หลังจากที่ประชากรอังกฤษ ได้นายกรัฐมนตรีคนใหม่แล้ว ก็ดูเหมือนว่าสถานการณ์ในประเทศจะยังไม่พ้นวิกฤติใหญ่ไปได้ เมื่อผลสำรวจที่มีต่อ ลิซ ทรัสส์ รัฐมนตรีต่างประเทศ ที่ก้าวขึ้นมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ จากผลสำรวจความคิดเห็นที่จัดทำโดยสำนักโพล YouGov
พบว่า มีประชาชนในสหราชอาณาจักรมากกว่าครึ่งที่บอกว่ารู้สึกผิดหวังหลังได้รู้ว่า ทรัสส์ ได้รับเลือกจากพรรคคอนเซอร์เวทีฟให้เป็นผู้นำคนใหม่ พร้อมก้าวขึ้นเป็นนายกรัฐมตรี และจะเป็นผู้จัดตั้งรัฐบาล และ 1 ใน 3 ระบุ “รู้สึกผิดหวังเป็นอย่างมาก” ต่อแนวโน้มดังกล่าว
มีเพียงแค่ 4% ของผู้ตอบแบบสอบถามเท่านั้นที่ยินดีต่อข่าวนี้ โดยบอกว่ารู้สึก “พึงพอใจมาก” ที่ได้เห็น ทรัสส์ ณ บ้านพักเลขที่ 10 ถนนดาวนิ่ง และอีก 18% ระบุรู้สึกพอใจพอสมควรต่อผลลัพธ์นี้
นอกจากนี้ยังมีประชาชนบางส่วนรวมตัวประท้วง ลิซ ทรัสส์ เพราะไม่เชื่อว่า เจ้าตัวจะเข้ามาแก้ไขปัญหาค่าครองชีพได้ และจะซ้ำรอยนายกฯคนก่อน ซึ่งในโลกออนไลน์ได้มีการเผยแพร่คลิป ขณะที่ลิซ เดินทางมาถึงสำนักงานใหญ่ของพรรคอนุรักษ์นิยม และเจ้าตัก็ถูกผู้ชุมนุมที่อยู่ด้านนอกต่างโห่ขับไล่เธอ และทักทายด้วยเสียงตะโกนว่า “บอริส จอห์นสัน รอบสอง”
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 6 ก.ย. ที่ผ่านมา นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีรักษาการของอังกฤษ ได้กล่าวสุนทรพจน์ที่หน้าทำเนียบนายกรัฐมนตรี หรือบ้านเลขที่ 10 ถนนดาวนิง เพื่ออำลาตำแหน่งอย่างเป็นทางการ โดยระบุว่า เขาขอบคุณทุกคนที่เดินทางมาที่นี่ในวันนี้ แต่รู้สึกเสียใจที่ถูกบีบให้ต้องออกจากตำแหน่ง ลักษณะเหมือนกับการวิ่งผลัดที่มีการเปลี่ยนกฎเกณฑ์กลางคันอย่างไม่คาดคิดเมื่อการแข่งขันผ่านไปได้ครึ่งทาง
ตอนนี้เขาเองเป็นเหมือนจรวดที่ทะยานสู่ห้วงอวกาศสำเร็จตามหน้าที่เรียบร้อยแล้ว และค่อย ๆ เดินทางกลับสู่โลกโดยตกลงในท้องทะเลห่างไกลในมหาสมุทรแปซิฟิก แต่เขาจะยังคงให้การสนับสนุนรัฐบาลชุดใหม่ของอังกฤษอย่างเต็มที่ และนายกรัฐมนตรีอังกฤษคนใหม่จะพบกับคณะทำงานที่ยอดเยี่ยมในทำเนียบแห่งนี้
และพร้อมจะให้การสนับสนุนนายกฯคนใหม่ทุกด้าน จึงน่าติดตามว่า หลังจากนี้บอริส จอห์นสัน จะยังเคลื่อนไหวให้ความช่วยเหลือยูเครน และมีส่วนผลักดันให้สงครามรัสเซีย-ยูเครนลากยาวต่อไป ผ่านตัวกลางอย่างนายกฯคนใหม่ อีกด้วยหรือไม่ เพราะก่อนกล่าวอำลาตำแหน่ง โฆษกบ้านพักนายกรัฐมนตรีอังกฤษเปิดเผยว่า นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ได้สนทนาทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน โดยแสดงความเชื่อมั่นว่ายูเครนจะสามารถได้รับชัยชนะในการสู้รบกับรัสเซีย
