หลังจากที่ทั่วโลกจับตามองสถานการณ์ในรัสเซีย-ยูเครนอีกครั้ง เมื่อเยอรมันนีประกาศจะให้ความช่วยเหลือยูเครนจนสุดทาง แม้ว่ากองทัพเยอรมันกำลังมีปัญหาขาดแคลนอาวุธยุทโธปกรณ์มากก็ตาม ขณะที่รัสเซียประกาศจะกดดันจนกว่าเป้าหมายทั้งหมดจะสำเร็จ พร้อมลั่ เยอรมันนีข้ามเส้นสีแดงในการส่งอาวุธให้ยูเครน ทั่วโลกหวั่นสงครามจะยกระดับหรือไม่? ในขณะที่กองทัพยูเครนรุกคืบชิงพื้นที่กลับอย่างต่อเนื่องและราคาก๊าซยุโรปก็ร่วงอย่างที่บางคนไม่คาดคิด
ทั้งนี้ยูเครนได้ออกมาประกาศชัยชนะ ที่กองทัพรัสเซียยอมถอนกำลังออกจากพื้นที่คาร์คีฟ และให้คำมั่นว่าจะทวงคืนพื้นที่ที่รัสเซียยึดไปก่อนหน้านี้ ซึ่งนี่นับเป็นครั้งแรก ๆ ที่ยูเครนออกมาประกาศว่ากองทัพตนเองทำภารกิจสำเร็จ แต่ดูเหมือนว่า การป่าวประกาศของยูเครนครั้งนี้ จะไม่ได้ผลลัพธ์อย่างที่หวัง เพราะขนาดสหรัฐฯที่ให้การช่วยเหลือ ยังไม่กล้าออกมาร่วมฉลองชัยด้วย ทำให้น่าติดตามแผนต่อไปของรัสเซียมากกว่า ว่าจะเดินเกมด้วยแผนไหน
ล่าสุดในเพจเฟซบุ๊ก Around the world สงครามรอบโลก ได้รายงานว่า ทหารยูเครนยิ้มร่าจากยานเกราะคันหนึ่งเมื่อวันจันทร์ ที่ 12 ก.ย. บนถนนในพื้นที่แคว้นคาร์คีฟ ซึ่งฝ่ายเคียฟขับไล่กองกำลังรัสเซียถอยหนีไป
พวกผู้นำสหรัฐฯ ตั้งแต่ประธานาธิบดีโจ ไบเดนลงไป ยังไม่ผลีผลามประกาศชัยชนะก่อนเวลาอันควร หลังกองทัพยูเครนจัดหนักถล่มทหารรัสเซียถอยร่นจากดินแดนทางเหนือ แต่ว่าเจ้าหน้าที่การทหารอเมริกันกำลังมองเกมศึกช็อตต่อ ๆ ไปและวางแผนเพื่อจัดหาอาวุธและขยายโครงการฝึกทหารให้เคียฟ ควบคู่กับการเฝ้าคุมเชิงว่า มอสโกจะออกมาตอบโต้อย่างไรกับความเพลี่ยงพล้ำอย่างกะทันหันในสนามรบคราวนี้
แม้ยูเครนฉลองกันอย่างคึกคักในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ รู้ดีว่าประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ยังมีทหารและทรัพยากรพร้อมใช้อีกมากมาย และกองกำลังรัสเซียยังคงควบคุมพื้นที่กว้างใหญ่ทางด้านตะวันออกและภาคใต้ของยูเครน
ฟิลิป บรีดเลิฟ อดีตนายพลจากกองทัพอากาศสหรัฐฯ ที่เคยดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารสูงสุดขององค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ระหว่างปี 2013-2016 เห็นด้วยว่า ยังไม่ควรด่วนประกาศชัยชนะเนื่องจากรัสเซียยังมีไพ่ให้หงายเล่นได้อีกหลายใบ
อย่างไรก็ตาม เขาเห็นด้วยว่า ยูเครนขณะนี้สามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงที่มีผลยืนยาวในดินแดนด้านตะวันออกและภาคเหนือของประเทศ และเชื่อว่า ถ้าฝ่ายตะวันตกติดอาวุธที่เหมาะสมให้ ยูเครนจะสามารถรุกคืบได้ต่อไป เวลาเดียวกัน เจ้าหน้าที่ทหารอาวุโสคนหนึ่งของสหรัฐฯเผยว่า อเมริกากำลังพิจารณาเกี่ยวกับความต้องการในอนาคต ซึ่งรวมถึงการหารือเกี่ยวกับการจัดการฝึกการสู้รบแบบเข้มข้นให้กองทหารขนาดใหญ่ขึ้นของยูเครน จากปัจจุบันที่มุ่งเน้นให้ทีมขนาดเล็กเรียนรู้วิธีใช้อาวุธบางประเภท
