ในสมรภูมิยูเครนยังรบกันเดือดเพราะเคียฟเร่งสร้างผลงาน แม้จะพ่ายศึกที่เคอร์ซอนยังคุยโวให้สื่อตะวันตกได้เชียร์ว่า ยูเครนรุกกลับรัสเซียตื่นตกใจ กระแสข่าวตะวันตกบางฉบับบอกกระทั่งว่า ที่รัสเซียทำลายคลังขีปนาวุธ ไฮมาร์สนั้นถูกหลอกของจริงอยู่อีกแห่ง ถ้ามีจริงคงยิงใส่ได้ชัยชนะไปแล้ว แต่นี้กลับแพ้ราบทั้งในเคอร์ซอนและเมืองที่ตั้งโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ซาโปริชเชีย หลังปฏิบัติการครั้งนี้รัสเซียพบว่ามีนายทหารจากนาโต้เข้าร่วม รอฟังหลังควันจางกองทัพรัสเซียจะมาแฉ
Putin is in Kaliningrad speaking to schoolchildren.
He says the Russian education minister told him that children in the Russian-occupied Donbas "don't know that the bridge to Crimea exists" and "didn't even know that Ukraine and Russia were part of a united country." pic.twitter.com/LGxKJrCg4J
— max seddon (@maxseddon) September 1, 2022
วันที่ ๓ ก.ย.๒๕๖๕ สำนักข่าวสปุ๊ตนิกและรัสเซียทูเดย์ รายงานว่า ปธน.วลาดิเมียร์ ปูตินแห่งรัสเซียกล่าวว่า “ปฏิบัติการพิเศษของรัสเซียไม่ใช่ ‘การรุกราน’ เป็นเพียงการยุติสงครามของเคียฟต่อดอนบาสส์”
ปูตินกล่าวขณะพูดคุยกับเด็กนักเรียนในคาลินินกราดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาขณะลงพื้นที่ว่า “ประชาชนของโดเนตสก์, ลูฮันสก์ และไครเมียไม่ต้องการที่จะยอมรับผลการรัฐประหารในปี๒๐๑๔ ที่เกิดขึ้นในเคียฟ… สงครามเริ่มต้นขึ้นกับพวกเขาและดำเนินต่อไปเป็นเวลาถึง ๘ ปี ภารกิจของกองทัพของเรา และกองกำลังติดอาวุธดอนบาสส์ (Donbass militias) เกิดขึ้นเพื่อการยุติสงครามนั้น เพื่อปกป้องประชาชน แน่นอน เพื่อปกป้องรัสเซียเองด้วย เพราะวงล้อมที่ต่อต้านรัสเซียได้เริ่มก่อตัวขึ้นในดินแดนของยูเครนในปัจจุบัน ที่คุกคามประเทศของเรา ดังนั้น ทหารกล้าของเราที่กำลังต่อสู้อยู่ วันนี้กำลังปกป้องทั้งชาวดอนบาสส์และรัสเซียเอง”
ปธน.ให้ความสำคัญในการสื่อสารกับประชาชนของตน ให้เข้าใจอย่างถูกต้องในภารกิจปลดปล่อยประชาชนดอนบาสส์ ท่ามกลางการโหมโฆษณาชวนเชื่อของฝ่ายตะวันตกที่บิดเบือนใส่ร้ายอย่างเป็นกระบวนการ
ด้านการศึก เซอร์เกย์ ชอยกู รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมของรัสเซีย เปิดเผยเมื่อวันศุกร์ที่ ๒ ก.ย.ที่ผ่านมาว่า กองทัพยูเครนได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการพยายามยึดคืนดินแดนที่กองกำลังรัสเซียยึดครองก่อนหน้านี้ทางตอนใต้ของยูเครน
ชอยกู กล่าวว่า “ ความพยายามของกองทัพยูเครนในการรุกดำเนินต่อไปในเขตนิโคเลียฟ-คริโวรอสสก์(Nikolaev-Krivorozsk) และทิศทางอื่น ๆ ซึ่งศัตรูประสบกับความสูญเสียจำนวนมากต้องถอยร่นอย่างน่าอนาถ” เขายังกล่าวว่า “สำนักงานของปธน. เซเลนสกี้วางแผนการรุกและสั่งการเพื่อสร้างภาพลวงตาต่อหน้าผู้สนับสนุนตะวันตกว่ากองทัพยูเครนสามารถดำเนินการโจมตีได้ ซึ่งไม่เป็นความจริง”
