ขณะที่ผู้นำสหภาพยุโรปยังแข็งกร้าวเดินหน้า ไล่บี้รัสเซียทางเศรษฐกิจและการทหารในสงครามตัวแทนในฐานะนาโต้ ที่พัฒนาเข้าสู่การเผชิญหน้าอย่างชัดเจนมากขึ้น สภาพการณ์ที่ดำรงอยู่ล่าสุด อียูถอยกรูดไม่ร่วมแผนสหรัฐฯกำหนดเพดานราคาก๊าซรัสเซียหวั่นโดนเอาคืน ภาพการประท้วงของประชาชนนับแสนในหลายประเทศยุโรป ถึงขั้นบางประเทศของแยกตัว โดยเฉพาะแกนนำอย่างอังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมัน อิตาลีจนบัดนี้การต่อต้านยิ่งขยายวงกว้างขวางส่อรัฐบาลทั้งหลายจะคุมไม่อยู่ ในขณะที่เงินเฟ้อยูโรโซนพุ่งไปแล้ว ๒๐%
สงครามตัวแทนระหว่างรัสเซียกับสหรัฐและพันธมิตรในยูเครน เป็นกรณีพิพาทที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนในยุโรป ไม่น้อยหน้าสงครามโลกครั้งที่ ๒ ในช่วงเริ่มต้น และผลกระทบที่เกิดขึ้นเห็นชัดว่ายุโรป กำลังถูกมาตรการคว่ำบาตรย้อนกลับและรัสเซียเอาคืนอย่างแรงด้วยการตัดส่งก๊าซธรรมชาติให้ ทำให้ราคาพลังงานและค่าไฟฟ้าสูงขึ้นหลายเท่าตัว ถึงขั้นผู้นำยอมรับว่าช่วงที่สุขสบายได้ผ่านพ้นไปแล้ว
สภาวะเช่นนี้เกิดขึ้นในอังกฤษ เยอรมนี ฝรั่งเศส อิตาลี กรีซ และ หลายประเทศในกลุ่มสหภาพยุโรป ประชาชนเผชิญความยากลำบากจนพูดไม่ออก และเริ่มมีการรวมตัวเดินขบวนประท้วงต่อต้านรัฐบาล เรียกร้องให้ยกเลิกการคว่ำบาตรรัสเซียเพื่อจะได้มีก๊าซเหมือนเดิม
คนอังกฤษได้เห็นการหยุดงานประท้วงเพื่อเรียกร้องค่าแรงเพิ่มขึ้น คนเยอรมันเริ่มมองว่ารัฐบาลจะต้องเห็นแก่ความทุกข์ยากของประชาชนมากกว่าการช่วยเหลือยูเครนทำสงครามซึ่งไม่มีโอกาสชนะ
ชาวออสเตรียเดินขบวนเรียกร้องให้รัฐบาลเลิกคว่ำบาตรรัสเซียเพราะทนกับราคาพลังงานสูงขึ้นหลายเท่าตัวไม่ได้ ค่าครองชีพมีแต่จะเพิ่มขึ้นเพราะอัตราเงินเฟ้อ
หลายประเทศในยุโรปมีอัตราเงินเฟ้อสูงกว่า ๒๐% โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศบอลติก บริษัทหลายระดับโดยเฉพาะอุตสาหกรรมและพลังงานเริ่มทนไม่ไหวต้องขอให้รัฐบาลช่วยเหลือ ธุรกิจรายย่อยและขนาดกลางต้องปิดตัวลงเพราะขาดเงิน
ธนาคารชาติของอังกฤษได้ตั้งกองทุนมูลค่า ๔.๖ หมื่นล้านดอลลาร์ เพื่อช่วยเหลือบริษัทพลังงานซึ่งประสบภาวะวิกฤตด้านการเงิน มาตรการนี้ถูกกำหนดโดยนายกรัฐมนตรี ลิซ ทรัสส์ หลังจากเข้ารับตำแหน่งวันที่ ๖ เดือนนี้เองซึ่งยังคงนโยบายแข็งกร้าวต่อรัสเซียและจีน ตามวาระวอชิงตัน
หนังสือพิมพ์เดอะการ์เดียนได้รายงานว่าช่วงหลายเดือนที่ผ่านมามากกว่า ๓๐ บริษัทที่ค้าขายพลังงาน ได้ปิดกิจการเพราะทนต่อราคาต้นทุนที่แพงขึ้นไม่ได้ ประชาชนอังกฤษผู้เสียภาษีจะต้องแบกรับภาระเป็นเงินหลายหมื่นล้านปอนด์
