แฉยับ! สหรัฐเปลี่ยนอวกาศเป็นสนามรบจีน! NASA ไม่เข็ด จะปล่อยจรวดอีก พบตลอด50ปีต้องขอซื้อเครื่องยนต์รัสเซีย
จากกรณีที่เมื่อวานนี้ (13 กันยายน 2565) องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติของสหรัฐฯ หรือ นาซา ตั้งเป้าส่งจรวดสเปซ ลอนช์ ซิสเท็ม หรือ (SLS) ขึ้นสู่อวกาศในวันที่ 27 กันยายนนี้ โดยที่การปล่อยจรวดดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของโครงการสำรวจดวงจันทร์ที่มีชื่อว่าอาร์เทมิส 1 ซึ่งไม่มีนักบินประจำการ
ล่าสุดวันนี้ (14 กันยายน 2565) เพจ World Update ได้โพสต์ข้อความถึงกรณีดังกล่าว โดยอ้างอิงจาก SputnikNews , NASA ระบุว่า เมื่อปี 1969 – 1972 หรือราว 50 ปีก่อน องค์การอวกาศ NASA สหรัฐ บอกว่าในช่วง 3 ปีนี้ ได้ส่งยานอวกาศจำนวน 7 รุ่น คือ Apollo-11 , 12, 13, 14, 15, 16, 17 พร้อมนักบินอวกาศอีกเกิน 2 โหล ไปดวงจันทร์ด้านสว่างหันหาโลก เฉลี่ยสหรัฐส่งยานและนักบินอวกาศไปเดินเล่นบนดวงจันทร์จนพรุน ปีละราว 2 ครั้ง ง่ายดายมากปานเดินเล่นข้างบ้าน
ครั้งล่าสุดคือ ปี 1972 ด้วยยาน Apollo-17 จนบันทึกในตำราเรียนทั่วโลกตลอดมา แต่ในตำราไม่ได้บอกว่าสหรัฐ ลืมกล้องถ่ายภาพสารคดี 1 ตัว , ยานลูก Eagle 1 ลำ , รถ Rover จำนวน 3 คันไว้บนดวงจันทร์ , ต่อมาอีกหลายปีถูกทวงถามสิ่งของที่สูญหายไป องค์การอวกาศ NASA สหรัฐ จึงนำรถ Rover จำนวน 1 คัน ไปตั้งไว้ที่ “สวนสนุกดิสนีย์แลนด์” รัฐฟอริดา มาจนถึงทุกวันนี้ โดยให้เหตุผลว่า “ลืมสร้างเกินมา 1 คัน”
ส่วนกล้องถ่ายภาพ และยานลูก Eagle ยังหาไม่เจอ แต่ในปี 2009 สหรัฐ ส่งยานขนาดจิ๋วไม่มีมนุษย์ไปถ่ายภาพดวงจันทร์ในระยะความสูง 100 กม.พบหินสะท้อนแสงและหลุมบนผิวดวงจันทร์ สหรัฐ ฟันธงว่านั่นแหละสิ่งของที่ลืมทิ้งไว้ ไม่ต้องพิสูจน์บินลงไปดูใกล้ๆ, ปัจจุบันนี้สหรัฐฯ ให้คำจำกัดความพื้นที่อวกาศว่า “เป็นเขตดินแดนการสู้รบ”
โดยกลาโหม สหรัฐออกนโยบายใหม่ที่ต้องทำให้อวกาศเป็นหลักลำดับความสำคัญของอำนาจทางทหารของชาติ จึงพยายามติดตั้งอาวุธในอวกาศ เพื่อยิงดาวเทียมต่างๆ ของชาติอื่น กลาโหมสหรัฐ เผยเอกสารว่าจะเริ่มปฏิบัติการทางทหารในอวกาศ เพราะวิตกกังวล “ขีดความสามารถด้านอวกาศของจีนกำลังพัฒนาในอัตรามากขึ้น 2 เท่าที่เร็ว และล้ำหน้ากว่าสหรัฐฯ