ชอยกูรายงานว่ากองกำลังรัสเซียเข้ายึดหมู่บ้านในภูมิภาคเคอร์ซอนและยาวไปถึงพรมแดนด้านการบริหารของภูมิภาคนิโคเลียฟ ทำลายกองกำลังยูเครน หน่วยคราเคนและ ทหารรับจ้างต่างชาติ ตลอดจนอาวุธยุทโธปกรณ์เพียบ
นอกจากนี้ยังได้รายงานผลการขัดขวางการโจตีของยูเครนที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาโปริชเชีย โดยกองกำลังยูเครนได้เปิดฉากโจมตีในเมืองเอเนอร์โกดาร์ (Energodar) ซึ่งเป็นพื้นที่ที่รัสเซียยึดครอง หลังเที่ยงคืนของวันเสาร์สมาชิกฝ่ายบริหารของกองทัพ-พลเรือนของยูเครน- วลาดิมีร์ โรกอฟ ยืนยันเป็นฝ่ายถล่มพื้นที่บริเวณโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาโปริชเชีย
กองทัพรัสเซียรายงานว่า กลุ่มก่อวินาศกรรมหลายกลุ่มใช้เรือเร็วอย่างน้อย ๑๕ ลำเพื่อพยายามข้ามอ่างเก็บน้ำ คาคอฟกา(Kakhovka) เพื่อเข้าจู่โจมเมืองเอเนอร์โกดาร์(Energodar)ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฯ และเมืองใกล้เคียงของวาซิเลียฟกา (Vasilyevka) และดเนปโปรพรุดนอย (Dneproprudnoye)
เรือเร็วหลายลำที่เคลื่อนออกจากชายฝั่งอ่างเก็บน้ำที่ยูเครนควบคุมอยู่เกิดขึ้นราวๆ เที่ยงคืน ซึ่งสอดคล้องกับการยิงถล่มไปที่เมืองเอเนอร์โกดาร์ หลังจากได้รับการยืนยันข้อมูลเกี่ยวกับฝูงเรือ กองกำลังรัสเซียใช้เฮลิคอปเตอร์โจมตี เคเอ-๕๒ (Ka-52) และขับไล่กลุ่มโจมตีสำเร็จ
กระทรวงกลาโหมรัสเซียแจงว่าจะเปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการสู้รบในไม่ช้านี้ แต่ในโซเชียลแพร่รายละเอียดกันไว้อย่างอื้ออึงว่า
ยูเครนส่งหน่วยคอมมานโด ๓๘๔ นายที่ไปทำลายหรือยึดโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาโปริชเชียและถูกกองทัพรัสเซียกวาดล้างเกือบหมด เหลือไม่กี่คนซึ่งรัสเซียกำลังไล่ล่าเป็นหน่วยคราเคน ที่เปลี่ยนชื่อจากกองพันอาซอฟที่พ่ายแพ้ในสมรภูมิมาริอูปอล ระบุว่า มีนายทหารอังกฤษ โปแลนด์และอเมริกาอยู่ด้วย โดยทหารคอมมานโดอังกฤษถูกสังหารไป ๘ นาย ส่วนทหารอเมริกัน โปแลนด์และชาติอื่นๆ ยังไม่ทราบจำนวนแน่ชัด
ขณะที่ฝั่ง รัฐบาลยูเครนได้จัดพิธีการไว้อาลัยกองพลน้อยทหารราบที่ ๑๒๘ ซึ่งมีกำลังพลไม่น้อยกว่า ๓,๐๐๐ ถึง ๕,๐๐๐ นายและทำหน้าที่เป็นหัวโจกในการบุกเข้าไปในกับดักที่รัสเซียวางเอาไว้ที่เมืองเคอร์ซัน ทำให้กองทัพยูเครนตายไปไม่ซึ่งข่าวรายงานช่วงแรก ๑,๒๐๐ คนภายในวันแรกวันเดียว หลังจากนั้นยังไม่รายงาน กองทัพยูเครนต้องแตกกระเจิงล่าถอยไปอย่างไม่เป็นท่า
สรุปภาพรวมการตอบโต้ของเคียฟ บุกเพื่อยืดสงครามยูเครนออกไป รบทีไรก็ยังคงแพ้ยับ แต่ไม่ยอมวางมือเพราะเบื้องลึกสหรัฐยังไม่ยอมจบศึก แม้ว่าฝ่ายตะวันตกเริ่มอ่อนแรง และแตกคอทั้งนาโต้และอียู แต่เมื่อสหรัฐบ่ายหน้าสู่อินโด-แปซิฟิก บริวารก็แห่กันไปกดดันจีนอย่างดุเดือดทางด้านการทหาร นั่นหมายถึงสหรัฐปักหมุดเอเย่นสงครามได้ ทั้งในยุโรปและเอเชีย-แปซิฟิก มีแต่ว่าจุดไหนจะมือลั่นก่อนกัน ซึ่งการสงครามทั้งภูมิภาคยุโรป และเอเชียไม่มีใครได้ผลประโยชน์เท่าสหรัฐอเมริกาที่ถนัดสงครามนอกบ้าน พร้อมตักตวงผลประโยชน์ท่ามกลางความพินาศของบริวารและศัตรูคู่แข่ง!???