หลังจากที่นายปีเตอร์ ฮัลต์ควิสต์ รัฐมนตรีกลาโหมสวีเดน ได้ให้สัมภาษณ์เมื่อช่วงเดือนก่อนว่า มีจุดประสงค์มุ่งช่วยเหลือยูเครน โดยเหล่าประเทศตะวันตกเชื่อว่า ความขัดแย้งในยูเครนจะดำเนินต่อไปแบบระยะยาว ดังนั้นจึงต้องมีการเตรียมความพร้อมในการช่วยเหลือยูเครน ทั้งในเรื่องการฝึกทหาร, การกวาดล้างทุ่นระเบิด, และการผลิตอาวุธ นอกจากนี้ ในการประชุมยังเห็นชอบที่จะจัดสรรเงินช่วยเหลือเพิ่มเติมอีก 1.5 พันล้านยูโร (ประมาณ 54,000 ล้านบาท) สำหรับความช่วยเหลือทางทหารในยูเครนด้วย รวมทั้งสวีเดนยังออกตัว ว่าจะรับช่วงต่อจากสหรัฐฯ มาผลิตอาวุธป้อนให้ยูเครนแทน
ต่อมารัสเซียได้ฟาดกลับแบบเดือด ๆ เหมือนเป็นการเตือนอ้อม ๆ ว่า อย่าคิดลองดี เมื่อปูติน สั่งอัดฉีดงบกองทัพและหน่วยกลาโหมเพิ่มอีก รวมทั้งจัดสรรอาวุธมารอชุดใหญ่ และประกาศว่า หากสงครามต้องยืดยื้อ รัสเซียเองก็พร้อมเช่นกัน
ขณะที่ล่าสุดสวีเดนต้องเตรียมอัดฉีดเม็ดเงินหลายพันล้านดอลลาร์ รับประกันสภาพคล่องให้บริษัทพลังงานในนอร์ดิกและบอลติก เพื่อหลีกเลี่ยงวิกฤตทางการเงิน อันมีสาเหตุมาจากกรณีก๊าซพรอมของรัสเซียปิดท่อลำเลียงก๊าซนอร์ดสตรีม 1
แม็กดาเลนา แอนเดอร์สสัน นายกรัฐมนตรีสวีเดน ออกโรงเตือนว่า สวีเดนกำลังเผชิญแนวโน้ม “สงครามฤดูหนาว” สืบเนื่องจากวิกฤตขาดแคลนพลังงานของยุโรป พร้อมระบุเวลานี้ยังคงอยู่ระหว่างดำเนินการจัดทำรายละเอียดที่ชัดเจนเกี่ยวกับมาตรการรับประกันสภาพคล่อง
แอนเดอร์สสัน กล่าวว่า การรับประกันสภาพคล่องมีเป้าหมายเพื่อเปิดทางให้บริษัทพลังงานทั้งหลาย “มีที่ว่างสำหรับหายใจ ซึ่งมีความจำเป็น” พร้อมระบุชัดเจนว่า วาระนโยบายด้านความมั่นคงอยู่เบื้องหลังการกระทำของรัสเซียในครั้งนี้
มอสโกกล่าวโทษมาตรการคว่ำบาตรต่าง ๆ ของตะวันตก ที่กำหนดออกมาตามหลังรัสเซียเปิดฉากรุกรานยูเครน ว่า เป็นอุปสรรคขัดขวางการซ่อมบำรุงท่อลำเลียงตามรอบ แต่บรรดาเจ้าหน้าที่สหภาพยุโรปบางส่วนกล่าวหารัสเซียกำลังใช้พลังงานเป็นอาวุธ
“สงครามพลังงานของรัสเซียกำลังสร้างผลกระทบร้ายแรงต่อครัวเรือนและบริษัทต่าง ๆ ในยุโรปและสวีเดน โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางภาคใต้ของสวีเดน ที่อ้างอิงราคาไฟฟ้าในเยอรมนี ซึ่งในทางกลับกันก็พึ่งพิงก๊าซเป็นอย่างสูง มันคุกคามเสถียรภาพทางการเงินของเรา ถ้าเราไม่ดำเนินการเร็ว ๆ นี้ มันอาจนำมาซึ่งความวุ่นวายร้ายแรงในนอร์ดิกและบอลติก กรณีที่เลวร้ายที่สุด เราอาจดำดิ่งสู่วิกฤตการเงิน”
นอกจากนี้มิคาเอล แดมเบิร์ก รัฐมนตรีคลัง กล่าว ณ ที่แถลงข่าวเดียวกัน ระบุว่า รัฐบาลจะเดินหน้าข้อเสนอหนึ่งซึ่งเปิดทางให้ออกสินเชื่อด้านการค้ำประกัน พร้อมเผยว่าพรรคต่าง ๆ ในรัฐสภาของประเทศและประธานรัฐสภาได้รับแจ้งเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวแล้ว
แดมเบิร์ก บอกด้วยว่า การตัดสินใจของสวีเดน “จะรับประกันเสถียรภาพด้านการเงินไม่ใช่แค่กับสวีเดน แต่เพื่อทั่วทั้งภูมิภาคนอร์ดิก” มาตรการรับประกันสภาพคล่องคาดหมายว่าจะมีผลบังคับใช้ในวันจันทร์ ที่ 5 ก.ย. 2565 ก่อนหน้าตลาดหุ้นปิดตลาด ในขณะที่รัฐสภาสวีเดนได้เรียกบรรดาสมาชิกกลับมาจากช่วงพักฤดูร้อน เพื่อจัดลงมติข้อเสนอของรัฐบาลโดยเฉพาะในวันเดียวกัน
สวีเดนกำลังเผชิญกับภาวะเงินเฟ้อสูงสุดในรอบ 30 ปี และธนาคารกลางของประเทศได้ปรับขึ้นดอกเบี้ยไปแล้ว 2 รอบในปีนี้ แต่คาดหมายว่าจะมีการปรับขึ้นสูงกว่านี้อีกก่อนสิ้นปี ปัญหาบิลค่าไฟที่พุ่งสูง อัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นและการเติบโตทางเศรษฐกิจที่หยุดชะงัก กลายเป็นประเด็นหลักของศึกรณรงค์หาเสียงของศึกเลือกตั้งทั่วไปที่จะมีขึ้นในวันที่ 11 กันยายนนี้