ล่าสุด นายเหมา หนิง โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีน แถลงข่าวว่า สหรัฐได้จัดตั้งกองทัพใหม่มาตัังแต่ยุคอดีตประธานาธิบดีโดนัล ทรัมป์ “สร้างกองทัพอวกาศ และกองบัญชาการอวกาศ” พบเอกสารกลาโหม เร่งพัฒนาและปรับใช้อาวุธโจมตีในอวกาศ ฝึกทางทหารทดสอบยิงขีปนาวุธอวกาศ ” เพื่อการควบคุมและยึดครองพื้นที่ในอวกาศด้วยอาวุธ” แข่งขันกับรัสเซียและจีน “เปลี่ยนอวกาศให้ติดอาวุธและเป็นสนามรบ” ตามคำสั่งใหม่ของกลาโหม
สหรัฐฯ ระบุว่า “ปกป้องและป้องกันการใช้พื้นที่อวกาศเพื่อวัตถุประสงค์ด้านความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ” เพื่อยับยั้งความขัดแย้ง แต่ “หากการยับยั้งล้มเหลวให้ใช้อาวุธเอาชนะด้วยการรุกราน” เผยให้เห็นถึงความทะเยอทะยานของสหรัฐฯ อย่างเต็มที่ในการเพิ่มกำลังทหารและ “การทำสงครามในอวกาศ”
ทางการจีน ระบุต่อว่า “ชุดดาวเทียม Starlink ของอิลอน มัสค์ , ยาน Space X เป็นส่วนหนึ่งของโครงการอาวุธ “เครื่องจักรสงคราม” ในอวกาศของจักรวรรดิสหรัฐฯ และ NATO ที่ปัจจุบันมีดาวเทียมสอดแนมทางทหาร และดาวเทียมแฝงต่างๆ ลอยในอวกาศรอบโลกกว่า 4,000 ชุด ,
ภายหลังที่องค์การอวกาศ NASA สหรัฐ ล้มเหลวนับครั้งไม่ถ้วนในการส่งยาน Artemis1 ออกนอกโลกไปวนรอบดวงจันทร์โดย “ส่งมนุษย์เทียมขึ้นไปด้วย” เหตุเพราะ “เครื่องยนต์สร้างเองพัง” และรัสเซียไม่ยอมขาย และซ่อมบำรุงเครื่องยนต์ขับดันจรวดขนาดยักษ์ RD-180 ให้สหรัฐ เหมือนตลอด 50 ปีที่ผ่านมาที่สหรัฐ ซื้อเครื่องยนต์รัสเซียมาใช้ปล่อยจรวดแล้ว 122 เครื่อง
ล่าสุด NASA สหรัฐฯ แถลงประกาศชัยชนะอย่างยิ่งใหญ่ของมวลมนุษยชาติว่า “ตั้งเป้าจะส่งจรวด SLS บรรทุกยาน Artemis1 ขึ้นสู่อวกาศเป็นครั้งแรกในวันที่ 27 ก.ย.2022 นี้พร้อม”มนุษย์เทียม” ไปวนรอบดวงจันทร์ด้านไกลตรงข้ามโลกที่ระยะความสูง 20,000 กม. แล้ววนกลับมาตกที่มหาสมุทรแปซิฟิคบนโลก
แต่มีข้อแม้ว่า ขึ้นอยู่กับความสำเร็จในการทดสอบเติมเชื้อเพลิงที่เคยรั่วไหลให้แก่จรวด และการขอยกเว้น “การทดสอบแบตเตอรี่ซ้ำในระบบการบินฉุกเฉิน” ที่ใช้ในกรณีที่ “ต้องทำลายจรวด” หากเดินทางออกนอกเส้นทางที่กำหนดไว้ แต่ถ้าหากไม่ได้รับข้อยกเว้น “ก็จะต้องย้ายจรวด SLS กลับไปที่อาคารประกอบอากาศยาน และเลื่อนกำหนดการปล่อยจรวดออกไปอีกเรื่อยๆ ไม่มีกำหนดใหม่แน่นอน