เปิดคลิป “นายกฯหญิงสกอตแลนด์” ฟาด “ว่าที่ผู้นำอังกฤษ” หายนะ แฉซ้ำ ทำเพื่อประโยชน์พรรคไม่ใช่ปท.

0

เปิดคลิป “นายกฯหญิงสกอตแลนด์” ฟาด “ว่าที่ผู้นำอังกฤษ” หายนะ แฉซ้ำ ทำเพื่อประโยชน์พรรคไม่ใช่ปท.

จากกรณีที่วันนี้ (5 กันยายน 2565) อังกฤษเตรียมประกาศชื่อนายกรัฐมนตรีอังกฤษคนใหม่เวลา 12.30 น. ตามเวลาท้องถิ่นวันจันทร์ (5 ก.ย) หลังสื่อรายงานชื่อรัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษ ลิซ ทรัสส์ ผงาดในฐานะผู้ชนะหลังการลงคะแนนเลือกตั้งหัวหน้าพรรคคอนเซอร์เวตีฟได้ปิดฉากลง เจ้าตัวเปิดใจจะเดินหน้าแก้ปัญหาราคาเชื้อเพลิงพุ่งสูงในทันทีหลังได้รับตำแหน่ง

โดยก่อนหน้านี้ ลิซ ทรัสส์ ได้ประกาศกร้าวระหว่างศึกดีเบตเมื่อวันที่ 23 ส.ค. 65 ว่า เธอพร้อมยิงอาวุธนิวเคลียร์ไทรเดนต์ (Trident) ทำลายล้างถ้ามีความจำเป็น โดยเชื่อว่าการตัดสินใจดังกล่าวเป็นหน้าที่อันสำคัญของคนเป็นนายกรัฐมนตรี

ล่าสุดเมื่อวานนี้ (4 กันยายน 2565) นิโคลา สเตอร์เจียน (Nicola Sturgeon) นายกรัฐมนตรีหญิงแห่งสกอตแลนด์ ได้บอก Sophy Ridge เมื่อวันอาทิตย์ว่า ลิซ ทรัสส์ จะเป็น “หายนะ” หากเธอปกครองในลักษณะที่เธอได้รณรงค์ เนื่องจากเธอมุ่งเน้นไปที่ผลประโยชน์ “เฉพาะ” ของพรรคอนุรักษ์นิยมแทนที่จะเป็นประเด็นของสหราชอาณาจักร

อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 29 มิถุนายนที่ผ่านมา มีรายงานว่า นิโคลา สเตอร์เจียน นายกรัฐมนตรีสกอตแลนด์ ประกาศแผนจัดทำประชามติรอบสองเพื่อแยกตัวออกจากสหราชอาณาจักร ในวันที่ 19 ต.ค. ปี 2023 พร้อมยืนยันจะใช้มาตรการทางกฎหมายที่จำเป็นเพื่อให้การโหวตดำเนินไปได้หากถูกรัฐบาลอังกฤษขัดขวาง

โดยผู้นำหญิงสกอตแลนด์ระบุว่า ตนจะมีหนังสือไปถึงนายกรัฐมนตรี บอริส จอห์นสัน แห่งอังกฤษเพื่อขออนุญาตจัดทำประชามติดังกล่าว และได้เตรียมแผนรองรับเอาไว้แล้วเพื่อขออำนาจทางกฎหมาย หากว่าผู้นำอังกฤษไม่ให้ความเห็นชอบ
“ประเด็นเกี่ยวกับเอกราชคือสิ่งที่ไม่อาจถูกปิดกั้น และต้องคลี่คลายด้วยวิถีประชาธิปไตย และจะต้องเป็นกระบวนการซึ่งอยู่เหนือคำตำหนิติเตียนใดๆ และได้รับความเชื่อมั่น” สเตอร์เจียน กล่าวต่อสมาชิกรัฐสภาสกอตแลนด์

“สิ่งที่ดิฉันจะไม่ทำเป็นอันขาดก็คือ การยอมให้ระบอบประชาธิปไตยของสกอตแลนด์ต้องตกเป็นนักโทษของ บอริส จอห์นสัน หรือนายกรัฐมนตรีคนใดๆ”
ชาวสกอตแลนด์ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งเคยลงมติ “ปฏิเสธ” แยกตัวออกจากสหราชอาณาจักรมาแล้วเมื่อปี 2014 ทว่ารัฐบาลซึ่งมีอำนาจปกครองตนเองบางส่วนอ้างว่า การที่อังกฤษถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป (เบร็กซิต) เป็นสิ่งที่คนสกอตแลนด์ส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วย ดังนั้นจึงสมควรจะต้องมีการทำประชามติครั้งที่ 2 เพื่อให้ชาวสกอตแลนด์ได้ตัดสินอนาคตของตัวเองอีกครั้ง
ทั้งนี้ บรรดาพรรคการเมืองโปรเอกราชชนะศึกเลือกตั้งได้ครองเสียงข้างมากในสภาสกอตแลนด์เมื่อปีที่แล้ว และ สเตอร์เจียน เองยังเผชิญแรงกดดันจากคนในพรรคของเธอเองจนต้องให้สัญญาว่าจะจัดประชามติอีกครั้งภายในสิ้นปี 2023

นายกฯ จอห์นสัน และพรรคคอนเซอร์เวทีฟซึ่งเป็นฝ่ายค้านในสกอตแลนด์ ประกาศจุดยืนต่อต้านการทำประชามติรอบ 2 โดยยืนยันว่าเรื่องนี้ “จบ” ไปแล้วตั้งแต่ตอนที่ชาวสกอตแลนด์โหวตคัดค้านการแยกตัวด้วยคะแนนเสียง 55% ต่อ 45% ในปี 2014