จากกรณีที่นางลิซ ทรัสส์ รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษ ก้าวขึ้นเป็นว่าที่นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของอังกฤษตามการคาดการณ์ โดยเจ้าตัวประสบชัยชนะในการแข่งขันชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคอนุรักษนิยมของอังกฤษ ก็ทำให้บรรดานานาชาติ จับตามองทิศทางของการเมืองอังกฤษ และทิศทางการดูแลประชากร ท่ามกลางภาวะวิกฤติที่ต้องรับมือกับราคาพลังงานที่สูงขึ้นด้วย รวมไปถึงการมีบทบาทในสงครามรัสเซีย-ยูเครนด้วยเช่นกัน
ขณะที่ฝั่งยูเครน เซเลนสกีออกมาเคลื่อนไหว เปิดเผยว่า นางลิซ ทรัสส์ นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของอังกฤษ “อยู่ฝ่ายผู้เชี่ยวชาญด้านการเมืองของยุโรปเสมอมา” และยูเครนตั้งตารอที่จะได้ร่วมงานกับนางทรัสส์ต่อไป เขากล่าวอีกด้วยว่า “ในยูเครน เรารู้จักลิซ ทรัสส์เป็นอย่างดี เธออยู่ฝ่ายผู้เชี่ยวชาญด้านการเมืองยุโรปเสมอมา ผมเชื่อว่าเมื่อเราร่วมมือกัน เราจะสามารถป้องกันประเทศของเราได้มากกว่าเดิม และเอาชนะความพยายามในการทำลายล้างทั้งหมดของรัสเซียได้”
สำหรับนางทรัสส์ก้าวขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของอังกฤษ หลังประสบชัยชนะในการแข่งขันชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคอนุรักษ์นิยมของอังกฤษเมื่อวานนี้ ซึ่งชัยชนะดังกล่าวทำให้นางทรัสส์กลายเป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนที่ 3 ของอังกฤษ และเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 4 ของอังกฤษในรอบ 6 ปี โดยนางทรัสส์จะเป็นนายกรัฐมนตรีจนกว่าจะมีการเลือกตั้งทั่วไปในเดือนม.ค. 2568
อย่างไรก็ตามที่ผ่านมา อังกฤษถือเป็นผู้สนับสนุนยูเครนด้วยดีตลอดมา จนมีการวิเคราะห์การกูรูสงครามว่า ยูเครนจะพังเพราะอังกฤษ รวมทั้ง ลิซ ทรัสส์ยังประกาศก่อนได้รับชัยชนะด้วยว่า อังกฤษพร้อมใช้นิวเคลียร์ ทำให้รัสเซียก็แสดงท่าทีตอบโต้เช่นกันว่า ถ้าหากอังกฤษพร้อม รัสเซียก็จะตอบโต้เดือดเช่นกัน