูกผสมกับมอสโกว์อย่างชัดเจน เขาโพสต์ลงในโซเชียลมิเดียเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา เขาเสริมว่า การจัดหาอาวุธและการสนับสนุนยูเครนอย่างไม่สิ้นสุดในขณะที่แสร้งทำเป็นไม่มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงกับความขัดแย้งจะไม่เป็นผลอีกต่อไป
สำหรับข้อเสนอ สนธิสัญญาความมั่นคงที่เรียกว่า เคียฟ เซเคียวริตี้ คอมแพ็ค( ‘Kiev Security Compact’ คือ”การค้ำประกันความปลอดภัย” ที่ เปิดเผยโดยเคียฟในวันเดียวกันนั้น เมดเวเดฟฟันธงว่า คือ”บทนำของสงครามโลกครั้งที่สามจริงๆ” เขาเรียกสิ่งนี้ว่า “การอุทธรณ์อย่างบ้าคลั่งของเคียฟต่อประเทศตะวันตกที่ทำสงครามตัวแทนกับรัสเซีย”
เขาย้ำว่า “หากสหรัฐและตะวันตกยังคงสูบฉีด ระบอบการปกครองของเคียฟอย่างไม่มีการควบคุมด้วยอาวุธที่อันตรายที่สุด การรณรงค์ทางทหารของรัสเซียจะก้าวไปสู่ระดับถัดไป โดย จะลบขอบเขตที่มองเห็นได้ ความขัดแย้งจะดำเนินไปด้วยตัวของมันเอง อย่างที่สงครามเต็มรูปแบบจะต้องเกิดขึ้น”
“แล้วชาติตะวันตก จะไม่สามารถนั่งอยู่ในบ้านที่สะอาดของพวกเขาได้ หรือเยาะเย้ยว่า พวกเขาทำให้รัสเซียอ่อนแอลงโดยตัวแทน ทุกอย่างจะลุกเป็นไฟรอบตัวพวกเขา ประชากรของพวกเขาจะเก็บเกี่ยวความเศร้าโศกอย่างเต็มที่ แผ่นดินจะถูกไฟไหม้และคอนกรีตจะละลาย” เมดเวเดฟอ้างข้อพระคัมภีร์จากวิวรณ์ ๙:๑๘
“ถึงกระนั้นนักการเมืองใจแคบและนักคิดที่งี่เง่าของพวกเขา กำลังหมุนแก้วไวน์ในมืออย่างครุ่นคิด พูดคุยเกี่ยวกับวิธีที่พวกเขาจะจัดการกับเราโดยไม่ต้องทำสงครามโดยตรง ช่างเป็นพวกโง่เขลากับการศึกษาแบบคลาสสิกโดยแท้”
ความคิดเห็นของเขาตอบสนองการตีพิมพ์ข้อเสนอ “สนธิสัญญาความมั่นคง”ของเคียฟซึ่งพัฒนาขึ้นภายใต้การดูแลของ อดีตเลขาธิการ NATO แอนเดอร์ ฟอกฮ์ ราสมัสเซน(Anders Fogh Rasmussen) ร่างดังกล่าววาดภาพว่าสหรัฐฯ และพันธมิตรรับจะประกันพรมแดนของยูเครนก่อนปี ๒๐๑๔ ด้วยอาวุธ กระสุน ความช่วยเหลือทางการเงิน และการฝึกอบรม ตลอดจนให้คำมั่นที่จะคงมาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซียตราบเท่าที่เคียฟต้องการ และส่งมอบทรัพย์สินของรัสเซียที่ถูกยึดไปให้กับยูเครน
ข้อเสนอด้านความปลอดภัยของยูเครนทำให้รัสเซียต้องเปลี่ยนไมน์เซ็ทใหม่ (Mind set) และจัดกำลังรบให้เหมาะสม แต่ยังคงยุทธศาสตร์ปลดปล่อยดอนบาสส์ตามที่เริ่มปฏิบัติการพิเศษทางทหาร ที่เปิดฉากในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
ด้านโฆษกของประธานาธิบดีปูติน ดมิทรี เปสคอฟ กล่าวว่าภัยคุกคามต่อมอสโกว์ยังคงสูง และอาจจะถูกบังคับให้ยกระดับความรุนแรงในการโจมตีทางทหารในยูเครน เมื่อเคียฟออกสนธิสัญญาความมั่นคงว่าสหรัฐฯ และพันธมิตรจะรับประกันความปลอดภัย
เอกสารดังกล่าวเน้นย้ำถึงภัยคุกคามที่ NATO คุกคามรัสเซียโดยตรง มอสโกว์มองว่าการที่ยูเครนเข้าเป็นสมาชิกกลุ่มทหารที่นำโดยสหรัฐฯ นั้นไม่สามารถยอมรับได้
เปสคอฟกล่าวย้ำว่า“ภัยคุกคามหลักประการหนึ่งต่อประเทศชาติของเรายังคงอยู่ ซึ่งหมายความว่าหนึ่งในเหตุผลหลักสำหรับการปฏิบัติการทางทหารพิเศษยังคงอยู่ หรือแม้กระทั่งกลายเป็นเรื่องเร่งด่วนมากขึ้นกว่าเดิม”
มาเรีย ซาคาโรวา โฆษกกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย กล่าวเมื่อวันพุธว่า ข้อเสนอสนธิสัญญาความมั่นคงของเคียฟ มีขึ้นเพื่อหลอกให้ชาติต่างๆ ในยุโรปได้ให้การสนับสนุนราคาแพงแก่เคียฟ พวกเขาจะเสี่ยงต่อศักยภาพทางเศรษฐกิจของตนเอง ซึ่งจะเป็นการทำลายอำนาจทางการเมืองของพวกเขาเอง ซึ่งเป็นเป้าหมายที่แท้จริงของนักเชิดหุ่นของเคียฟในวอชิงตัน
สถานการณ์การสู้รบโดยรวม เมื่อพื้นที่ยึดครองยังไม่เปลี่ยนมือ นั่นหมายถึงรัสเซียยังมีแต้มต่อ แต่ความรุนแรงของกลยุทธ์การรบเต็มรูปแบบกำลังจะเริ่มขึ้น รัสเซียส่งสัญญาณแล้วว่าต่อไปจะไม่ออมมือ!!??