จากที่สถานการณืของเยอรมันภายหลังจากร่วมกับสหรัฐคว่ำบาตรรัสเซีย ก็ปรากฏว่าได้ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อเศรษฐกิจของประเทศ เกิดภาวะขาดแคลนพลังงานและอาหารจนนำไปสู่วิกฤติในรอบ40ปี
ทั้งนี้ความเคลื่อนไหวล่าสุดเมื่อวันที่ 05 กันยายน 2565 เพจ World Update ได้เปิดเผยไว้อย่างน่าสนใจผ่านการโพสต์โดยระบุแหล่งที่มาไว้ ซึ่งมีเนื้อหาบางส่วนที่สำคัญว่า
“บรรพบุรุษชาวเยอรมันตระหนักว่า อย่าทำสงครามกับผู้กุมพลังงาน จึงหันมาลงนามสัญญาระยะยาวซื้อก๊าซ และน้ำมันราคาถูกจากสหภาพโซเวียต แล้วดำเนินนโยบายต่อเนื่องมาถึงรัสเซีย วางระบบท่อก๊าซหลัก และสาขาเชื่อมทั่วทั้งยุโรปเป็นใยแมงมุม เยอรมนี
นอกจากจะใช้ก๊าซ 50% จากรัสเซียอย่างเหลือเฟือแล้ว ยังมีสถานะเป็น ยี่ปั้วผู้ขายก๊าซ ให้กับบรรดาแทบทุกชาติในยุโรป อุตสาหกรรมในเยอรมนีผุดเป็นดอกเห็ดเจริญรุ่งเรือง ด้วยความมั่นคงทางพลังงาน จากประเทศผู้แพ้สงครามย่อยยับ พลิกชะตากลับมาเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 1 ของสหภาพยุโรป มีขนาดเศรษฐกิจ GDP ราว 4 ล้านล้านบาท/ปี ฐานะความมั่งคั่งคงคลัง อันดับติดกับไทยคืออันดับ 11 ของโลก (ไทยอันดับ 12) ที่ราว 300,000 ล้านดอลลาร์
เยอรมนีส่งสินค้าออกพวกเครื่องจักรขายให้รัสเซียแต่ละปีพอๆ กับมูลค่านำเข้าพลังงาน Win-win ทั้ง 2 ฝ่าย แต่แล้วเมื่อรัสเซีย ขัดแย้งกับยูเครน ที่ไม่ได้สร้างผลประโยชน์ใดให้กับชาวเยอรมัน รัฐบาลกลับหลงเชื่อสหรัฐ ยุให้คว่ำบาตรรัสเซีย เยอรมนีหลงกล ทุบบาตรและหม้อข้าวตนเอง ผ่านไปแค่ 6 เดือน โชคชะตาพลิกกลับ
จากเคยเป็นยี่ปั้วก๊าซกระเป๋าตุง เปลี่ยนเป็นต้องตระเวนขอซื้อก๊าซจากยี่ปั้วสหรัฐ แคนาดา จีน นอรเวย์ เนเธอร์แลนด์ ในราคาแพงลิ่วราว 3,500 ดอลลาร์/พันคิวบิกเมตร หรือแพงขึ้น 17.5 เท่าจากเคยซื้อรัสเซีย ชาติที่เศรษฐกิจใหญ่ที่สุดของยุโรปถึงกับทรุดฮวบ อัตราเงินเฟ้อเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา 7.9% สูงที่สุดในรอบ 40 ปี และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
อุตสาหกรรมที่ต้องใช้ก๊าซจำนวนมากในกระบวนการผลิตปิดตัว หรือลดการผลิตลงไปแล้ว 2 ใน 3 บริษัทรับซื้อก๊าซ Uniper ใกล้ล้มละลายรัฐบาลจำต้องควักเงินกว่า 12,000 ล้านดอลลาร์อุดหนุน
ล่าสุด 3 พรรครัฐบาลผสม ยอมให้นายกรัฐมนตรี Olaf Scholz แถลงว่าจะควักเนื้อใช้เงิน คงคลัง 64,700 ล้านดอลลาร์ หรือกว่า 21.5% ของเงินคงคลัง เพื่อเยียวยาชาวเยอรมันที่เผชิญกับภาวะเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้น เป็นเงินช่วยเหลือระยะสั้น สวัสดิการ ค่าขนส่งสาธารณะ ลดหย่อนภาษีบริษัท ฯลฯ เขาพูดเป็นสำนวนวลีภาษาอังกฤษว่า คุณจะไม่มีวันเดินเดียวดาย
เขาคุยโวว่าเยอรมนีได้เจริญรุ่งเรืองมานานหลายทศวรรษ และเขา “อาจประกาศยุคใหม่ที่มืดกว่าสำหรับประเทศของเขา ด้วยกังหันลมใหม่ทุกแห่ง เราจะเป็นอิสระมากขึ้น” ขณะนางคริสเตียน ลินด์เนอร์ รัฐมนตรีกระทรวงการคลัง ระบุว่า เงินช่วยเยียวยา 64,700 ล้านดอลลาร์ อาจเพิ่มขึ้นได้อีกหากราคาไฟฟ้าแพงสูงขึ้น
สถาบันวิจัยเศรษฐกิจชั้นนำ Deutsches Institut fur Wirtschaftsforschung ของเยอรมนีระบุว่า แพ็คเกจบรรเทาทุกข์ในปัจจุบันไม่สามารถปกป้องผู้ที่มีรายได้น้อยได้เพียงพอ รัฐบาลควรจะฉลาดเฉลียวโดยควร โอนเงินตรงให้แก่ประชาชน ดีกว่ามาตรการที่ไม่จำเพาะและกว้างจนประชาชนเข้าไม่ถึง เช่น ยกเว้นค่าธรรมเนียมไฟฟ้า ลดราคาตั๋วโดยสารสาธารณะ
นักบินสายการบินเยอรมันนัดหยุดงาน ขาดพลังงานรัสเซียแค่ 6 เดือน ชาวเยอรมัน 2 ล้านคนจนลงถึงขนาดขอรับบริจาคอาหาร แต่เงินคงคลังที่ร่อยหรอก็ยังคงให้เงินกู้ยูเครนซื้ออาวุธ ยิ่งทำรัสเซียเข้มแข็งขึ้นจากขายสินค้าโภคภัณฑ์ให้จีน อินเดีย เอเชีย ตะวันออกกลาง แอฟริกา”