ฝรั่งเศสและอิตาลีซึ่งมีขนาดเศรษฐกิจระดับนำก็อยู่ในสภาพไม่ต่างกันเพราะไม่มีแหล่งพลังงานของตัวเองนอกจากโรงไฟฟ้าที่ใช้พลังงานถ่านหิน และนิวเคลียร์ที่เป็นทางเลือกหลังจากรัสเซียหยุดส่งก๊าซธรรมชาติ
มีข่าวว่าเรือบรรทุกน้ำมันดิบหลายลำได้รับการถ่ายโอนน้ำมันดิบจากรัสเซียแล้วส่งต่อไปให้ประเทศยุโรป ซึ่งการซื้อขายในย่านทะเลประเทศกรีซได้เกิดขึ้นอย่างมาก สะท้อนให้เห็นว่ายุโรปยังหาแหล่งทดแทนจากที่อื่นไม่ได้ ต้องยอมซื้อในราคาแพง นี่อายเป็นเหตุให้ราคาพลังงานลดลงชั่วคราว ทำให้นักลงทุนในตลาดหลักทรัพย์งงกับเป็นแถบ
ผู้นำเยอรมนี นายกรัฐมนตรี โอลาฟ โชลซ์ อ้างว่าได้เตรียมพร้อมสำรองก๊าซธรรมชาติเพียงพอให้ผ่านฤดูหนาวไปได้ แต่สภาพที่เป็นอยู่คนเยอรมันต้องทนกับสภาวะขาดแคลน ต้องลดการใช้พลังงาน พิษของเงินเฟ้อที่ส่งผลให้ค่าครองชีพสูงขึ้นต่อเนื่อง จึงเริ่มมีกระแสต่อต้านรัฐบาลอย่างไม่เคยมีมาก่อน ส่งผลให้ระยะหลังๆท่าทีของเยอรมันเอียงมาทางรัสเซียมากขึ้นทำให้เคียฟไม่พอใจออกมาประณามอยู่บ่อยครั้ง
สภาวะความหนาวจัด ที่จะเริ่มเดือนหน้าจะเป็นบทพิสูจน์ว่ายุโรปจะสามารถอยู่รอดได้หรือไม่เมื่อไม่มีก๊าซธรรมชาติจากรัสเซียเพื่อเครื่องทำความร้อนในที่พักอาศัย
อีก ๒ เดือนราคาพลังงานจะเพิ่มขึ้นกี่เท่าตัวในยุโรปยังไม่มีใครคาดเดาได้ แต่ที่เห็นชัดเจนก็คือความเสียหายด้านเศรษฐกิจ หลายประเทศทั้งเยอรมนีและอังกฤษเผชิญภาวะเศรษฐกิจถดถอยหรือ รีเซสชั่น(Recession) แบบไม่มีทางเลือกและยังไม่รู้ว่าจะแก้ปัญหาอย่างไร
สภาพเช่นนี้แต่ละประเทศต้องดิ้นรนเพื่อความอยู่รอด มีรายงานข่าวว่าข้าวสาลีและธัญพืชจากยูเครนถูกส่งไปทางเรือสู่หลายประเทศในยุโรปแทนที่จะไปในกลุ่มประเทศที่เดือดร้อนในทวีปแอฟริกาตามความคาดหมายของสหประชาชาติ
สงครามอาวุธระหว่างรัสเซียและยูเครนยังไม่จบ แต่สงครามเศรษฐกิจส่อเค้าลางแพ้ยับระหว่างสหรัฐฯ และพวกที่รุมเล่นงานรัสเซียแม้ยังไม่อาจสรุปผลความเสียหาย แค่เริ่มต้นก็พบว่าอยู่ในขั้นมหาศาล เฉพาะค่าฟื้นฟูยูเครนฝ่ายตะวันตกประเมินขณะนี้ก็มากกว่า ๓.๔ แสนล้านดอลลาร์แล้ว จึงเป็นอันว่าแพ้ไม่ได้เพราะใครจะเป็นผู้จ่าย
โจเซฟ บอร์เรล (Josep Borrell) ยืนยันว่าสหภาพยุโรปจะต้องเพิ่มการสนับสนุนกองทัพของเคียฟเป็นสองเท่า บ่งบอกชะตากรรมคนยุโรปที่ต้องจ่ายราคาแพงทั้งทรัพย์สินและชีวิตให้กับการรีเซ็ตโลกครั้งนี้ หรือนี่คือจุดเริ่มต้นแห่งความล่มสลายของยุโรปที่จะกลายเป็นสนามรบใหญ่ของสงครามโลกครั้งที่ ๓ ที่อาจระเบิดขึ้นวันใดวันหนึ่งซึ่งไม่อาจคาดเดาได้!??