ต.อ.กลางเดือด!? ISIS โวลงมือบอมบ์พลีชีพที่คาบูล โจมตีสถานทูตรัสเซียดับ ๒๕ ยันคนลงมือไม่ใช่คนอัฟกัน

0

โลกกลับมาตื่นตระหนกอีกครั้ง เมื่อไอสิสคืนชีพในอาฟกานิสถาน ลงมือโจมตีสถานทูตรัสเซียในใจกลางกรุงคาบูล ด้วยระเบิดพลีชีพ  ISIS-K ซึ่งเป็นกลุ่มก่อการร้ายในจังหวัดโคราซาน ประกาศเป็นผู้ลงมือ ได้โพสต์ในโซเชียลว่าการโจมตีดังกล่าวดำเนินการโดยนักสู้ต่างชาติที่ไม่ใช่ชาวอัฟกัน ทำผู้บริสุทธ์เสียชีวิต ๒๕ คน รวมพนักงาน ๒ คน

วันที่ ๗ ก.ย.๒๕๖๕ สำนักข่าวรัสเซียทูเดย์และอัลจาซิรารายงานว่า กลุ่มรัฐอิสลาม (IS เดิมคือ ISIS) อ้างความรับผิดชอบต่อเหตุระเบิดฆ่าตัวตายในกรุงคาบูล เมื่อวันจันทร์ที่ ๕ ก.ย.ที่ผ่านมา เหตุเกิดขึ้นไม่ไกลจากทางเข้าสถานทูตรัสเซียในเมืองหลวงอัฟกานิสถาน และคร่าชีวิตผู้คนไป ๒๕ คน รวมถึงเจ้าหน้าที่สถานทูต ๒  คน

กลุ่มผู้ก่อการร้ายอ้างว่าการโจมตีดังกล่าวดำเนินการโดยนักสู้ต่างชาติ ขณะที่สื่อบางฉบับรายงาน การโจมตีเกิดขึ้นโดยกลุ่มไอเอสในท้องถิ่น ISIS-K

นับเป็นการโจมตีครั้งแรกในภารกิจทางการทูตในอัฟกานิสถานที่ ISIS อ้างสิทธิ์นับตั้งแต่การยึดครองของกลุ่มตอลิบานในปี ๒๕๖๔ ก่อนหน้านี้คณะกรรมการสืบสวนของรัสเซียยืนยันว่าผู้ช่วยเลขาฯ และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย รวมทั้งชาวรัสเซียและชาวอัฟกันถูกสังหารในเหตุระเบิด

คาลิด ซาดราน โฆษกตำรวจคาบูลกล่าวพลเรือนชาวอัฟกันเสียชีวิต ๔ คน 

ตำรวจกล่าวว่าผู้โจมตีถูกเจ้าหน้าที่ติดอาวุธยิงเสียชีวิต ขณะที่เขาเข้าใกล้ประตูสถานทูตในเขตดารุล อามาน ทางตะวันตกเฉียงใต้ของกรุงคาบูล

มอลาวี ซาบีร์ หัวหน้าเขตตำรวจที่เกิดการโจมตี ให้สัมภาษณ์สื่อว่า“ผู้โจมตีพลีชีพก่อนที่จะไปถึงเป้าหมาย ถูกยิงโดยเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของสถานทูตรัสเซีย” 

สื่อหลายฉบับรายงานว่า กลุ่มไอสิสในจังหวัดคอราซาน (Korasan Province) ของรัฐอิสลาม (ไอเอส-เค) ในอัฟกานิสถานอ้างความรับผิดชอบในเหตุระเบิดฆ่าตัวตายครั้งนี้

รัฐบาลรัสเซียประณามการโจมตีดังกล่าวอย่างรวดเร็ว โดยโฆษกของเครมลิน ดมิทรี เปสคอฟ ชี้ว่ามันเป็น “การก่อการร้าย” และ “ไม่เป็นที่ยอมรับโดยสิ้นเชิง” 

รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย เซอร์เกย์ ลาฟรอฟ ประกาศระหว่างการประชุมกับรัฐมนตรีต่างประเทศทาจิกิสถาน ซิโรจิดดิน มูห์ริดดิน ว่ามาตรการความปลอดภัยรอบๆ สถานทูตได้รับการปรับปรุงเพื่อตอบสนองต่อเหตุการณ์ดังกล่าว รัฐมนตรีต่างประเทศทั้งสองยื่นนิ่งเงียบไว้อาลัยอยู่ครู่หนึ่งเพื่อระลึกถึงเหยื่อผู้เคราะห์ร้าย เขากล่าวว่า “หวังว่าว่าผู้ก่อการร้ายที่กระทำความผิดจะถูกลงโทษ”

ภายหลังกลุ่มตอลิบานยึดครองกรุงคาบูลในกลางเดือนสิงหาคม พ.ศ. ๒๕๖๔ ประเทศตะวันตกส่วนใหญ่ปิดสถานทูตของตน ระงับการเป็นตัวแทนทางการทูตในอัฟกานิสถาน แม้ว่ารัสเซียจะหลีกเลี่ยงการยอมรับว่ากลุ่มตอลิบานเป็นรัฐบาลที่ถูกต้องตามกฎหมายของอัฟกานิสถาน แต่ก็พยายามสร้างความสัมพันธ์กับผู้นำตอลิบาน รวมถึงการเชิญคณะผู้แทนเข้าร่วม Saint Petersburg International Economic Forum (SPIEF) ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา นอกจากนี้ มอสโกว์ยังได้เปิดสถานทูตในกรุงคาบูล โดยยังคงให้บริการด้านกงสุลแก่ชาวอัฟกันและชาวรัสเซียที่เหลืออยู่ภายในประเทศ

อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติประณามการโจมตีดังกล่าว และแสดงความเสียใจต่อเหยื่อและครอบครัวของพวกเขา หน่วยภารกิจของสหประชาชาติในอัฟกานิสถานก็ประณามการวางระเบิดเช่นกัน โดยโพสต์ลงในทวีตเตอร์ว่า “UNAMA เน้นย้ำถึงความจำเป็นที่เจ้าหน้าที่โดยพฤตินัยในการดำเนินการเพื่อความปลอดภัยของประชาชนตลอดจนภารกิจทางการทูต” 

โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน เหมา หนิงกล่าวในการแถลงข่าวเมื่อวันอังคารว่า “จีนขอประณามการโจมตีของผู้ก่อการร้ายที่มุ่งเป้าภารกิจทางการทูตและบุคลากร เราแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อการเสียชีวิตของพนักงานสถานทูตรัสเซียและพลเรือนชาวอัฟกัน และขอแสดงความเสียใจอย่างจริงใจต่อผู้บาดเจ็บและครอบครัวของเหยื่อ” 

ความรุนแรงในอัฟกานิสถานลดลงอย่างมากนับตั้งแต่กลุ่มตอลิบานกลับสู่อำนาจ แต่การระเบิดหลายครั้งที่เกิดจากกลุ่ม ISIS ได้สั่นคลอนประเทศในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา

อับดุล คาฮาร์ บัลคีโฆษกกระทรวงการต่างประเทศในอัฟกานิสถานออกแถลงการณ์ระบุว่า กองกำลังตอลิบานจะดำเนินการอย่างจริงจังเพื่อรักษาความปลอดภัยให้กับสถานทูตที่ปฏิบัติการในประเทศ

เขากล่าวว่า“รัฐบาลอาฟกานิสถาน มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับรัสเซีย เราจะไม่มีวันปล่อยให้การกระทำเชิงลบของศัตรูส่งผลกระทบในทางลบต่อความสัมพันธ์ของสองประเทศ”