จากกรณีมีการเปิดเผยถึงเงินคงคลังที่สร้างความฮือฮาเป็นอย่างมาก โดยมีการนำของไทยไปเปรียบเทียบกับชาติตะวันตกระดับชั้นนำของโลก ซี่งหลายคนอาจไม่รู้มาก่อนว่าประเทศไทยเหนือกว่าหลายชาติของยุโรป
ล่าสุดวันนี้ 08 กันยายน 2565 เพจ World Update เปิดเผยข้อมูลที่สำคัญจากการระบุแหล่งที่มาของข่าว ซึ่งมีเนื้อหาบางส่วนที่น่าสนใจว่า
“อิตาลี ชาติในยุโรป ที่เคยยิ่งใหญ่ เป็นคู่หูกับเยอรมนี เปิดสงครามโลกครั้งที่ 2 ด้วยกัน เล่นเอาชาติในยุโรป อ่วมไปตามๆ กันต่อมาก็ยอมแพ้ไปไล่เลี่ยกับเยอรมนี ปัจจุบันอิตาลี ไม่ได้ยิ่งใหญ่เหมือนในอดีตแล้วเพราะรัฐบาลใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่าย
ข้อมูลจาก Bloomberg ณ เมษายน 2022 เงินทุนสำรองระหว่างประเทศ อันดับ 15 ของโลก ราว 235,000 ล้านดอลลาร์โดยอันดับ 11 คือ เยอรมนี เงินทุนสำรอง พอๆ กับไทยอันดับ 12 ราว 308,000 ล้านดอลลาร์, อันดับ 13 ฝรั่งเศส ราว 251,000 ล้านดอลลาร์ สหรัฐ ตกรูดไปอยู่อันดับ 14 ของโลก เหลือทุนสำรองเพียงแค่ 254,000 ล้านดอลลาร์ ส่วนสหราชอาณาจักร ทุนสำรองไม่ติดอันดับ Top 15 ของโลก
จุดอ่อนของอิตาลี คือ กู้หนี้สาธารณะสูงเกินไปราว 156% ของ GDP ราว 2.76 ล้านล้านยูโร (เกือบ 100 ล้านล้านบาท) สูงเป็นอันดับ 2 ใน EU ส่วนใหญ่เป็นหนี้ธนากลางยุโรป (ECB) รายได้จึงไม่พอรายจ่าย
อิตาลี ต้องขอขยายเวลาชำระหนี้ เพื่อเลี่ยงการผิดนัดเพราะเสี่ยงจะต้องปรับโครงสร้างหนี้จนเกิดความเสี่ยงล้มละลายได้ พออิตาลีคว่ำบาตรรัสเซีย ทำให้ต้องใช้เงินมากขึ้นในการนำเข้าพลังงานน้ำมัน ก๊าซ ราคาแพง เกิดอัตราเงินเฟ้อสูง เดือนพ.ค.ที่ผ่านมารัฐบาลออกกฤษฎีกาจัดสรรงบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจ 14,000 ล้านยูโร เพื่อลดค่าใช้จ่ายทางพลังงาน
นายกรัฐมนตรีอิตาลีโบกมือลาออกจากเก้าอี้ไป ทำให้เกิดสุญญากาศทางการเมืองเพราะรัฐบาลหัวขาดไปแล้วรอตั้งรัฐบาลใหม่ ผลจากความดื้อดึงของอิตาลีที่ยังไม่เลิกเล่นสนุกคว่ำบาตรรัสเซีย จนเกิดวิกฤตขาดแคลนพลังงานจนร่อแร่ ส่งผลค่าครองชีพในอิตาลีที่พุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ ค่าไฟฟ้าเพิ่มขึ้นถึง 300 – 400% ในขณะที่รัฐบาลช่วยเงินอุดหนุนเพียง 15% เท่านั้น ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง
ล่าสุดชาวอิตาเลี่ยนในเมืองเนเปิลส์ จะไม่ทนอีกแล้วออกมารวมตัวกัน เผาบิลค่าไฟฟ้าและค่าก๊าซต่อหน้าสาธารณะและปิดล้อมศาลากลางเมือง ประท้วงแสดงความไม่พอใจอย่างรุนแรง ของจะแพงอะไรกันหนักหนาในเวลาแค่ไม่กี่เดือนเท่านั้น
ม็อบโวยวายว่าบิลค่าก๊าซและไฟฟ้าโหดร้ายสำหรับประชาชนมากเกินไป สำหรับเรา การปรับขึ้นตามอำเภอใจและไม่ชอบธรรมนี้ กำลังผลักให้เราเผชิญความยากลำบากขึ้นมากมาย ส่วนความช่วยเหลือจากรัฐบาลน้อยนิดนั้น ช่วงกลางเดือน ต.ค.นี้ที่จะเข้าฤดูหนาว แต่รัฐบาลขอให้ปิดเครื่องทำความร้อน และจำกัดการใช้เครื่องทำความร้อนในอาคารสาธารณะต่างๆ เพื่อช่วยประหยัดพลังงาน
แต่ที่สุดจะงงคือ เรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ของรัสเซีย ลำมหึมาพร้อมขีปนาวุธติดหัวรบนิวเคลียร์เต็มพิกัด จู่ๆ ก็โผล่ขึ้นมาจากทะเลชายฝั่งอิตาลี ทำให้กองบัญชาการ NATO ถึงกับเหวอสับสนอลหม่านว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร ตรวจไม่พบสัญญาณอะไรเลย มาเห็นอีกมันโผล่ขึ้นมาจากน้ำมองเห็นตาเปล่าแล้วเท่านั้น ซึ่งจุดนี้รัสเซียสามารถปล่อยอาวุธนิวเคลียร์ทำลายรองได้”