นอกจากนั้นวอชิงตันยังกำลังพิจารณาจัดส่งระบบต่อต้านอากาศยาน ตลอดจนถึงโดรนโจมตีและโดรนสอดแนมให้ยูเครนเพิ่ม โดยเจ้าหน้าที่ผู้นี้เป็น 1 ใน 2 คนที่ให้ข่าวแก่พวกผู้สื่อข่าว ช่วงหลายวันมานี้ยูเครนเปิดฉากโจมตีรุกตอบโต้หลังจากออกข่าวกันมานาน ในบริเวณซึ่งไม่ใช่พื้นที่ที่พวกกองทหารรัสเซียผู้ยึดครองชุมพลกันอย่างแข็งแกร่งรอรับการตีโต้อยู่ และการบุกของฝ่ายเคียฟก็ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่ที่สุดในสงครามคราวนี้ที่ล่วงเลยมา 200 วันแล้ว ซึ่งปูตินเป็นผู้ก่อขึ้นและมีเป้าหมายการโจมตีอยู่ที่รัฐบาลเคียฟที่ฝักใฝ่ตะวันตก
พวกเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ เหล่านี้ยอมรับว่า อเมริกาให้ข้อมูลข่าวสารเพื่อช่วยยูเครนในการโจมตีโต้กลับ แต่ปฏิเสธที่จะระบุชัดเจนว่าให้ไปขนาดไหน หรือว่าพวกเจ้าหน้าที่ฝ่ายตะวันตกช่วยหรือเปล่าในการนำแนวความคิดมาวางเป็นแผนทางยุทธศาสตร์ซึ่งทำให้กองกำลังรัสเซียไม่ทันตั้งตัว ด้วยการดึงความสนใจไปที่แผนการโจมตีด้านภาคใต้ แต่จริงๆ แล้ววางแผนโจมตีขนาดใหญ่กว่าในภาคตะวันออก
ขณะที่ทางด้านแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศอเมริกา แสดงความเห็นว่า กองกำลังยูเครนมีความคืบหน้าอย่างมากจากการสนับสนุนของตะวันตก แต่เขาเตือนด้วยว่า “มันยังเร็วเกินไปที่จะพูดให้ชัด ๆ ว่าเรื่องนี้จะนำไปสู่อะไร ฝ่ายรัสเซียยังคงมีกำลังทหารอย่างสำคัญมากอยู่ในยูเครน รวมทั้งอาวุธยุทโธปกรณ์และเครื่องกระสุน เขาบอก และกล่าวประณามว่า “พวกเขายังคงใช้มันอย่างไม่มีการจำแนก เพื่อเล่นงานไม่เพียงกองทัพยูเครนเท่านั้น แต่ยังเล่นงานใส่พลเรือนและโครงสร้างพื้นฐานด้านพลเรือนด้วยอย่างที่เราพบเห็นกันอยู่” ส่วนทางด้านไบเดน ที่ยอมรับว่ายูเครนเริ่มมีชัยชนะในสนามรบในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ปฏิเสธที่จะพูดถึงสถานการณ์ที่ยังดำเนินต่อไปด้วย
อย่างไรก็ตามทางฝ่ายรัสเซียนั้น ดมิทรี เพสคอฟ โฆษกวังเครมลินตอบข้อซักถามของนักข่าวที่ว่า ปูตินยังเชื่อมั่นในความเป็นผู้นำทางทหารของกองทัพรัสเซียหรือไม่ว่า ปฏิบัติการพิเศษทางทหารในยูเครนจะดำเนินต่อไปจนกว่าจะบรรลุเป้าหมายที่กำหนดไว้แต่แรกคือ การทำให้ยูเครนเป็นเขตปลอดทหาร สำหรับตัวปูตินเองไม่ได้กล่าวถึงสถานการณ์สู้รบในยูเครนระหว่างเป็นประธานการประชุมทางเศรษฐกิจที่ถ่ายทอดทางทีวี แต่ย้ำว่า สงครามสายฟ้าแลบทางเศรษฐกิจที่ตะวันตกตั้งความหวังไว้ไม่ได้ผลโดยสิ้นเชิง
ด้านบรีดเลิฟตั้งข้อสังเกตว่า แม้พ่ายแพ้เมื่อเร็ว ๆ นี้ แต่ปูตินยังมีรถถัง รถบรรทุก และกำลังพลมากมายที่จะส่งไปเสริมส่วนที่เป็นปัญหา เพียงแต่ว่าไม่ใช่ทรัพยากรที่ดีที่สุดเท่านั้น อีกทั้งเขาเตือนว่า ฤดูหนาวอาจทำให้สถานการณ์ท้าทายมากขึ้น เพราะปูตินเตรียมตัดการป้อนพลังงานให้ยุโรป ซึ่งทำให้คาดว่า ราคาพลังงานจะพุ่งขึ้นและทำให้ความคิดเห็นของผู้คนทั่วทั้งภูมิภาคนี้ถึงจุดเปลี่ยน
ไพ่ใบสำคัญของปูตินอาจเป็นการทำให้ชาวยุโรปยากแค้นแสนสาหัส และประมุขวังเครมลินจะพยายามยันเกมให้ได้ตลอดช่วงฤดูหนาวโดยวางเดิมพันใหญ่ไว้ที่การทำให้ประชาชนในยุโรปแตกหักกับพวกผู้นำทางการเมือง