หลังจากรัสเซียเริ่มทยอยตัดก๊าซไปยังสหภาพยุโรป ก็ทำให้ประชากรในยุโรปเริ่มประสบกับความลำบากมากขึ้น บางประเทศต้องงดการอาบน้ำอุ่นในหน้าหนาว และต้องตุนฝืนเพื่อจุดไฟเองด้วย ขณะที่ผู้นำบางประเทศ เมื่อไม่สามารถจะใช้ก๊าซจากรัสเซียได้ ก็ย่อมมองหาก๊าซของแหล่งอื่น ๆ มาทดแทนให้พ้นความยากลำบากไปก่อน แม้จะมีผู้เชี่ยวชาญมองว่า ยุโรปจะต้องเผชิญกับความหนาวเหน็บไปอีกหลายฤดูกาล
ล่าสุดไฟแนนเชียลไทมส์ (FT) ได้รายงานว่า ประเทศในสหภาพยุโรปได้เพิ่มปริมาณการกักตุนก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ส่วนเกินจากจีน รายงานข่าวดังกล่าว ระบุว่า จีนซึ่งเป็นผู้ซื้อ LNG รายใหญ่ที่สุดของโลก ขายต่อ LNG ส่วนเกินที่เกิดจากอุปสงค์ในประเทศที่อ่อนแอจากนโยบายปลอดโควิด ปริมาณมหาศาลให้กับชาติยุโรป
ในขณะที่สหภาพยุโรปต้องจำใจซื้อ LNG ของจีนแม้ว่าจะมีราคาแพงกว่าก็ตาม เพื่อกักตุนพลังงานให้เพียงพอสำหรับฤดูหนาว หลังจากที่รัสเซียลดส่งก๊าซให้ยุโรป โดย JOVO Group ผู้ค้า LNG ของจีนเพิ่งเปิดเผยว่าบริษัทได้ขายต่อ LNG ให้กับผู้ซื้อในยุโรป ในขณะที่ Sinopec Group ซึ่งเป็นบริษัทกลั่นน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของจีน รายงานผลประกอบการเมื่อเดือนเมษายนผ่านมา โดยระบุว่า บริษัทมีการขาย LNG ส่วนเกินในตลาดต่างประเทศ
ปริมาณ LNG ที่จีนขายต่อในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2022 น่าจะเกิน 4 ล้านตัน หรือราว 7% ของการนำเข้า LNG ทั้งหมดของยุโรป ในขณะที่ข้อมูลของบริษัทวิจัย Kpler ระบุว่า ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2022 ยุโรปนำเข้า LNG เพิ่มขึ้นราว 60% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์จากไฟแนนเชียลไทมส์ เตือนว่าสหภาพยุโรปจะพึ่งพาก๊าซ LNG จากจีนได้อีกไม่นาน เนื่องจาก หลังจากที่ทางการจีนคลายมาตรการล็อคดาวน์ กิจกรรมทางเศรษฐกิจของประเทศจะกลับมาคึกคักอีกครั้ง ซึ่งจะส่งผลให้ความต้องการพลังงานปริมาณมหาศาลกลับคืนมาด้วย และจีนจะไม่มีอุปทานส่วนเกินให้ขายอีกต่อไป