เบื้องลึกรัสเซียเด็ดปีกเยอรมัน “ทรยศบิดพลิ้ว” ฉีกสัญญาโบราณช่วยดันขึ้นเบอร์1แทนอังกฤษ

0

จากกรณีการออกมาประท้วงในหลายประเทศในชาติยุโรป เพราะรัฐบาลล้มเหลวในการบริหาร ทำให้ประชาชนประสบปัญหาค่าครองชีพจากวิกฤตพลังงาน สาเหตุที่ผู้นำทำตามสหรัฐยุคว่ำบาตรรัสเซีย ซึ่งการชุมนุมกำลังลุกลามยิ่งขึ้นเรื่อยๆ

ล่าสุด เพจ World Update ได้โพสต์ข้อความเผยแพร่ไว้เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2565 โดยระบุข้อมูลจากแหล่งที่มาไว้อย่างน่าสนใจบางช่วงว่า

“ทวีปยุโรปนั้นด้วยภูมิรัฐศาสตร์ใกล้รัสเซียที่มีแหล่งพลังงานสำรองกองรวมกันมากถึง 30% ของโลก ทำให้สหภาพยุโรปจึงเหมือนหนูตกถังข้าวสารได้ใช้พลังงานก๊าซ 40% และน้ำมัน 25% รัสเซียราคาถูก โดยเฉพาะก๊าซที่ส่งทาง 5 ท่อต่อตรงจากท่อหลักเข้าถึงหัวบันไดบ้านแต่ละชาติ ทำให้มีพลังงานใช้เหลือเฟือ ละทิ้งการพัฒนาโรงกลั่นน้ำมันแห่งใหม่ หรือสำรวจแหล่งก๊าซที่ต้องใช้ทุนมหาศาล

ทั้งพลังงานน้ำมัน ก๊าซ ถ่านหิน ยูเรเนียมนิวเคลียร์ เหล็กกล้า ปุ๋ย ธัญพืช แร่แรเอิทธ์ ก๊าซเฉื่อย ฯลฯ เพราะพื้นที่รัสเซียนั้น มีทุกอย่างที่พื้นที่อื่นไม่มี ความลืมตัวทำตั้งตนเป็นปฏิปักษ์ต่อรัสเซีย โดยการคว่ำบาตรสินค้า ต่อด้วยการสนับสนุนเงินกู้ซื้ออาวุธให้ยูเครนสู้กับรัสเซีย กลายเป็นขยายตัวกลายเป็นสงครามระหว่างกลุ่ม NATO กับรัสเซีย เต็มรูปแบบ เป็นจุดแตกร้าวทางความสัมพันธุ์ระหว่างยุโรปตะวันตก และตะวันออกครั้งใหญ่ในรอบเกือบ 8 ทศวรรษ

ผู้นำยุโรป 2 ยุคแล้ว ที่เคยลองดีกับรัสเซีย คือ จักรพรรดิจักรพรรดิ นโปเลียน แห่งฝรั่งเศส และนายกรัฐมนตรีฮิตเลอร์ แห่งเยอรมนี แต่มหาอำนาจต่างยุคสมัยนั้น ก็ต้องพาชาติและพลเมืองล้มตายและล่มสลายไปในเวลาอันสั้น

เมื่อรัสเซียปิดวาล์วท่อก๊าซเหลือศูนย์ในทุกท่อสู่ยุโรป จึงเกิดความวิตกการขาดแคลนก๊าซในช่วงฤดูหนาว ล่าสุดราคาก๊าซยุโรปพุ่งขึ้นอีก 30% เป็น 272 ยูโร/เมกะวัตต์ชั่วโมง

บรรพบุรุษของรัสเซีย – เยอรมนี จึงสร้างข้อตกลงร่วมกันมาแต่โบราณที่จะปั้นให้เยอรมนีใหญ่ขึ้นมาแทนอังกฤษ จนแผนบรรลุสามารถขจัดอังกฤษออกไปจาก EU ได้ เยอรมนีกลายเป็นเบอร์ 1 แทน รัฐบาลนายกรัฐมนตรีนายโอลาฟ โชลล์ กับมองการใกล้เอาใจสหรัฐ และบิดพลิ้วทรยศไม่รักษาข้อตกร่วมกันในการเปิดใช้ท่อส่งก๊าซ Nordstream2 ที่ 2 ชาติฟูมฟักร่วมกันมานาน

ยิ่งผู้นำเยอรมัน เดินทางด้วยตนเองไปยูเครน ส่งมอบเงินกู้ค่าอาวุธ ทำให้รัสเซีย หมดความอดทน และโดยธรรมเนียมรัสเซีย คือ ผู้ทรยศต้องถูกทำลายทิ้งเหมือนเคยทำกับฮิตเลอร์จนพ่ายแพ้สงครามโลกครั้งที่ 2 มาแล้ว

จัดการส่วนหัว เยอรมนี ให้สะดุดหัวทิ่มลงอีก 26 ชาติ EU ที่เศรษฐกิจต่อกันเป็นจิกซอใยแมงมุมก็จะถูกดึงล้มพังลงเป็นโดมิโนอย่างไม่ต้องสงสัย เมื่อเยอรมนี ต้องควักเงินคงคลังจำนวนมากเกือบ 100,000 ล้านยูโร มาเยียวยาภาคเอกชน และภาคประชาชนก็ย่อมทำให้เกิดความไม่ปกติของสังคมที่เข้าสู่ภาวะถดถอย

นี่เองจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดม็อบชาวเยอรมัน ผุดขึ้นโดยธรรมชาติลุกลามไปทั่วประเทศ แล้วลามไป ฝรั่งเศส เนเธอร์แลนด์ เซ็ก ที่อยู่รายรอบกัน ประชาชนจำนวนมากผิดปกติออกมาชุมนุมด้วยเป้าหมาย เรียกร้องให้รัฐบาล มองเห็นหัวคนในชาติมากกว่าคนอื่น

หยุดนำเงินกองกลางของชาติไปซื้ออาวุธให้กับยูเครน ให้วางตัวเป็นกลางแบบฮังการีหยุดคว่ำบาตรรัสเซีย โดยชาวเช็ค และฝรั่งเศส ยื่นเงื่อนไขให้รัฐบาลออกไปดีๆ ภายในปลายเดือนกันยานี้แต่ถ้าดื้อดึงประชาชนจะเข้าไปดึงรัฐบาลลงจากเก้าอี้ด้วยตนเอง นี่แค่ยังไม่ถึงฤดูหนาวที่จะเดือดร้อนกว่านี้ และจุดเดือดยุโรปสปริงส์ จะลุกโชนทั้งทวีปยุโรปอยู่ที่เวลาช่วงนั้น ที่ยุโรปจะไม่หวนกลับไปเหมือนเดิมอีก”