หลังจากที่มีการวิเคราะห์ของบรรดากูรู ว่าสถานการณ์ในสงครามรัสเซีย-ยูเครน ที่ยืดยื้อนานกว่า 7 เดือนนั้น ในการถล่มเดือดในพื้นที่คาร์คีฟ และมีการตอบโต้กลับ ถล่มโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ของยูเครนนั้น จะเป็นจุดเริ่มต้นที่นาโต้อยากเปิดหน้ารบกับรัสเซียตรง ๆ มากกว่า ไม่ว่าใครจะขึ้นมานำทัพ ทั้งสหรัฐฯ อังกฤษหรือเยอรมันนี น่าจะมีเป้าหมายเดียวกันคือ พร้อมเปิดฉากสงครามครั้งใหม่ให้เดือดกว่าเดิม
ล่าสุดทั่วโลกจับตามองสถานการณ์ดังกล่าวอีกครั้ง เมื่อเยอรมนีประกาศจะให้ความช่วยเหลือยูเครนจนสุดทาง แม้ว่ากองทัพเยอรมันกำลังมีปัญหาขาดแคลนอาวุธยุทโธปกรณ์มากก็ตาม นอกจากนี้ประชาชนในเยอรมันยังออกมารวมตัวประท้วงรายวัน เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลเจรจากับรัสเซียเรื่องพลังงาน และประชาชนส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับการที่เยอรมันจะยังคว่ำบาตรมอสโกต่อไป
ขณะที่ในเพจเฟซบุ๊ก World Maker ได้รายงานเพิ่มเติมเกี่ยวกับประเด็นนี้ว่า รัสเซียประกาศจะกดดันจนกว่าเป้าหมายทั้งหมดจะสำเร็จ พร้อมลั่น เยอรมนีข้ามเส้นสีแดงในการส่งอาวุธให้ยูเครน ทั่วโลกหวั่นสงครามจะยกระดับหรือไม่ ? ในขณะที่กองทัพยูเครนรุกคืบชิงพื้นที่กลับอย่างต่อเนื่องและราคาก๊าซยุโรปก็ร่วงอย่างที่บางคนไม่คาดคิด
ทั้งนี้ดูเหมือนว่าหลังจากที่กองทัพยูเครนรุกคืบกลับในการชิงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ทำให้รัสเซียเริ่มโมโห ประกาศลั่นว่าจะใช้แรงกดดันต่อไปจนกว่าเป้าหมายทั้งหมดในยูเครนจะสำเร็จ และยังกล่าวอีกว่าเยอรมนีนั้นข้ามเส้นสีแดงมาแล้ว สำหรับการส่งมอบอาวุธขั้นสูงให้ยูเครน
ความเคลื่อนไหวล่าสุดนี้เกิดขึ้นหลังจากยูเครนตอบโต้ครั้งใหญ่ หลายสื่อรายงานว่ายึดคืนพื้นที่ได้มากกว่า 3,000 ตารางกิโลเมตร ซึ่งถือเป็นการถอยทัพครั้งใหญ่ที่สุดของรัสเซียนับตั้งแต่ที่เฮียปูสั่งดึงกำลังส่วนใหญ่มามุ่งเน้นยุทธศาสตร์ดอนบาส
อย่างไรก็ตาม หากดูจากแผนที่แล้ว จะเห็นว่าพื้นที่ส่วนใหญ่ทางตะวันออกนั้นยังโดนรัสเซียยึดไปเป็นส่วนใหญ่ และน่าจับตามองว่าสงครามครั้งนี้จะทวีความรุนแรงขึ้นหรือไม่ ? หรือท้ายที่สุดแล้วจะบรรลุข้อตกลงกันได้ง่าย ๆ กันแน่
เหตุการณ์ทั้งหมดนี้ เกิดขึ้นท่ามกลางการอ่อนค่าลงมาของเงินดอลลาร์ ในขณะที่ราคาก๊าซของยุโรปก็ร่วงลงมากกว่า 100 ยูโร/Mwh แล้วในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้หลายคนงงหนักว่าราคามันร่วงลงได้อย่างไร ทั้ง ๆ ที่ตลาดตึงเครียดอยู่เช่นนี้ หรือว่าในท้ายที่สุดแล้วราคาก๊าซจะกลับไปพุ่งใหม่อีกรอบ แต่จะจริงหรือไม่คงต้องรอดู