หลังจากมีรายงานสถานการ์ในรัสเซีย-ยูเครน กับความตึงเครียดรอบใหม่ในช่วงที่ผ่านมา โดยก่อนหน้านี้กองทัพยูเครนถูกโจมตีจนหนักในหลายฐานทัพ จนทำให้หลายฝ่ายคาดการณ์ว่า ยูเครนอาจจะจนแต้มและใกล้จบเกม แต่เมื่อวันที่ 11 ก.ย. 2565 ที่ผ่านมา ก็มีรายงานเพิ่มเติมอีกเช่นกันว่า กระทรวงกลาโหมรัสเซียประกาศถอนทหารออกจาก 2 พื้นที่ในภูมิภาคคาร์คีฟ ทางตะวันออกของยูเครน หลังจากที่ยูเครนได้ประกาศความคืบหน้าในการยึดคืนดินแดนที่ตกอยู่ภายใต้การครอบครองของรัสเซียอย่างต่อเนื่องในสัปดาห์ที่ผ่านมา
โดยความเคลื่อนไหวของรัสเซียที่เกิดขึ้นภายใต้ความตั้งใจให้บรรลุเป้าหมายที่ระบุไว้สำหรับปฏิบัติการพิเศษทางทหารเพื่อปลดปล่อยดอนบาส ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันออกของยูเครน แต่อาจจะไม่ใช่ตามที่ยูเครนอ้างว่า รัสเซียพ่ายแพ้ถึงได้ยอมถอยออกไปจากภูมิภาคคาร์คีฟ
ทั้งนี้ที่ระหว่างที่สงครามตรึงเครียด รัสเซียก็ออกมาประกาศว่า รัฐบาลมอสโกพร้อมมอบปุ๋ยเคมี ให้แก่ประเทศกำลังพัฒนา โดยไม่มีการคิดค่าใช้จ่าย เพื่อเป็นการช่วยเหลือประเทศอื่น ๆ ในยามยาก ที่ปุ๋ยและเคมีบางอย่างขาดแคลนเช่นกัน ที่ผ่านมารัสเซียให้ความช่วยเหลือผู้ลี้ภัยยูเครนจำนวนไม่น้อยด้วย จนได้คำชื่นชมจากประชากรยูเครนบางส่วนที่หลบหนีมาขอความช่วยเหลือ
ซึ่งการบริจาคปุ๋ยรอบนี้ ประธานาธิยดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ได้แถลงต่อที่ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ ในกรุงมอสโก เมื่อวันศุกร์ที่ 9 ที่ ผ่านมาว่า รัสเซียพร้อมบริจาคปุ๋ยโพแทสเซียมแก่กลุ่มประเทศกำลังพัฒนา และจะไม่มีการคิดค่าใช้จ่ายใดทั้งสิ้น เนื่องจากรัฐบาลมอสโกทราบดีว่า กลุ่มประเทศเหล่านี้กำลังขาดแคลนปุ๋ย และมีความต้องการปุ๋ยเป็นอย่างมาก
ทั้งนี้กระทรวงการต่างประเทศของรัสเซีย จะเป็นผู้นำในการบริหารจัดการที่เกี่ยวข้อง ปัจจุบัน ปุ๋ยของรัสเซียปริมาณมาก ยังคงค้างอยู่ตามท่าเรือหลายแห่งในยุโรป โดยเป็นผลจากมาตรการคว่ำบาตรของตะวันตก
ขณะเดียวกัน ปูติน กล่าวเสริมว่า รัสเซียจัดหาปุ๋ยแก่ประเทศอื่น ๆ จำนวน 7 ล้านตัน ระหว่างเดือน พ.ค.-ส.ค. ที่ผ่านมา โดยราวครึ่งหนึ่งส่งออกสู่ประเทศในเอเชีย แอฟริกา และลาตินอเมริกา