อังกฤษที่ไม่เหมือนเดิม!! ๗ ทษวรรษ ๑๕ นายกฯ สหราชอาณาจักรภายใต้การนำแห่งสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ ๒

0

การเสด็จสวรรคตของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ ๒ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สร้างความเสียใจให้กับคนทั่วโลก ในฐานะประมุขของสหราชอาณาจักร และพระราชินีผู้เป็นที่รัก บุคคลสำคัญและผู้นำทั่วโลกต่างออกมาสรรเสริญและถวายความอาลัยต่อการสูญเสียในครั้งนี้ 

การปกครองของกษัตริย์ที่ครองราชย์ยาวนานที่สุดองค์หนึ่งของสหราชอาณาจักรได้สิ้นสุดลงแล้ว พระองค์ทรงดำรงตำแหน่งประมุขแห่งรัฐธรรมนูญของสหราชอาณาจักรมายาวนานกว่า ๗๐ ปี โดยมีนายกรัฐมนตรี ๑๕ คนดูแลกิจการการเมืองของประเทศ

วันที่ ๙ ก.ย.๒๕๖๕ สำนักข่าวรัสเซียทูเดย์และโกลบัลไทมส์ รายงานว่า ปธน.วลาดิเมียร์ ปูตินแห่งรัสเซียได้ส่งความเสียใจต่อการสิ้นพระชนม์ของควีนอลิซาเบธ ต่อพระเจ้าชาร์ลส์ที่ ๓ พระมหากษัตริย์อังกฤษองค์ใหม่ของอังกฤษ

ปูตินกล่าวว่า “เหตุการณ์ที่สำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์สมัยใหม่ของสหราชอาณาจักร มีความเชื่อมโยงกับพระนามของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอย่างแยกไม่ออก เป็นเวลาหลายทศวรรษแล้วที่เอลิซาเบธที่ ๒ ได้รับความรักและความเคารพต่ออาสาสมัครของเธออย่างถูกต้อง ตลอดจนมีอำนาจในเวทีโลก”

และอวยพรให้ชาร์ลส์ที่ ๓ “มีความกล้าหาญและความพากเพียร” เมื่อเผชิญกับ “การสูญเสียที่หนักหน่วงและไม่อาจแก้ไขได้”

ประธานาธิบดีรัสเซียกล่าวเสริมว่า “ฉันขอแสดงความเห็นอกเห็นใจอย่างจริงใจและการสนับสนุนต่อสมาชิกของราชวงศ์และทุกคนในบริเตนใหญ่”

ควีนเอลิซาเบธสิ้นพระชนม์ ณ ปราสาทบัลมอรัล ที่พำนักในสกอตแลนด์ ด้วยพระชนมายุ ๙๖ พรรษา เธอเป็นราชาที่ครองราชย์ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์อังกฤษโดยครองบัลลังก์ ๗๐ ปี ราชินีถูกจัดให้อยู่ภายใต้”การดูแลทางกาแพทย์”ไม่นานก่อนที่เธอจะสิ้นพระชนม์ในขณะที่ราชวงศ์อาวุโสรีบไปเข้าเฝ้าเพื่อใช้เวลาในชั่วโมงสุดท้ายกับเธอ 

ประธานาธิบดีจีน สี จิ้นผิง ส่งข้อความแสดงความเสียใจต่อพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 พระองค์ใหม่ของสหราชอาณาจักร ต่อการเสด็จสวรรคตของควีนอลิซาเบธที่ 2 และแสดงความเห็นอกเห็นใจอย่างจริงใจต่อราชวงศ์อังกฤษ รัฐบาลอังกฤษ และประชาชนชาวอังกฤษ

สมเด็จพระราชินีทรงเป็นผู้เชื่อมโยงที่สำคัญในการรักษาจิตวิญญาณของสหราชอาณาจักรและมีบทบาทสำคัญในการช่วยเหลือรัฐบาลอังกฤษในการรักษาเอกลักษณ์สาธารณะและความมั่นคงทางสังคม 

นายกรัฐมนตรีอังกฤษลิซ ทรัสส์ (Liz Truss) ได้แสดงความเคารพต่อ Queen Elizabeth II และกล่าวถวายอาลัย โดยยกย่อง”มรดกอันยิ่งใหญ่”ของพระองค์ การจากไปของพระองค์เป็นวันแห่งความสูญเสียครั้งใหญ่สำหรับสหราชอาณาจักรและโลก

ทรัสกล่าวว่าสมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธที่ ๒ ทรงเป็น”จิตวิญญาณแห่งบริเตนใหญ่”ได้ทำหน้าที่”ด้วยศักดิ์ศรีและความสง่างาม”เป็นเวลา ๗๐ ปี

พระราชวังประกาศการเสียชีวิตของสมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธเมื่อเวลา ๑๘.๓๐ น. ในเย็นวันพฤหัสบดีที่ ๕ ก.ย.๒๕๖๕ โดยมีคำแถลงสั้นๆ ว่า เธอ“เสียชีวิตอย่างสงบที่บัลมอรัล”ในตอนบ่าย ชาร์ลส ราชโอรสของเอลิซาเบธ ซึ่งเคยเป็นมกุฎราชกุมารแห่งเวลส์ ได้สืบทอดตำแหน่งต่อจากพระองค์ในทันทีเพื่อขึ้นเป็นกษัตริย์แห่งอังกฤษ

ทรัสกล่าวย้ำว่า “เธอมีความมั่นคงและความแข็งแกร่งที่เราต้องการ” “เธอได้รับความรักและชื่นชมจากผู้คนในสหราชอาณาจักรและทั่วโลก” 

ทรัสกล่าวว่าชาวอังกฤษต้องรวมตัวกันเพื่อถวายความจงรักภักดีต่อพระองค์และมอบความจงรักภักดีแก่พระราชโอรสของพระองค์ เพื่อช่วยให้เขาแบกรับความรับผิดชอบอันยิ่งใหญ่ที่มาพร้อมกับบัลลังก์ ในขณะที่ยุคใหม่ในประวัติศาสตร์อันงดงามของประเทศกำลังเกิดขึ้น

เนื่องจากพระราชวงศ์กำลังเข้าสู่ช่วงไว้ทุกข์ การนัดหมายอย่างเป็นทางการจึงถูกยกเลิก จะมีการโบกธงชาติ ณ ที่ประทับของราชวงศ์และอาคารราชการ

พระราชกรณียกิจอย่างเป็นทางการครั้งสุดท้ายของพระองค์ คือการแต่งตั้ง ลิซซ์ ทรัสส์(Lis Truss)  เป็นนายกรัฐมนตรีซึ่งดำเนินการที่บัลมอรัลเมื่อวันอังคารที่ ๕ ก.ย.ที่ผ่านมา ทรัสส์เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ ๑๕ ที่ดำรงตำแหน่งภายใต้รัชสมัยการปกครอง ๗๐ ปีของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธ ที่ ๒ แห่งสหราชอาณาจักร

Truss กล่าวปิดท้ายการถวายอาลัยว่า “God save the King”