หลังจากที่สหภาพยุโรปค่อย ๆ ทยอยเจอหายนะจากพลังงานที่ขาดแคลน ล่าสุดฝรั่งเศสได้ออกคำสั่งปิดไฟหอไอเฟลเร็วขึ้น และเตรียมวางแผนลดเที่ยวขบวนรถไฟ เพื่อรับมือวิกฤตขาดแคลนพลังงาน
ล่าสุดนายบรูโน เลอ แมร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของฝรั่งเศส เปิดเผยว่า ชาวฝรั่งเศสจะได้รับการคุ้มครองจากนโยบายกำหนดเพดานราคาพลังงาน แต่ภาคครัวเรือนอาจต้องแบกรับต้นทุนบางส่วนที่เพิ่มสูงขึ้นด้วย
โดยนายเลอ แมร์ กล่าวกับสถานีโทรทัศน์แอลซีไอ (LCI) ว่า ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า รัฐบาลจะเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับนโยบายดังกล่าว ซึ่งจะขยายเวลากำหนดเพดานราคาก๊าซและพลังงานที่กำลังดำเนินอยู่ในขณะนี้
ทั้งนี้สื่อซินหัวยังรายงานเพิ่มเติมอีกว่า สหภาพการค้า ได้คาดการณ์ว่าฝรั่งเศสอาจสูญเสียผลผลิตมันฝรั่งอันเป็นผักสำคัญของประชาชนเกือบ 1.5 ล้านตัน และสูญเสียรายได้ราว 250 ล้านยูโร (ราว 9.1 พันล้านบาท) ในปีนี้
นอกจากนี้ข้อมูลจากสำนักงานสถิติของสหภาพยุโรป ซึ่งเผยแพร่เดือนสิงหาคม 2021 ระบุว่าฝรั่งเศสเป็นผู้ผลิตมันฝรั่งรายใหญ่อันดับ 3 ของยุโรปในปี 2020 โดยครองสัดส่วนร้อยละ 15.7 ของการผลิตมันฝรั่งทั้งหมดในยุโรปด้วย
อย่างไรก็ตามในขณะที่สหภาพยุโรปกำลังย่ำแย่ ทั้งฝรั่งเศสและเยอรมนีได้ให้คำมั่นว่าจะร่วมมือกันปกป้องภาคครัวเรือนและบริษัทต่าง ๆ จากราคาพลังงานที่พุ่งทะยานขึ้น ขณะเดียวกันก็ใช้นโยบายการคลังเพื่อแก้ปัญหาเงินเฟ้อที่สูงเป็นประวัติการณ์ ซึางนายบรูโน เลอแมร์ รัฐมนตรีคลังฝรั่งเศสกับนายคริสเตียน ลินด์เนอร์ รัฐมนตรีคลังเยอรมนี ได้แสดงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันในช่วงเริ่มต้นการประชุมรัฐมนตรีคลังของยูโรโซนที่กรุงปราก โดยทั้งคู่ให้คำมั่นว่าจะร่วมมือกันในด้านนโยบายต่าง ๆ คำสัญญาดังกล่าวมีขึ้นเพียงหนึ่งวันหลังจากที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยมากเป็นประวัติการณ์ถึง 0.75% พร้อมระบุว่าจะมีการปรับเพิ่มอีกในอนาคต โดย ECB ให้ความสำคัญกับการรับมือเงินเฟ้อเป็นอันดับแรก แม้ยูโรโซนมีแนวโน้มเผชิญภาวะเศรษฐกิจถดถอยในช่วงฤดูหนาว และเสี่ยงที่จะต้องจำกัดการใช้ก๊าซ